สัมผัสอารยธรรมตะวันออกกลางผ่านกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของ Marvis แบรนด์ยาสีฟันพรีเมียมจากประเทศอิตาลี กับกลิ่น Karakum หนึ่ง ใน Collection กลิ่นการเดินทาง Wonders of the World ที่จะพาทุกคนไปดื่มด่ำความสุข โดยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านการท่องเที่ยวทวีปเก่าแก่ อย่างกลุ่มประเทศแถบอาหรับ เปอร์เซีย มองโกเลีย อินเดีย โมร็อกโค เป็นต้น สู่การดีไซน์กลิ่นหอม Aromatic ที่เพิ่มความสดชื่นด้วยมินต์ชั้นดี น้ำส้มรสชาติหอมหวาน และเครื่องเทศหายากอย่าง Cardamom หรือกระวานเทศ ชวนให้นึกถึงทริปบรรยากาศของอีกฝั่งซีกโลก เป็นการผสมผสานกลิ่นและรสชาติที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
หากอยากสัมผัสความรู้สึกพิเศษหรืออยากรู้ว่ายาสีฟันกลิ่น Karakum เป็นอย่างไร กลิ่นอายตะวันออกกลางจะเป็นแบบไหน BKK ขออาสาพาออกเดินทาง เที่ยวไทยเหนือจรดใต้ แนะนำที่ที่ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในเส้นทาง Karakum ให้ทุกคนได้ตามไปสัมผัสด้วยตัวเองแบบไม่ต้องบินไกลไปถึงถิ่นต้นกำเนิด
Hotel
เริ่มต้นการเดินทางอันแสนพิเศษด้วยสถานที่พักดีไซน์สวย โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์โมร็อกโคอย่าง The Grand Morocc Hotel โรงแรมน้องใหม่สุดหรูของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ-ปุย ภายในแม่สาวัลเล่ย์ อำเภอแม่ริมที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พร้อมสอดแทรกกลิ่นอายของต่างประเทศแถบตะวันออกกลางให้ผู้เข้าพักได้มาสัมผัสการพักผ่อนบรรยากาศใหม่ ๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้พบในเมืองไทย
ทันทีที่ก้าวเข้าไปภายใน The Grand Morocc Hotel ไม่ว่าจะเป็นโซนล็อบบี้หรือบริเวณสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ใจกลางโรงแรมก็ล้วนแต่ถูกออกแบบ ใส่รายละเอียดความเป็นของโมร็อกโคลงไปได้อย่างกลมกลืน ทั้งลวดลายของกระเบื้อง ผนังกำแพง เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง สิ่งละอันพันละน้อยอย่างตะเกียง เครื่องทองเหลือง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทางโรงแรมได้นำเอาความอลังการของปราสาทโมร็อกโค หนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักเดินทางทั่วโลก โดยมีการจำลองซุ้มประตู ลวดลายโค้งมนอันอ่อนช้อยแบบแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเมื่อมองลงไปด้านล่างก็จะเห็นสระว่ายน้ำที่ล้อมรอบด้วยห้องพักสไตล์โมร็อกโค เสมือนเป็นสระน้ำกลางปราสาทที่ยิ่งเสริมความอลังการไปอีกหลายเท่าตัว ทำให้ผู้ไปเยือนอดนึกถึงมนต์เสน่ห์อารยธรรมเก่าแก่ ดินแดนอันเป็นต้นกำเนิดหรือแรงบันดาลใจในการรังสรรค์กลิ่น Karakum ไม่ได้เลยทีเดียว
นอกจากห้องพักสุดหรูแล้ว ทางโรงแรมยังมีชุดสไตล์โมร็อกโคและอาหรับสวย ๆ หลากสีสัน ให้แขกผู้เข้าพักสวมใส่ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันฟรี ๆ อีกด้วย ใครที่อยากมาสัมผัสประสบการณ์การเข้าพักภายใต้บรรยากาศแปลกใหม่ ราวกับได้ไปเยือนสถานที่จริงของประเทศโมร็อกโคแบบนี้ ตามรอย BKK ไปเช็คอินกันได้ที่เชียงใหม่ได้เลย
The Grand Morocc Hotel
596/2 หมู่ 1 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
โทร. 0-5329-9835
www.grandmorocc.com
www.facebook.com/grandmorocc
www.instagram.com/grandmorocc
Cafes & Restaurant
ว่าด้วยเรื่องของอาหารการกินก็นับว่าเป็นส่วนสำคัญในการระลึกความทรงจำผ่านการลิ้มรสชาติแสนอร่อยที่คุ้นเคย ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นก็ยังเป็นการสร้างความทรงจำครั้งใหม่ ได้ละเลียดความสุขกับการลิ้มลองรสสัมผัสที่แปลกใหม่ ไปพร้อมกับการดื่มด่ำบรรยากาศที่ซ่อนความพิเศษเอาไว้ให้หลอมรวมเป็นช่วงเวลาดี ๆ ความประทับใจที่น่าจดจำอีกครั้ง
เมื่อต้องเอ่ยถึงสถานที่ทานอาหารบรรยากาศดีที่ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายของ Karakum มนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมตะวันออกกลางแล้วละก็ คงพลาดไม่ได้ที่จะพาทุกคนไปเช็คอินกันที่ Vieng Joom On Tea House คาเฟ่ร้านชาในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีการรวบรวมชาชั้นดีกว่า 60 ชนิด จากแหล่งปลูกชาที่มีชื่อเสียงทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟขนมเบเกอรี่โฮมเมดแสนอร่อยให้ได้ทานแกล้มชา ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ริมแม่น้ำปิง เพื่อซึบซับวัฒนธรรมจิบชา ซึ่งเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของชาวตะวันออกกลางเลยก็ว่าได้
‘เวียงจูมออน’ เป็นภาษาเหนือ โดยคำว่า ‘เวียง’ แปลว่า ‘นคร’ ส่วนคำว่า ‘จูมออน’ แปลว่า ‘สีชมพู’ เมื่อนำมารวมกันจึงกลายเป็น ‘นครสีชมพู’ ที่ทางเจ้าของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากการได้ไปเที่ยวเมืองชัยปุระ (นครสีชมพู) ประเทศอินเดีย ซึ่งนำเอาสถาปัตยกรรมของพระราชวัง และอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ที่ทาด้วยสีชมพู ประกอบกับความผูกพันด้านวิถีชีวิตการล้อมวงนั่งจิบชาของคนในครอบครัวเมื่อครั้งยังเด็ก จนกลายเป็นชื่อร้าน Vieng Joom On นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ภายในร้านตกแต่งแนวโมร็อกโคสีสันสดใส บริเวณหน้าร้านมีโซนจำหน่ายชาแบบต่าง ๆ รวมทั้งแก้วชา อุปกรณ์ชงชา พร้อมแพ็กเกจบรรจุภัณฑ์สวย ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อหรือดื่มที่ร้าน ส่วนบริเวณหลังร้านจะเป็นโซนนั่งดื่มชา มีมุมกระโจมให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ โต๊ะนั่งริมแม่น้ำปิงสุดร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะแก่การนั่งจิบชา ทานขนมชิลล์ ๆ
สำหรับเมนูเครื่องดื่มแนะนำที่คัดสรรมาให้ได้ตามไปลิ้มลอง ได้แก่ Vieng Joom On Tea ด้วยส่วนผสมกลิ่นอายความหอมของเครื่องเทศชั้นดี ลูกพลัม และกลีบกุหลาบที่ทางร้านนำมารวมกับชาดำคัดพิเศษจนกลายเป็น Signature Tea ชาดำสไตล์เวียงจูมออน กรุ่นกลิ่นหอมหวาน ดื่มแล้วรู้สึกผ่อนคลาย เช่นเดียวกันกับ Morocco Mojito โมฮิโต้ที่มีส่วนผสมของชาดำผสมสเปียร์มินต์สไตล์โมร็อกโค ให้กลิ่นหอมหวานสดชื่นของมินต์เย็น ๆ และ Orange Blossom Tea ชาดำสูตรพิเศษ ที่ปรุงแต่งด้วยส้มยูสุและ Pink Guava ตอกย้ำกลิ่นอายของอารยธรรมตะวันออกผ่านการเลือกใช้วัตถุดิบเฉพาะถิ่น คล้ายคลึงกับส่วนผสมที่อยู่ในกลิ่น Karakum รวมถึงการเข้าถึงหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมจิบชาตามอย่างวิถีชาวตะวันออกกลาง อย่างประเทศตุรกีหรือประเทศโมร็อกโค ดินแดนที่นิยมดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ มักตบท้ายมื้ออาหารด้วยการดื่มชาเสมอ จึงไม่แปลกนักที่เมื่อใครมาเยือนคาเฟ่แห่งนี้จะได้สัมผัสถึงกลิ่นอายของ Karakum เป็นพิเศษกว่าที่ไหน ๆ แน่นอน
เมนูเครื่องดื่มทั้งหมดนี้ หากจะสั่งมาทานคู่กับเมนูขนมอย่าง Banana Fillo ความกลมกล่อมของกล้วยหอมและช็อกโกแลตที่ห่อด้วยแป้งบางกรอบ เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลลาและน้ำผึ้งธรรมชาติ ก็เรียกว่าเป็นการเสริมรสชาติที่เข้ากันดีทีเดียว
Vieng Joom On Tea House
53 ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลวัดเกตุ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น.
โทร. 0-5330-3113
www.vjoteahouse.com
www.facebook.com/ViengJoomOn
หลังจากขึ้นเหนือกันไปแล้ว เปลี่ยนบรรยากาศไปล่องใต้ตามหามนต์เสน่ห์ของอารยธรรมตะวันออกกันต่อที่จังหวัดภูเก็ต โดยจุดหมายของของการไปเยือนครั้งนี้อยู่ที่ Torry’s Ice Cream ร้านไอศกรีมโฮมเมดแบบพรีเมียมแสนอร่อยใจกลางซอยรมณีย์ ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าภูเก็ต ซึ่งบรรยากาศภายนอกโดดเด่นด้วยตัวอาคารชิโนโปรตุกีสสีชมพูพาสเทล ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินเล่นชมตึกรามบ้านช่องที่ผสานวัฒนธรรมตะวันออกเข้ากับวัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างกลมกลืน
ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบงานสถาปัตยกรรม บรรยากาศวินเทจ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต รวมถึงคาเฟ่ไอศกรีมแห่งนี้นับเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ด้วยอาคารสไตล์เพอรานากันที่เรียงรายตามถนนสายเก่าคล้ายคลึงกับสถาปัตยกรรมต่างประเทศที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของหลากหลายวัฒนธรรม ผ่านดีเทลเล็ก ๆ อย่างขอบโค้งของหน้าต่าง ลายฉลุบนกำแพง หรือระเบียงกว้างบนชั้นสองที่แม้กาลเวลาจะผ่านไปก็ยังคงความสง่างามไว้ได้เช่นเดิม ส่วนบรรยากาศภายในร้านตกแต่งในสไตล์วินเทจ เน้นเครื่องทองเหลืองอย่างกาน้ำชา จานชามต่าง ๆ ที่ทางร้านเลือกหยิบนำมาใช้ ได้บรรยากาศของตะวันออกกลาง ถ่ายทอดความเป็นแขกมัวร์ วัฒนธรรมตะวันออกของทั้งทางฝั่งประเทศฟิลิปปินส์และฝั่งประเทศแถบอาหรับ ทำให้ผู้ที่ได้ก้าวเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ได้สัมผัสและชวนนึกถึง Karakum ได้เป็นอย่างดี
ด้านไอศกรีมโฮมเมดที่ทางร้านคิดค้นขึ้นนั้น คุณทอรี่ เจ้าของร้าน ตั้งใจทำออกมาในรูปแบบพรีเมียม ว่าไอศกรีมของทางร้านสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ด้วยรสชาติแบบธรรมชาติ มีหลากหลายรสชาติให้เลือกทาน ผสมรสชาติขนมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตให้ได้ลิ้มลอง รวมถึงไอศกรีมที่ผลิตจากวัตถุดิบต่าง ๆ ครีเอทรสชาติแปลกใหม่ให้ได้เลือกทานรวมกว่า 70 รสชาติ ขอแนะนำ Dragon Fruit Bowl (145 บาท) ไอศกรีมโฮมเมด 3 รสชาติที่เสิร์ฟเป็นสกู๊ปในแก้วมังกรทั้งลูก โดยสามารถเลือกไอศกรีมรสโปรดปรานได้ตามชอบ นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูชาหลายชนิด เช่น ชาอู่หลง ชาเขียว ชาเอิร์ลเกรย์ ชามินต์ และอื่น ๆ อีกมากมายให้ได้ดื่มควบคู่กันไปอีกด้วย
หากอยากลองทานไอศกรีมรูปแบบใหม่ที่ทานควบคู่กับของหวานประเภทต่าง ๆ ได้เข้ากันสุด ๆ แบบนี้ต้องแวะมาที่นี่ที่เดียว
Torry's Ice cream
ซอยรมณีย์ ถนนถลาง จังหวัดภูเก็ต
โทร. 09-4995-9496
เปิดทุกวันจันทร์ - พฤหัส เวลา 11.00 - 18.00 น. และวันศุกร์ - อาทิตย์ 11.00 - 21.30 น.
www.facebook.com/torrysicecream
เข้าถึงวัฒนธรรมการทานอาหารสไตล์ตะวันออกอย่างลึกซึ้ง อีกหนึ่งร้านอาหารแนะนำซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าคนไทยหรือชาวต่างชาติก็สามารถทานได้ เข้าถึงรสดั้งเดิมของแหล่งต้นกำเนิดได้ดีไม่มีผิดเพี้ยน นั่นก็คือ Akbar Restaurant ภัตตาคารอาหารอินเดียเก่าแก่เจ้าดังในย่านนานา ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 40 ปี เน้นเสิร์ฟอาหารแนวสตรีท สไตล์แคชเมียร์
ภายในเน้นการตกแต่งร้านในโทนสีทอง ดูหรูหราตามแบบพระราชวังอินเดีย บริเวณพื้นร้านปูด้วยพรมขนาดใหญ่ ได้บรรยากาศเหมือนได้นั่งทานอาหารกันที่ประเทศอินเดียจริง ๆ
มาถึงร้านอาหารอินเดียทั้งที ต้องไม่พลาดที่จะลิ้มลองซิกเนเจอร์เมนู อาหารต้นตำรับตามแบบฉบับท้องถิ่นของคนอินเดียที่เชื่อเหลือเกินว่าคนทานจะได้สัมผัสถึงความเป็น Karakum ผ่านเครื่องเทศ วัตถุดิบต่าง ๆ ที่ทางร้านคัดสรรไว้ สอดแทรกลงไปในแต่ละเมนูอย่างแน่นอน
เริ่มจาก Special Tandoori Mix เซ็ตเมนูอาหารท้องถิ่นของคนอินเดียที่รวมเนื้อสัตว์ประเภทต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน อาทิ เนื้อไก่ย่าง เนื้อปลาย่างที่หมักด้วยเครื่องเทศสูตรต้นตำรับของอินเดีย แล้วนำไปย่างบนเตาดินเผาโบราณ เสิร์ฟพร้อมชุดแกงกะหรี่ไก่ แกงถั่ว ข้าวหมกหญ้าฝรั่น ผัดฟักกระเจี๊ยบมอญ แป้งนาน รวมถึงเครื่องเคียงอย่างหอมแดงดองและน้ำจิ้มสะระแหน่ ตามมาด้วย Tea Masala ชามาซาลา หรือชานมผสมเครื่องเทศสไตล์อินเดีย แล้วปิดท้าย Gulab Jamun ขนมหวานเนื้อนุ่มลูกกลม ๆ ที่ทำจากแป้งและนมผงรสชาติหวานมัน เป็นอันปิดท้ายประสบการณ์ทานอาหารสไตล์ตะวันออกได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Akbar Restaurant
1/4 ซอยสุขุมวิท 3 ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา
เปิดทุกวัน เวลา 10.30-00.00 น.
โทร. 0-2255-6935
www.facebook.com/akbarthailand
Shop
ไม่เพียงแต่ในส่วนของสถานที่พัก คาเฟ่-ร้านอาหารเท่านั้นที่สามารถถ่ายทอดความเป็นวัฒนธรรมตะวันออกได้ชัดเจน แต่ยังรวมไปถึงแหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ส่งตรงมาจากประเทศต้นกำเนิดซึ่งมีส่วนทำให้เห็นภาพรวม ซึมซับมนต์เสน่ห์ของ Karakum ได้มากขึ้นอีกด้วย
อย่างสินค้าของแต่งบ้านประเภทพรมบริเวณย่านสุขุมวิท ใจกลางกรุงเทพฯ ก็นับเป็นแหล่งรวมช็อปจำหน่ายพรมสไตล์เปอร์เซียขนานแท้ที่ขึ้นชื่ออยู่ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือ Safa Carpet Gallery ร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของชาวเปอร์เซีย โดยเฉพาะพรมพื้นเมืองแบบต่าง ๆ ที่นำเข้าจากประเทศอิหร่าน
ภายในร้านมีหลากหลายโซนให้เลือกช้อป เลือกชม ในส่วนของพรมที่นี่ทั้งหมดมี 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ พรมขนแกะและพรมไหมแท้ นอกจากนี้ยังมีสินค้าสไตล์วินเทจ ไม่ว่าจะเป็นของตกแต่งบ้าน เครื่องทองแดง สินค้าแฮนด์เมด-งานเพนต์มือ งานไม้ กล่องใส่ของหลากหลายรูปแบบ
รวมถึงสินค้าไฮไลท์อย่าง ‘มีนา’ จานเปอร์เซียที่มีลวดลายวิจิตรงดงามอย่างเป็นเอกลักษณ์ ทำมาจากเครื่องทองแดงที่นำมาขึ้นลาย เพนต์สีด้วยมือ และภาพแกลเลอรีที่นี่ทำมาจากพรมขนแกะ บ้างก็ทอมืออย่างละเอียดและสกรีนเป็นลวดลายต่าง ๆ
เพียงแค่ก้าวเข้ามาร้านนี้ก็ได้บรรยากาศราวกับได้ไปเดินช้อปปิ้งที่ช็อปแถบประเทศตะวันออกกลางเชียวล่ะ
Safa Carpet Gallery
5 ซอยพร้อมศรี 1 สุขุมวิท 49 เขตวัฒนา
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น.
โทร. 0-2662-8471-2
www.safacarpetgallery.com
นับเป็นมิติใหม่ที่มาสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางจริง ๆ สำหรับการคิดค้น Collection สุดพิเศษ Wonders of the World ของแบรนด์ยาสีฟัน Marvis ที่สอดรับกับทุก ๆ สถานที่สุดไฮไลท์ในเมืองไทยที่ BKK ได้พาไปเยือน เพื่อซึมซับกลิ่น Karakum หนึ่งในกลิ่นและรสชาติของยาสีฟัน Collection นี้ ที่ทั้งเชื่อมโยงและสื่อความหมายของการเดินทางได้อย่างเต็มอารมณ์
นอกจากกลิ่นของ Karakum แล้ว ภายในธีม Wonders of the World ยังได้ถ่ายทอดเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวในแถบยุโรป ผ่านกลิ่น Royal และเกาะในเขตร้อนชื้นอย่างอเมริกาใต้ ผ่านกลิ่น Rambas ซึ่งทุกกลิ่นล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ต่างกันออกไป แต่คงไว้ด้วยความสดชื่นตามแบบฉบับของ Marvis พิเศษสุดทางแบรนด์ยังได้มีการจัดเซ็ตโปรโมชั่นราคาพิเศษ สำหรับยาสีฟันกลิ่น Karakum ขนาด 75 ml. ในราคา 350 บาท (จากปกติ 460 บาท) และเซ็ต 3 Flavours Box 25 ml. ยาสีฟันขนาดพกพาทั้ง 3 กลิ่นการเดินทางในราคา 600 บาท (จากปกติ 750 บาท) ให้ผู้ที่สนใจได้เลือกซื้อกันอีกด้วย
ใครที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์ ความสุนทรีย์ของการแปรงฟันที่ชวนให้นึกถึงทริปเดินทางแสนพิเศษแล้วละก็ ยาสีฟัน Marvis ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ทำให้บรรยากาศการแปรงฟันของคุณเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน สามารถเลือกใช้กลิ่นที่แตกต่างกันไปตามอารมณ์และความรู้สึกได้ตามต้องการ เพื่อสร้างความสุขเล็ก ๆ ช่วงเวลาดี ๆ ให้เกิดขึ้นง่าย ๆ ในแต่ละวัน มาร่วมค้นพบการเดินทางครั้งใหม่ในแบบตัวคุณกับ Collection กลิ่นการเดินทาง Wonders of the World (75 ml. เริ่มต้นที่ 460 บาท) ได้แล้ววันนี้ที่ Marvis Outlet Store ทุกสาขาทั่วประเทศ และ www.facebook.com/Marvis.th