เอาใจคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพ อาหารการกินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้นด้วย Hopping List คาเฟ่และร้านอาหารในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยผ่านหลากหลายเมนูสุดคลีนที่คัดสรรวัตถุดิบ ส่วนผสมต่าง ๆ ซึ่งดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น Acai Smoothie อาหารมังสวิรัติ อาหารออร์แกนิก ฯลฯ ใครที่กำลังมองหาสิ่งเหล่านี้ BKK ขออาสาพาไปปักหมุด 10 คาเฟ่และร้านอาหารต่อไปนี้ ที่รับรองว่าสายเฮลท์ตี้จะต้องเลิฟแน่นอน
A Lot of Love หนึ่งในร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ซ่อนตัวอยู่ในชั้น LG ของโครงการ Eight Thonglor มาพร้อมบรรยากาศน่ารัก ๆ สบาย ๆ และอบอุ่นเป็นกันเอง พร้อมจะทักทายเหล่าผู้มาเยือนตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไปในร้าน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อยากให้ที่นี่เป็นร้านแห่งความรัก สามารถแฮงก์เอาท์กันได้ในบรรยากาศสบาย สะอาด และอบอุ่นเหมือนทานอาหารที่บ้าน ได้ดูแลตัวเองไปพร้อมกันด้วยอาหารเพื่อสุขภาพ ที่เราใส่ใจทั้งในเรื่องวัตถุดิบที่สดใหม่และขั้นตอนที่ผ่านการปรุงให้น้อยที่สุด ที่สำคัญคือ ที่นี่ใช้น้ำมันมะกอก และไม่ใส่ผงชูรสทุกเมนู”
FULL REVIEWจากความฝันของเจ้าของร้านที่อยู่ในวงการสุขภาพมายาวนาน ร่วมกับเพื่อนคุณหมอตรวจโรคหัวใจและเชฟมากประสบการณ์ได้ออกแบบเมนูที่ทั้งอร่อยและยังมีประโยชน์เพื่อสุขภาพให้ทุกคนได้ลองทานกัน สำหรับใครที่มาแล้ว ลองเริ่มสั่งเมนูทานเล่นที่ใคร ๆ ชิมแล้วติดใจอย่าง บร็อคโคลี่ ฟลิตเตอร์ (160 บาท) ทางร้านนำบร็อคโคลี่ลวกมาสับหยาบ ๆ ก่อนจะนำไปคลุกกับชีสและนำมา pan-fry เล็กน้อย เสิร์ฟมาคู่กับโยเกิร์ตซอส จานนี้ให้รสเบา ๆ ทานเล่นได้เพลิน ๆ เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ต่อด้วยเมนู ลาบคีนัวฟองเต้าหู้ (220 บาท) อีกหนึ่งเมนูเพื่อสุขภาพแต่รสชาติจัดจ้านเอาใจคนไทย ทางร้านนำ Super Food อย่างควินัวที่ให้แคลอรีต่ำ แต่มากด้วยคุณประโยชน์ มาปรุงด้วยรสลาบแบบไทย ๆ เพิ่มหลากหลายสมุนไพรสับ ก่อนจะยัดใส่ในฟองเต้าหู้ เป็นอีกเมนูสุขภาพสำหรับชาว Vegan
หรือจะเป็น คีนัวยำปักษ์ใต้ (220 บาท) ที่ได้สูตรมาจากจังหวัดยะลา รสชาติแบบปักษ์ใต้แท้ ๆ แต่แคลอรีต่ำด้วยการใช้ควินัวแทนข้าว จานนี้ผ่านกระบวนการปรุงน้อยที่สุด แถมยังมีส่วนประกอบของผักและสมุนไพรหลากหลายชนิด จึงมั่นใจได้เลยว่านอกจากจะได้รสชาติอร่อยเข้มข้นแล้วยังได้สุขภาพดีอีกด้วย
A Lot of Love
Eight Thonglor ถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ)
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น.
โทร. 0-2021-4972
www.facebook.com/alotoflove.thonglor
ในกลุ่มของคนรักสุขภาพ คุณเมย์-ศวิตา เศรษฐาภรณ์ เจ้าของร้าน Acai Story ผู้จุดประกายความคิดโดยการนำ Acai พืชตระกูลปาล์มจากแถบประเทศบราซิลและเปรูที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Superfood ลำดับต้น ๆ ของโลกมาใช้เป็นส่วนผสมหลักของขนมในร้าน โดยทุกเมนูของที่นี่ล้วนแต่เป็นเมนูโฮมเมดและชูรสชาติของแต่ละจานด้วยความเข้มข้นของ Acai และความหวานตามธรรมชาติของผลไม้แต่ละชนิด อาทิ Acai Smoothie (215 บาท) สมูทตี้ที่ไม่ผสมไซรัปและน้ำแข็งให้สัมผัสรสครีมมี่คล้ายไอศกรีม ได้รสชาติเข้มข้นของผล Acai
หรือจะลอง The Unicorn Bowl (215 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่รวบรวมผลไม้นานาชนิดที่ให้ความสดชื่นไว้ในถ้วยเดียว
Acai Story
The Emquartier ชั้น B
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.30 น.
โทร. 098-859-8747
www.facebook.com/AcaiStoryBKK
Oh Vacoda Café คาเฟ่สำหรับคนรักสุขภาพในซอยอารีย์สัมพันธ์ 4 ที่เกิดจากความตั้งใจและหลงรักในรสชาติอะโวคาโด ของคุณ เพียงพลอย-รุจิยาทร โชคสิริวรรณ และ คุณบอม-วัชรพงษ์ ทองยาน เจ้าของร้าน ที่อยากเปลี่ยนทัศนคติของคนที่ไม่ชอบอะโวคาโดให้หันมาทานผลไม้ที่กินดีมีประโยชน์ ผ่านเมนูที่ทั้งสองท่านได้ครีเอทและทดลองออกมาเป็นเมนูเจ๋ง ๆ ให้ลองทาน
FULL REVIEWตัวร้านตั้งอยู่หัวมุมซอย โดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งสีชมพูพีชสดใสสไตล์บีชฝั่งแคลิฟอร์เนีย - ไมอามีในยุค 60's - 70's ส่วนด้านในถูกเติมแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สานวินเทจ หนังสือ ของเล่นเก่าสะสม และภาพประกอบเก๋ ๆ บนผนัง
การทานอะโวคาโดแบบเดิม ๆ จะเปลี่ยนไป เมื่อทุกเมนูภายในร้านถูกสร้างสรรค์รสชาติของอะโวคาโดให้ทานง่าย ได้คุณประโยชน์อย่างครบถ้วน เช่น การคิดค้นเครื่องดื่มพิเศษที่ดื่มง่ายและดีต่อสุขภาพอย่าง Avoothie (150 บาท) สมูทตี้อะโวคาโดที่ได้จากอะโวคาโดหนึ่งลูกครึ่ง นำมาปั่นโดยไม่ผสมน้ำหรือนมใด ๆ จนเนื้อเนียนข้น และนำไปแช่เย็นก่อนให้ได้ความสดชื่น รสหวานมัน
ตามมาด้วย Mocado (Hot 130 / Iced 140 บาท) กาแฟมอคค่าเย็นที่ผสมอะโวคาโดกับช็อกโกแลตออกมาเป็นรสชาติเข้มข้นลงตัว
และ Avocado Honey Lemon (155 บาท) เนื้อเค้กเนียนนุ่มที่สอดไส้อะโวคาโด ให้ทุกคำที่ทานสัมผัสเนื้ออะโวคาโดชิ้นโต พร้อมรสชาติน้ำผึ้งอ่อน ๆ ช่วยให้อะโวคาโดไม่ขมแต่หวานนุ่มละมุนลิ้น
Oh Vacoda Café
ซอยอารีย์สัมพันธ์ 4 เขตพญาไท
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
โทร. 090-986-4779
www.facebook.com/ohvacodabkk
Le Root คาเฟ่ออร์แกนิกน่ารัก ๆ ที่ตั้งอยู่ภายใน KU Avenue มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาพร้อมความอร่อยของหลากหลายเมนูสุดเฮลท์ตี้ ที่นี่โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ของการเป็นศูนย์รวมอาหาร เบเกอรี่ เครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ทุกคนแวะมาฝากท้องได้ทุกมื้อ เป็นส่วนหนึ่งที่จะมาสร้างไลฟ์สไตล์คนเมืองใหม่ผ่านการเลือกทานอาหารคลีน อาหารแนวเฮลท์ตี้ และอาหารออร์แกนิกที่ครีเอทหน้าตาน่าทาน มีรสชาติอาหารที่ทานได้ง่ายขึ้น โดยไม่เพียงแต่เสิร์ฟความอร่อยให้เฉพาะกลุ่มคนที่ทานคลีนเท่านั้น แต่ยังเชิญชวนให้ทุกคนหันมาดูแลตัวเอง เพื่อสุขภาพดีที่ยั่งยืน
อาหารสุขภาพของ Le Root แตกต่างจากที่อื่น ๆ เพราะมีการแบ่งหมวดหมู่สินค้าอย่างชัดเจน ออกเป็น 6 ประเภทหลัก ๆ คือ All Organic สินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบออร์แกนิกแท้ 100%, Seriously Raw อาหารที่ผ่านความร้อนน้อย คงคุณค่าของสารอาหารไว้อย่างครบถ้วน, Vegan Hardcore หมวดที่เหมาะสำหรับคนทานมังสวิรัติแบบจริงจัง, Low Cal เบเกอรี่-อาหารที่มีแคลอรีต่ำ เอาใจคนที่อยากลดน้ำหนักโดยเฉพาะ, Healthy หมวดอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของนมหรือ Non-Dairy และ Dairy & Meat เมนูต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของนมและเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย ต้องการสร้างกล้ามเนื้อเป็นพิเศษ
เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด รองท้องแบบเบา ๆ กันด้วย Superfood Ball (ชิ้นละ 35 บาท) ขนมทานเล่นระหว่างวันแต่ให้คุณประโยชน์ที่สูงมาก ภายในเซ็ตประกอบไปด้วย Ferrero Ball, Coconut Bliss Ball และ Cranberry Cacao Ball
ส่วนใครที่ชอบทานสลัด ต้องลองสั่ง Soul Bowl (95 บาท) สลัดหนึ่งถ้วยที่รวมคุณค่าทางอาหารของธัญพืชและผักออร์แกนิก ทั้งควินัว บีทรูท อะโวคาโด แครนเบอร์รี มะเขือเทศ ธัญพืช และอินทผาลัมไว้ในหนึ่งเดียว คลุกเคล้าด้วยน้ำสลัดงาคั่วน้ำมันมะกอกออร์แกนิกเห็ดทรัฟเฟิล และครีมจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์สูตรเด็ดของร้าน
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่เรียกคืนความสดชื่นได้เป็นอย่างดีกับ Organic Sparkling Pomegranate (105 บาท) น้ำทับทิม (USDA Organic) Sparkling ที่ใช้น้ำแร่ตรา Mangiatorella จากประเทศอิตาลีมาเป็นส่วนผสมหลักแทนโซดาทั่วไป ให้ทั้งความซ่า ความสดชื่น ผสานกับความหอมและรสเปรี้ยวอมหวานของน้ำทับทิมออร์แกนิกแท้ 100%
Le Root (KU Avenue)
KU Avenue มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ประตูทางเข้าที่ 3 ฝั่งถนนงามวงศ์วาน)
50 ซอยจักรพันธุ์ เขตจตุจักร
เปิด วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.30-20.30 น.
วันอาทิตย์ เวลา 11.30-20.30 น.
โทร. 090-887-7222
www.facebook.com/Le-Root-เลอรูท-สาขา-KU-avenue-งามวงศ์วาน-1957368811000603
Parfait Society คาเฟ่สุดชิคสไตล์ Glass House ใจกลางย่านทองหล่อ ที่เน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูเพื่อสุขภาพ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Co-Healthy Space ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น
นอกจากจะเป็นคาเฟ่ที่ส่งต่อความเฮลท์ตี้ด้วยเมนูเครื่องดื่มและอาหารบริเวณโซน Parfait Bar แล้วที่นี่ยังมีโซนจำหน่ายเสื้อผ้าออกกำลังกาย ชุดว่ายน้ำ เครื่องแต่งกาย-สินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย อยู่ในบริเวณโซน Active Wear และ Parfait Vaca. รวมถึงผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก เพื่อคนรักสุขภาพอีกด้วย
Parfait Society ครีเอทเมนูต่าง ๆ ด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ได้แก่ เมนู Acai Smoothie เครื่องดื่ม Cold Pressed ไปจนถึงสารพัดเมนู Healthy อื่น ๆ อีกมากมาย เริ่มต้นด้วยเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Acai Signature (245 บาท) Acai Smoothie ที่อัดแน่นด้วยคุณประโยชน์จากผลไม้สด ธัญพืชนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาซาอีเบอร์รี โกจิเบอร์รี สตรอเบอร์รี กล้วย เมล็ดเจีย กราโนล่า เป็นต้น ในหนึ่งถ้วยได้ทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ และอีกหลายคุณประโยชน์ที่ช่วยเพิ่มการย่อยอาหาร ลดน้ำหนัก ด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วสดชื่น ช่วยให้อิ่มท้อง
ตามมาด้วย Cold Pressed Juice (149 บาท) ผลไม้อัดแน่นเต็มขวด 100% ไม่ผสมน้ำและสารกันบูด คุณค่าทางอาหารครบถ้วน เพราะทางร้านใช้เครื่องแยกกากที่สามารถกักเก็บเอนไซม์ได้ มั่นใจได้เลยว่าได้ประโยชน์ทุกหยดแน่นอน โดยมีให้เลือกดื่ม 2 สูตร 2 รสชาติ ระหว่าง Detox Cleansing ขวดสีเขียวที่สกัดจากน้ำผักใบเขียว ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และ Skin Delight ขวดสีส้มที่อุดมไปด้วยวิตามินซีจากผลไม้ตระกูลซีตรัส ช่วยในเรื่องผิวพรรณ ให้ดูกระจ่างใสสุขภาพดี
Parfait Society
ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เขตวัฒนา
เปิด วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-19.30 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-19.30 น.
โทร. 0-2185-2673
www.facebook.com/parfaitsociety
Summer Bowl คาเฟ่สไตล์ฮาวายโดยคุณจีน ผู้หลงใหลใน Smoothie Bowl เป็นชีวิตจิตใจ จากความชื่นชอบของตัวเอง จึงกลายเป็นคาเฟ่ในย่านทองหล่อที่เสิร์ฟเมนูสุขภาพจากผลไม้หลากหลายชนิด ซึ่งความพิเศษคือทุกเมนูจะไม่ใส่น้ำตาล
ทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนู Smoothie Bowl เป็นหลัก โดยเนื้อสมูทตี้จะทำมาจาก Acai เบอร์รี่จากทางตอนใต้ของอเมริกา กล้วยหอม และเบอร์รี่ปั่นรวมกันจนเนื้อเนียน สเต็ปแรกทางร้านจะให้เราเลือกเมนูที่ชอบ จากนั้นเลือกผลไม้เพิ่มได้ 1 อย่าง ตามด้วยการเลือกรสชาติกราโนลา และหากยังไม่จุใจ สามารถเพิ่มท็อปปิ้งต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ มาถึงเมนูที่ทางร้านแนะนำคือ Summer Bowl (R:220 บาท / L: 360 บาท) สมูทตี้ที่ท็อปด้วยอาซาอี กล้วยหอม กราโนล่า เมล็ดเชีย และมะพร้าวแห้ง เป็นเมนูที่ทานง่าย คอเลสเตอรอลต่ำ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
ต่อด้วย Waikiki (R: 260 บาท / L: 400 บาท) สมูทตี้ที่ท็อปด้วย Acai มะม่วง เสาวรส กล้วยหอม โยเกิร์ตรสมะพร้าว มะพร้าวแห้ง และกราโนล่า เมนูที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์ ทานแล้วคลายร้อนได้ดี
นอกจาก Smoothie Bowl ที่แนะนำไปแล้ว ทางร้านยังมีเครื่องดื่มสุขภาพให้ได้ลองกันอีกด้วย ลองสั่ง Sunrise (120 บาท) เครื่องดื่ม Cold Preesed ที่มีส่วนผสมของส้ม แครอท แอปเปิ้ลฟูจิ และฝรั่ง เป็นเมนูที่ดื่มง่าย ช่วยให้อิ่มท้อง เหมาะสำหรับคนที่อยากอาหารบ่อย ๆ
Summer Bowl
261 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เขตวัฒนา
เปิด วันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 09.00-19.00 น.
วันศุกร์ เวลา 09.00-19.30 น.
วันเสาร์ เวลา 10.00-20.00 น.
วันอาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.
โทร. 089-894-2646
www.facebook.com/summerbowl.bkk
Smooth & Simple คาเฟ่น้องใหม่ล่าสุดสำหรับคนรักสุขภาพที่เปิดให้บริการแถบย่านสำโรงในลักษณะของบ้านสีขาว เรียบง่ายและดูสะอาดตาสอดคล้องกับเมนูสุดคลีน ชวนให้พักผ่อนหย่อนใจไปกับการทานอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเสียเหลือเกิน
คาเฟ่แห่งนี้เกิดจากแนวคิดของ คุณอุ้ย-สุวิทย์ แย้มชื่นจิตนุกูล และ คุณเบิร์ด-ธีรภพ มั่นเจริญ ที่ต้องการทำให้พื้นที่นี้เป็นที่ชาร์จพลังจากการผ่อนคลายไปกับสิ่งที่เรียบง่าย ธรรมดา แต่มอบความสุขความสบายใจกลับไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบรรยากาศรอบ ๆ ร้าน ซึ่งดีไซน์มุมต่าง ๆ โดยใช้คู่สีขาว-ดำ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่เข้ากับภาพประกอบงานศิลปะ อาจเรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่ที่รวมเรื่องของอาหารและงานศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน
ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม ที่นี่เน้นเสิร์ฟเมนู Smoothie Bowl วาฟเฟิล และน้ำผลไม้คั้นสด ที่ล้วนคัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติมาครีเอทเป็นเมนูโฮมเมดแสนอร่อยทั้งสิ้น แนะนำให้ลองทาน Green Passion Simple Bowl (200 บาท) Smoothie Bowl ที่เบสรสชาติด้วยผงสาหร่ายสไปลูลินา ผักโขม เสาวรส กล้วย และนมสด ท็อปด้วยกีวี เสาวรส โกจิเบอร์รี่ เมล็ดเซีย และเกสรผึ้ง ชามนี้ช่วยล้างสารพิษในร่างกายและบำรุงสมองอีกด้วย ถูกใจคนชอบทานผักแน่นอน
หรือจะเป็น Wholewheat Lava Waffle (180 บาท) แป้งวาฟเฟิลที่ทำมาจากโฮลวีท ธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพ รสชาติกลมกล่อม ทานคู่กับผลไม้หลากชนิด ไอศกรีมวานิลลา กราโนล่า และลาวาครีมชีสปั่นกับนม ก็อร่อยไม่แพ้กัน
Smooth & Simple
83/548 หมู่บ้านทิพวัล ซอย 13
เปิด วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-20.00 น.
โทร. 065-504-9696
www.facebook.com/smoothandsimplecafe
The Hass Bistro คาเฟ่คอนเซ็ปต์สุดเก๋สำหรับคนรักสุขภาพ เพราะที่นี่นำอะโวคาโดมาครีเอทเป็นหลากหลายเมนูทานง่าย เอาใจสายเฮลท์ตี้และสายฟู้ดดี้โดยเฉพาะ ซึ่งชื่อ The Hass นั้นมาจากชื่อสายพันธุ์อะโวคาโดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของร้านนั้นเป็นหนึ่งในบริษัทนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศรายใหญ่ของไทย ทำให้สามารถนำเข้าผลไม้และอะโวคาโดคุณภาพดีได้อย่างสม่ำเสมอ
ทางร้านเลือกใช้อะโวคาโดพันธุ์ Hass จากประเทศนิวซีแลนด์นำมาครีเอทเป็นหลากหลายเมนูน่าทานอย่าง Spycy Salmon Salad (295 บาท) สลัดยำแซลมอน ผัดสดคลุกเคล้ากับน้ำยำรสแซ่บท็อปด้วยแซลมอนหั่นเต๋าเบิร์นไฟ เสิร์ฟในอะโวคาโดหั่นสไลด์เป็นวงกลมสวย
และพลาดไม่ได้กับ Avoburger Served with French Fries (335 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่ใช้อะโวคาโดทั้งผลซ้อนด้วยชีส เนื้อไก่และผัก เสิร์ฟกับเฟรนซ์ฟรายส์และซอสศรีราชามาโย
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานอย่าง Avocado Cheese Cake ith Avocado Sauce (250 บาท) ชีสเค้กอะโวคาโดเนื้อเนียนเสิร์ฟคู่กับซอสอะโวคาโดรสเปรี้ยวและผลไม้สด
The Hass Bistro
ซอยสุขุมวิท 49 เขตวัฒนา
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-10.00 น.
โทร. 099-192-9626
www.facebook.com/thehassbistro
จากร้าน Umenohana ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่เน้นเมนูเต้าหูและเนื้อปูเป็นหลักสู่การแตกไลน์ธุรกิจให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้นในชื่อแบรนด์ Umeno Cafe ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเฮลท์ตี้ด้วยเมนูจากเต้าหู้ที่นำมาดัดแปลงและเพิ่มเติมเมนูให้หลากหลาย สามารถทานได้ง่ายขึ้น
สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ มีทั้งเมนูยอดนิยมจากร้าน Umenohana ที่นำมาปรับใหม่ให้ทานง่ายขึ้น รวมถึงเมนูที่ถูกสร้างสรรค์ใหม่ โดยยังคงคอนเซ็ปต์สไตล์เฮลท์ตี้เอาไว้ ทำให้แต่ละเมนูไม่หนักเกินไป เริ่มต้นที่เมนู D.I.Y Yuba (220 บาท) ชุดทำฟองเต้าหู้สด หนึ่งในเมนูขายดีที่จะทำให้ทุกคนได้สนุกกับการทำฟองเต้าหู้เอง แนะนำให้ทานคู่กับซอสโชยุ งา และผิวส้มยูสุ
หรือใครที่ชอบทานข้าวแกงกะหรี่ลองสั่ง Tofu Katsu Curry Rice (220 บาท) ข้าวแกงกะหรี่เต้าหู้คัตสึที่ใช้เต้าหู้ชุบแป้งและเกล็ดขนมปังทอดแทนเนื้อสัตว์ท็อปบนข้าวและแกงกะหรี่รสเข้มที่ใส่ผักมาเน้น ๆ
ปิดท้ายด้วยของหวานน่าทานอย่าง Tonyu Custard Kuromitsu (85 บาท) คัสตาร์ดเต้าหู้นุ่ม ๆ ทานคู่กับซอสน้ำตาลทรายแดงและวิปครีม
Umeno Cafe
ชั้น B Silom Complex เขตบางรัก
เปิดทุกวัน เวลา 10.30-22.00 น.
โทร. 0-2231-3168, 065-506-1685
www.facebook.com/umenocafe
หากขับรถเลียบไปยังถนนคลองโยง แถวพุทธมณฑลไปเรื่อย ๆ จะพบกับร้าน สุข กิน ได้ ร้านอาหารออร์แกนิกหลังใหญ่ที่โดดเด่นด้วยตึกระแนงไม้สีเข้มดีไซน์แปลกตา รายล้อมด้วยต้นไม้นานาชนิด สร้างความร่มรื่นชวนให้แวะเข้าไปสัมผัสบรรยากาศด้านใน
เมนูต่าง ๆ ใช้ผลผลิตจากฟาร์มและปรุงโดยแม่ครัวประจำบ้านอย่าง คุณแม่ส้มฉุน ที่รักในการทำอาหาร และมักจะมีเพื่อนของลูก ๆ แวะเวียนมาฝากท้องอยู่เสมอ คุณแม่ปรุงอาหารด้วยความพิถีพิถันและตั้งใจลงในทุกเมนู ทั้งคุณภาพและใส่ใจในแต่ละรายละเอียด เสิร์ฟลงบนจานอย่างเรียบง่าย เหมือนการสร้างสรรค์งานศิลปะชิ้นหนึ่ง
เริ่มที่เมนูแรก สลัดร็อกเก็ต (189 บาท) เมนูสุขภาพที่เลือกใช้ Wild Rocket ผักออร์แกนิกสดจากฟาร์มมาปรุงอาหาร ท็อปด้วยพาร์เมซานชีส และเบคอนกรุบกรอบเคี้ยวเพลิน
กรีนคอสสมูทตี้ (99 บาท) เมนูน้ำผักขายดีประจำร้าน ที่ได้ส่วนผสมหลักมาจากผักคอสผสมกับกีวี่ เพื่อเพิ่มความหวานแบบธรรมชาติ ทางร้านเลือกใช้น้ำผึ้งมาช่วยเพิ่มรสชาติกลมกล่อมและหอมหวานไปในคราวเดียวกัน
และปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง มัลเบอร์รีชีสพาย (115 บาท) ขนมหวานที่ให้รสชาติหวานกำลังดีด้วยครีมชีสรสนุ่มและวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ จัดแต่งจานด้วยผลมัลเบอร์รีราดซอสได้อย่างน่าทาน
สุข กิน ได้
พุทธมณฑล นครปฐม
เปิด วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-20.00 น.
โทร. 062-323-9619
www.facebook.com/sukkindai2018
โอ้กะจู๋ ฟาร์มผักออร์แกนิกชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่จากความตั้งใจของ คุณโจ้ จิรายุทธ, คุณอู๋ ชลากร เอกชัยพัฒนากุล และ คุณต้อง วรเดช สุชัยบุญศิริ สามหนุ่มผู้ก่อตั้งฟาร์มที่ต้องการให้คนไทยได้หันมาทานผักปลอดสารพิษเพื่อดูแลสุขภาพกันมากขึ้นในคอนเซ็ปต์ "อาหารที่ปลูกด้วยความรัก สดจากฟาร์มส่งถึงคุณ”
โดยขยายสาขาที่ 3 มาที่สยามสแควร์ให้คนเมืองได้ทานอาหารออร์แกนิกดี ๆ และไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่
เมนูส่วนใหญ่ที่ทางร้านเสิร์ฟมักจะเป็นสลัดผักออร์แกนิกจานโตแต่ก็ยังมีเมนูที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกเช่นกันลองสั่ง สเต๊กปลากะพงย่างครัสท์สมุนไพร (375 บาท) สเต๊กปลากะพงชิ้นใหญ่แล่เนื้อแล้วย่างด้วยไฟอ่อน เสิร์ฟพร้อมผักสมุนไพรช่วยดับคาวปลาได้อย่างดี
หรือจะลอง สลัดแซลมอนโอเมก้า 3 และเต้าหู้ย่าง (285 บาท) สลัดแซลมอนส่งตรงจากนอร์เวย์และมูสลี่ นำไปอบโดยปราศจากเนยและน้ำมัน อบให้พอสุกกำลังดีทานคู่กับเต้าหู้ย่าง ธัญพืช ผักออร์แกนิก เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดงาขาวงาดำและวอลนัท
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่ช่วยทั้งสุขภาพ และให้ความสดชื่นอย่าง Three Orange and Orang Things (185 บาท) น้ำส้ม 3 ชนิด ได้แก่ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มเขียวหวานและส้มแมนดารินผสมรวมกันให้ทั้งรสเปรี้ยวอมหวานผสานกับคุณค่าของวิตามินซี เสิร์ฟแบบ Jar Juice เหยือกขนาดใหญ่สามารถแบ่งทานได้ 3-4 คน
โอ้กะจู๋ (สยามสแควร์)
สยามสแควร์ซอย 7
เปิดทุกวัน เวลา 10.30-21.30 น.
โทร. 063-093-8388
www.facebook.com/ohkajhu