ชวนเหล่าฟู้ดดี้อาหารญี่ปุ่นไปเปิดประสบการณ์การทานโอมากาเสะชั้นเลิศสุดพรีเมียมกับ 10 ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ BKK. รวบรวมมาให้ไปเลือกทานกัน ผ่านการรังสรรค์ความอร่อยโดยเหล่าเชฟมากฝีมือทั้งหลาย ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาทำเป็นซูชิให้ได้ลิ้มลองกันแบบไม่ต้องบินไกลไปทานถึงแดนอาทิตย์อุทัย ส่วนจะเป็นร้านไหน และแต่ละคอร์สเมนูอาหารมีความพิเศษอย่างไรบ้างนั้น ตามไปพิสูจน์ความอร่อยพร้อม ๆ กันเลย
สัมผัสความพรีเมียมกันที่แรกกับ MASA - Otaru Masazushi ร้านซูชิเก่าแก่ชื่อดังที่อยู่คู่เมืองโอตารุมายาวนานกว่า 80 ปี เป็นหนึ่งในร้านซูชิขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะไปทานกัน ก่อนจะขยายความอร่อยมาเปิดให้บริการที่เมืองไทย ณ ICONSIAM บริเวณชั้น 4 โซน Rose Dining ฝั่ง Siam Takashimaya ให้คนรักอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะ Sushi Lover ได้ตามไปสัมผัสความอร่อยด้วยตัวเองแบบไม่ต้องบินไกลไปทานถึงฮอกไกโด
สำหรับบรรยากาศภายในร้าน จำลองบรรยากาศเมืองโอตารุ ที่หยิบยกสไตล์การตกแต่ง ของที่ขึ้นชื่อ ไปจนถึงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของเมืองท่าที่ติดกับทะเลมาถ่ายทอดให้คนทานอาหารได้สัมผัสความเป็นเมืองโอตารุอย่างแท้จริง ทางร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือ โซนเคาน์เตอร์บาร์หรือซูชิบาร์ จำนวน 10 ที่นั่ง สามารถมองเห็นการรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ของเชฟ ที่พร้อมเสิร์ฟให้ได้ทานแบบคำต่อคำ และ โซน Private Room หรือห้องทานอาหารสุดส่วนตัวดีไซน์สุดหรู จำนวน 6 ที่นั่ง ที่เหมาะสำหรับมานั่งทานกันแบบเฉพาะกลุ่ม
สาขานี้จะเสิร์ฟแบบ Original ตามสูตรต้นตำรับของเมืองโอตารุ ที่มีทั้งคอร์สซูชิหลากหลายแบบและโอมากาเสะในสไตล์ของ ‘Ezo Mae’ ซึ่งเน้นความเรียบง่ายและความสดใหม่ของเนื้อปลา ได้รสชาติอย่างเป็นธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่งจนรสชาติของวัตถุดิบต้องผิดเพี้ยนไปกว่าที่ควรเป็น แต่ยังคงความอร่อยให้ผู้ที่มาทานได้อิ่มฟินไปกับวัตถุดิบคุณภาพที่ส่งตรงมาจากฮอกไกโด ส่วนคอร์สโอมากาเสะมีให้เลือกทาน 2 แบบ แบบที่ 1 คือ OMAKASE Course (6,000++ บาท ต่อคน) ที่เสิร์ฟเมนูพิเศษทั้งหมด 10 คำ พร้อมด้วยเมนู Appetizer เมนูซุป และเมนูของหวานปิดท้าย ส่วนแบบที่ 2 คือ Mini OMAKASE Course (4,000++ บาท ต่อคน) ที่เสิร์ฟเมนูพิเศษทั้งหมด 6 คำ ส่วนใครที่ไม่ต้องการทานแบบเป็นคอร์ส สามารถสั่งทานแบบเป็น Lunch Set หรือ Dinner Set และเมนู A La Carte ที่จะมีการเปลี่ยนวัตถุดิบหรือเมนูไปตามฤดูกาล
ในส่วนของเมนูไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือ IKA-Somen เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็นการดัดแปลงทำเส้นโซเมนด้วยเนื้อปลาหมึก ที่เชฟได้ทำการสไลซ์เป็นเส้นบาง ๆ ให้มีลักษณะคล้ายกันกับเส้นโซเมน เวลาเสิร์ฟจะท็อปด้านบนมาด้วยไข่หอยเม่นที่รองมาด้วยใบโอบะ แล้วโรยด้วยโนริสาหร่ายกรอบ ๆ เวลาทานคล้ายกันกับการทานบะหมี่เย็น ซึ่งไข่หอยเม่นจะให้รสมันกลมกล่อม เข้ากันดีกับความหนุบหนับของเนื้อปลาหมึกสด ๆ
MASA - Otaru Masazushi
ICONSIAM, ชั้น 4 โซน Rose Dining ฝั่ง Siam Takashimaya
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-15.00 น. และ 17.00-22.00 น.
โทร. 0-2005-3800
www.masazushi.co.th/th
www.facebook.com/otarumasazushith
ใครที่คุ้นเคยกับการทานซูชิรูปแบบโอมากาเสะแบบเดิม ๆ ลองเปลี่ยนมาทานเมนูเทมปุระในรูปแบบโอมากาเสะกันบ้างกับ Ginza Tenharu ที่ได้มาเปิดสาขาในกรุงเทพฯ เพื่อมอบประสบการณ์การทานเทมปุระด้วยวัตถุดิบชั้นดีส่งตรงจากญี่ปุ่นแบบวันต่อวันโดยเชฟชาวญี่ปุ่นมากประสบการณ์
FULL REVIEWภายในร้านถูกตกแต่งภายใต้แรงบันดาลใจจากร้านน้ำชาญี่ปุ่นโบราณ คงความเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์และไม้สีอ่อนเพื่อให้บรรยากาศที่อบอุ่น ภายในร้านมีที่นั่งทั้งหมด 12 ที่ ล้อมครัวเปิดที่จัดวางตู้กระจกใสสำหรับกระทะทอดเทมปุระ
ทุกเมนูของที่นี่ ถูกปรุงอย่างพิถีพิถันจากฝีมือของเชฟมากประสบการณ์ชาวญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่คัดสรรวัตถุชั้นดีจากตลาดซึกิจิที่ถูกส่งมาแบบวันต่อวัน จนไปถึงการเลือกใช้แป้งเทมปุระที่ทำจากแป้งสาลีคัดพิเศษ และใช้น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันที่มีคุณสมบัติลดคลอเลสเตอรอล
สำหรับเมนูของทางร้านจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล มีรูปแบบคอร์สทั้งสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ โดยทุกคอร์สจะเริ่มจาก Seasonal Appetizer ที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และตามด้วยเมนูเทมปุระอย่าง Tiger Prawn ที่เลือกใช้กุ้งลายเสือไซส์พอดี ๆ ชุบกับแป้ง ก่อนจะใช้แปรงปัดแป้งส่วนเกินออกและนำลงไปทอดในกระทะ จนได้กุ้งที่กรอบนอกแต่ยังคงความเด้งด้านใน ก่อนจะทยอยเสิร์ฟเมนูที่ทำจากวัตถุดิบพรีเมียมชนิดอื่น ๆ อย่าง Sea Urchin ไข่หอยเม่น, เมนูปลาชุบแป้งเทมปุระทอดกรอบ, เทมปุระเนื้อวากิวระดับ A5 แล้วปิดท้ายด้วยขนมหวาน โมจิไอศกรีมชาเชียว เนื้อแป้งนุ่ม รสเข้มข้น
Ginza Tenharu
3/F, Gaysorn Village, 999 ถนนเพลินจิต
เปิด วันอังคาร-วันเสาร์ เวลา 12.00-14.30 น. และ 18.00-23.00 น.
วันอาทิตย์ เวลา 12.00-14.30 น. และ 18.00-22.00 น.
โทร. 0-2070-0014
www.ginza-tenharu.jp
www.facebook.com/ginzatenharubkk
อีกหนึ่งร้านที่แนะนำคือ Kuon No Tsuki ร้าน Omakase สไตล์ Kappou เสิร์ฟอาหารทั้งครัวร้อนและครัวเย็น ในแต่ละคอร์สประกอบไปด้วยวัตถุดิบหลากหลายแบบจากญี่ปุ่น ให้ได้เพลิดเพลินกับเมนูตรงหน้าได้ไม่มีเบื่อ และที่สำคัญยังคงพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ดูแลตั้งแต่วัตถุดิบและเมนู ทั้งหมด ภายในร้านจะได้พบกับบาร์โอมากาเสะที่ทำจากไม้ฮิโนกิ ไม้สนญี่ปุ่นที่มีกลิ่นหอมในเนื้อไม้ ตกแต่งในสีเอิร์ธโทน มีทั้งหมด 12 ที่นั่ง สำหรับรองรับลูกค้าแต่ละรอบที่เข้ามาทาน
ทางร้านมีคอร์สโอมากาเสะให้บริการทั้งหมด 2 ช่วงเวลา ช่วงแรก คือ มื้อกลางวัน เวลา 12.00 - 15.00 น. Lunch Course (3,500 บาท) โอมากาเสะมื้อกลางวัน 12 คอร์ส รวมถึงของทานเล่นและขนมหวาน ช่วงที่สอง คือ มื้อเย็น เวลา 18.00 - 22.00 น. โดย Dinner Course มี 2 ราคา ได้แก่ Omakase Sushi Course (4,000 บาท) โอมากาเสะมื้อเย็น 12++ คอร์ส รวมถึงของทานเล่นและขนมหวาน และ Omakase Course (6,500 บาท) โอมากาเสะสไตล์ Kappou มื้อเย็น 14++ คอร์ส รวมถึงของทานเล่นและขนมหวานอีกเช่นเดียวกัน หากไม่ทานเนื้อหรือมีวัตถุดิบที่ไม่ชอบ หรือแพ้อาหารชนิดใด สามารถแจ้งกับทางร้านได้ โดยแต่ละครั้งที่ไปทาน ทางร้านจะบันทึกข้อมูลการทานอาหารของลูกค้า เพื่อปรับเปลี่ยนเมนูให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และไม่ให้เสิร์ฟเมนูซ้ำกันเมื่อมาทานครั้งต่อไป
Kuon No Tsuki
9/10 ถนนสุขุมวิท 63 ซอยธนาอาเขต
เปิด วันอังคาร-วันศุกร์, วันอาทิตย์ เวลา 12.00-15.00 น. และ 18.00-22.00 น.
วันเสาร์ เวลา 12.00-15.30 น. และ 18.00-22.00 น.
โทร. 08-3265-9878
www.facebook.com/KappouKuonnoTsuki
Sandaime Bangkok ร้านโอมากาเสะซูชิที่ส่งตรงความสดใหม่จากตลาดปลาซึกิจิ เสิร์ฟความอร่อยตามต้นตำรับญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ต้องห้ามพลาดกันเลยทีเดียว โดยมีต้นกำเนิดมาจากตลาดปลาซึกิจิ ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยครอบครัวนักค้าปลารุ่นที่ 3 ผู้มีแพชชั่นในการทำอาหาร จึงนำเอาลำดับรุ่นรวมกับธุรกิจของครอบครัวเปิดเป็นร้านแห่งนี้ขึ้นมา
ทางร้านเน้นเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นในสไตล์ Edomae หรือสไตล์ Traditional ที่เสิร์ฟซูชิ ซาชิมิแบบต้นตำรับ แน่นอนว่ามีความแตกต่างทั้งในลักษณะการปั้น และรูปแบบการเสิร์ฟ ที่ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีโดย เชฟชาวญี่ปุ่นผู้มากประสบการณ์ในการทำซูชิ ได้รสชาติที่เป็นมาตรฐาน การันตีในเรื่องความสดใหม่ของของวัตถุดิบทุกชนิดที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นตามฤดูกาล เพราะฉะนั้นคอร์สโอมากาเสะของทางร้านจึงค่อนข้างมีความหลากหลายด้วยชนิดของเนื้อปลาที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ
ปัจจุบันมีให้เลือกทาน 3 คอร์สหลัก ๆ ซึ่งช่วงกลางวันจะเริ่มต้นที่ราคา 1,800 บาท และ 2,600 บาทเท่านั้น ช่วงเย็นจะเริ่มต้นที่ราคา 3,300 บาท โดยราคาทั้งหมดนี้จะขึ้นอยู่กับชนิดของปลาและจำนวนอาหารว่างภายในเซ็ต สำหรับคอร์สโอมากาเสะที่ทางร้านแนะนำคือ Sandaime Omakase (4,200 บาท) ภายในเซ็ตจะประกอบไปด้วย เมนู Appetizer ต่าง ๆ เมนูซาชิมิ เมนูซูชิ 8 คำ ตามมาด้วยน้ำซุป และเมนูของหวาน
Sandaime Bangkok
Compass Skyview Hotel, 12 ซอยสุขุมวิท 24
เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.00 น. และ 17.30-22.00 น.
โทร. 0-2011-1102, 06-3224-1693
www.sandaimebkk.com
www.facebook.com/Sandaimebkk
สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองทานคอร์สโอมากาเสะ หนึ่งในร้านที่อยากให้มาลองทานก็คือ Sushi Cyu ที่นำเสนออาหารญี่ปุ่นคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ พื้นที่ร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรกเป็นโซนโอมากาเสะโดยเฉพาะ รองรับที่นั่งได้ 14 ที่นั่ง ถูกตกแต่งให้ดูเรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่น ใช้สีขาวและไม้สีอ่อนเป็นหลัก ทำให้ห้องดูกว้างไม่อึดอัด เพิ่มสีสันด้วยผนังกระเบื้องแฮนด์เมดสีฟ้าน้ำทะเลที่สื่อถึงท้องทะเล สามารถนั่งมองเชฟทำซูชิสด ๆ และทานซูชิที่เสิร์ฟให้ทานจากมือเชฟได้เลย
ทางร้านได้เชฟชาวญี่ปุ่นมากประสบการณ์มาเป็นผู้ดูแลเมนูซูชิให้ โดยคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีนำเข้าจากญี่ปุ่นเป็นหลัก เพื่อสร้างประสบการณ์การทานโอมากาเสะของที่นี่ให้น่าประทับใจ ที่นี่จะเริ่มต้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยคอร์ส Omakase Nigiri (10 ชิ้น ราคา 1,950 บาท) โดยแต่ละคำจะเสิร์ฟเรียงจากซูชิที่ความมันน้อยไปมาก ก่อนจะตามด้วย Season Special OMAKASE Course คอร์สโอมากาเสะที่เลือกเสิร์ฟเมนูต่าง ๆ จากวัตถุดิบพรีเมียมตามฤดูกาล
Sushi Cyu (CentralWorld)
ชั้น 3 CentralWorld ถนนพระราม 1
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
โทร. 08-5145-1722
www.sushicyu.com
www.facebook.com/sushicyubangkok
ลิ้มรสความอร่อยของโอมากาเสะซูชิจากรสมือเชฟที่สืบทอดสูตรระดับตำนานอย่าง Sushi Sugita มาโดยตรงแบบไม่ต้องบินไปทานไกลถึงประเทศญี่ปุ่น เพียงแวะมาที่ Sushi Ichizu หนึ่งในลิสต์ร้านโอมากาเสะบนย่านสุขุมวิทแห่งนี้ก็สัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมการทานซูชิแบบดั้งเดิมที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน ที่นี่มาพร้อมสไตล์การตกแต่งแบบ Zen ที่แบ่งออกเป็น 2 ห้องหลัก ๆ ได้แก่ บริเวณโซนโต๊ะกลมสำหรับมาทานกันเป็นกลุ่มพร้อมจิบเครื่องดื่ม และโซนซูชิบาร์ที่เปิดให้นั่งทานแบบเห็นทุกขั้นตอนการทำซูชิของเชฟพร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนทานแบบคำต่อคำ
FULL REVIEWร้าน Sushi Ichizu ได้สืบทอดวัฒธรรมดั้งเดิมในการปั้นซูชิแบบเอโดมาเอะ (Edomae) มาจากเชฟมากฝีมือ ให้คุณภาพของร้านเท่าเทียมกับร้านซูชิที่ญี่ปุ่น ใช้วัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงทุกวันจากตลาดปลา Tsukiji ที่คัดมาเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพดีที่เทียบเท่ากับร้านโอมากาเสะในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
สำหรับการเสิร์ฟแบบเป็นคอร์สของทางร้าน แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ Omakase Course (8,000++ บาท) โดยจะเสิร์ฟซูชิประมาณ 16 คำขึ้นไป (รวมของว่างและของหวาน) และ Nigiri Course (4,000++ บาท) ที่เสิร์ฟซูชิเพียง 12-14 คำ (รวมของว่างและของหวาน) ในส่วนของ Omakase Course หลากหลายเมนูภายในคอร์สประกอบด้วย สลัดตามฤดูกาล ตามมาด้วยเนื้อปลาพรีเมียมชนิดต่าง ๆ ที่ผ่านกรรมวิธีปรุงรสชาติอย่างพิถีพิถัน พ่วงด้วยวัตถุดิบคุณภาพที่ทางร้านคัดสรรมาให้ได้ทานกันโดยเฉพาะ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง Warabi Mochi แป้งโมจิที่ทำจากพืช 100 เปอร์เซ็นต์ ปั้นเสิร์ฟให้ทานกันสด ๆ ให้เนื้อสัมผัสนุ่ม เคี้ยวหนึบหนับ เสิร์ฟมาพร้อมชาโฮจิฉะร้อน ๆ
Sushi Ichizu
สุขุมวิท 39 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
เปิด วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 17.30-20.00 น. และ 20.30-22.00 น.
โทร. 06-5738-9999
www.sushiichizu.com
www.facebook.com/sushiichizu
มาถึงคิวของ Kappou กับรูปแบบร้านอาหารที่ผสมผสาน Omakase กับรูปแบบอาหารแบบ Fine Dining ซึ่งที่ Sushi Kappou Kitaohji แห่งนี้ ได้นำเสนอเมนูอาหารที่ไม่จำกัดเฉพาะแค่ซูชิ แต่ยังรวมถึงเมนูนึ่ง ย่าง หรือชาบู เข้าไปผสมในเมนูด้วยเพื่อความหลากหลาย เหมาะสำหรับใครที่อยากอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมียมจากเชฟมีฝีมือที่ไม่ต้องการจำกัดตัวเองด้วยซูชิเพียงประเภทเดียว
FULL REVIEWเมนูของที่นี่จะถูกเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยมีราคา (4,500 บาท ++ สำหรับ 10 คอร์ส) วัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้าจากญี่ปุ่นและต่างประเทศ ทุกเมนูผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจากเชฟชาวญี่ปุ่นเพื่อให้ได้รสชาติสไตล์ต้นตำรับ ก่อนจะเริ่มคอร์ส ทางร้านจะเสิร์ฟน้ำซุปร้อน ๆ จากปลาแห้งมากูโร่ เพื่อเป็นการอุ่นท้อง
Sushi Kappou Kitaohji
41 ซอยสุขุมวิท 39 (เวิ้ง 39 Boulevard)
เปิด วันอังคาร-วันเสาร์ เวลา 18.00-20.00 น. และ 20.00-22.00 น.
โทร. 0-2160-0308
www.facebook.com/sushikappou.kitaohji
Sushi Niwa ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบโอมากาเสะโดยฝีมือคนไทยที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง Kouen Sushi Bar ซึ่งเชื่อว่าฝีมือการทำซูชิของคนไทยก็ไม่แพ้ที่อื่นเช่นกัน ใส่ใจในทุกรายละเอียดโดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบตัวร้าน บรรยากาศร้าน ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าจะประทับใจให้กับทุกคนที่มาที่นี่ เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณร้าน จะพบกับกลาสเฮ้าส์ที่เป็นส่วนของโซนบาร์เป็นอันดับแรก โดยทางร้านต้องการให้คนที่แวะมาทานอาหารสามารถนั่งจิบเครื่องดื่มกันต่อได้ และถ้าเดินต่อมาที่บริเวณโซนร้านอาหาร จะพบกับโต๊ะตัวยาวที่ออกแบบให้สามารถนั่งรอก่อนจะเข้าไปในบริเวณซูชิบาร์ได้
สำหรับคอร์สซูชิจะมีทั้งแบบ 12 คำ (ราคา 4,900 บาท++) และ 16 คำ (ราคา 6,500 บาท++) โดยวันอังคารถึงศุกร์ มีให้บริการ 2 รอบ คือ รอบ 17.30-20.00 น. และรอบ 20.30-22.30 น. วันเสาร์และอาทิตย์ จะเพิ่มรอบ 12.00 - 14.00 น. สิ่งสำคัญของการทำซูชิคือความสดใหม่ของวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ซึ่งที่นี่นำเข้าอาหารทะเลคุณภาพดีส่งตรงมาจากตลาดปลาซึกิจิ ประเทศญี่ปุ่น และวัตถุดิบหลากหลายชั้นดีจากทั่วโลก มาทำเป็นคอร์สเมนูซูชิโดยฝีมือเชฟไทยมากประสบการณ์เริ่มจากเมนูที่ทางร้านแนะนำ Mentaiko Sushi ข้าวต้มที่ต้มในน้ำซุปที่เคี่ยวจากชิ้นส่วนปลาเป็นเวลา 8 ชั่วโมง แล้วเพิ่มรสชาติด้วยเมนไทโกะ ต้นหอมญี่ปุ่นและส้มยูสุ
ต่อด้วยเมนู Kinmedai เนื้อปลา Kinmedai ที่นำไปย่างกับเตาถ่าน, Uni คุณภาพเยี่ยมจาก Hakate Hokkaido ได้ทั้งความสดและรสชาติที่นุ่มกลมกล่อม, Anago ซูชิปลาไหลทะเล และ Shiro Ebi Donburi ข้าวหน้ากุ้งหวานตัวเล็กจากญี่ปุ่น ท็อปด้วย Uni และคาเวียร์จากเยอรมัน โรยด้วยเกล็ดเกลือจากญี่ปุ่น ตกแต่งหน้าให้สวยงามด้วยดอกไม้สีชมพูสวย ปิดท้ายคอร์สนี้อย่างสมบูรณ์
Sushi Niwa
39/5 ซอยร่วมฤดี 2
เปิดทุกวัน เวลา 11.30-00.00 น. และ 17.30-00.00 น.
โทร. 06-3456-5656
www.sushiniwabangkok.com
www.facebook.com/SushiNiwaBangkok
Sushi Zo ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่เสิร์ฟในสไตล์ Omakase โดดเด่นในด้าน Ittaikan ซึ่งหมายถึงการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอาหารทะเล และข้าวซูชิ มีสาขาต้นกำเนิดอยู่ที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ได้รับการการันตีด้วยการคว้าดาวมิชลินมาครองถึง 2 ดวง บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยโทนสีที่ดูสบายตา การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน มาพร้อมความรู้สึกอบอุ่น และเงียบสงบ มีที่นั่งรับรองหน้าบาร์เพียง 12 ที่เท่านั้น สามารถมองเห็นเชฟค่อย ๆ บรรจงเตรียมอาหารทีละเมนูแทบทุกขั้นตอน
FULL REVIEWเมนูที่เสิร์ฟในสไตล์ Omakase ของทางร้านได้เซฟโทชิ โอนิชิ ศิษย์เอกมือหนึ่งของเซฟเซกิ มาเป็นผู้ดูแล โดยจะเสิร์ฟเป็นคอร์สเริ่มต้นที่ 18 คำ ในราคาเริ่มต้นที่ 7,000 บาท++ คัดสรรวัตถุดิบนำเข้าที่ดีที่สุดตามฤดูกาล แต่ละคำนั้นแทบจะไม่ผ่านการปรุงแต่งเพื่อคงรสชาติตามธรรมชาติเอาไว้ให้มากที่สุด และเพื่อความสมบูรณ์แบบตามวิถีญี่ปุ่นดั้งเดิม เชฟจึงได้ให้ความสำคัญกับข้าวซูชิเป็นอย่างมาก
Sushi Zo
ชั้น G พลาซ่า แอทธินี ทาวเวอร์
เปิดทุกวัน เวลา 18.00-17.30 น. และ 20.00-21.30 น.
โทร. 0-2168-8490
www.sushizobangkok.com
www.facebook.com/sushizothailand
ปิดท้ายความอร่อยกันที่ Yuzu Omakase ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือของ Yuzu Ramen Thailand ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์การนำผิวส้มยูซุมาเติมเต็มให้มีรสชาติโดดเด่น เพื่อที่ทุกคนจะได้มาสัมผัสความพรีเมียมนี้ผ่านวัตถุดิบคุณภาพส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่ใส่ใจทุกขั้นตอนการทำโดยทีมเชฟผู้ชำนาญด้านโอมากาเสะหลายสิบปี
FULL REVIEWในส่วนของบรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกเหมือนว่ากำลังเดินอยู่ในย่านโอซาก้า ตั้งแต่การตกแต่งป้ายแมว Luckyamen ขนาดใหญ่ด้านหน้าร้าน จนไปถึงการออกแบบที่เลือกใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก ตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์ Contemporary ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นเข้ากับยุคสมัยใหม่ โดยมีทั้งหมด 16 ที่นั่ง แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
ทางร้านมี 4 คอร์สให้เลือก ได้แก่ Omakase Course 2,500 บาท (เฉพาะมื้อกลางวัน) / Omakase Course 4,500 บาท / Omakase Course 6,500 บาท และ The Experience 9,500 บาท โดยวัตถุดิบจะส่งตรงจากญี่ปุ่นทุกวัน และเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ดูแลโดยทีมเชฟผู้มากประสบการณ์ที่ยินดีอธิบายแหล่งที่มาของวัตถุดิบขณะนำเสิร์ฟอย่างเป็นกันเอง สำหรับคอร์สที่แนะนำของทางร้าน แน่นอนว่าต้องเป็นคอร์ส The Experience (9,500 บาท) มีทั้งหมด 15-18 คอร์ส ประกอบไปด้วยซูชิ 11 คำ ซุป 1 ถ้วย, เค้กไข่หวาน, ขนมหวานซิกเนเจอร์, ไข่หอยเม่น, หอยเป๋าฮื้อ, คาเวียร์ และวัตถุดิบพรีเมียมอีกมากมาย
Yuzu Omakase
สยามสแควร์ ซอย 3
เปิด วันอังคาร-วันพฤหัสบดี, วันอาทิตย์ เวลา 12.00-13.30 น. และ 18.00-20.00 น.
วันศุกร์ เวลา 12.00-13.30 น.
วันเสาร์ เวลา 12.00-14.00 น.
โทร. 06-3898-8989
www.facebook.com/yuzuomakase