ต้อนรับเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสำคัญเเห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่ตามความเชื่อของคนเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันมาเป็นเวลานาน หลาย ๆ ครอบครัวมักทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน บ้างก็พากันออกเดินทางท่องเที่ยว ไปไหว้พระขอพรจากเทพเจ้า พบปะเหล่าบรรดาญาติมิตร บ้างก็ออกไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนพ้อง เรียกว่าเป็นเทศกาลที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขตลอดทั้งสัปดาห์ และสำหรับปีนี้ BKK. ก็มีอะไรสนุก ๆ มาให้ทุกคนได้ลองเล่นต้อนรับเทศกาลตรุษจีนอีกเช่นเคยกับ 'เซียมซีเสี่ยงร้าน' 10 ร้านสไตล์จีนที่รวบรวมคาเฟ่ ร้านอาหาร และบาร์บรรยากาศจีนมาให้คุณได้ลองเสี่ยงทายว่า ตรุษจีนนี้พากันไปฉลองร้านไหนดี ให้เซียมซีทำนายกัน
กดที่รูปเพื่อเสี่ยงทาย แล้วไปดูกันว่าตรุษจีนนี้ไปไหนดี
(1) Hēijīi Bangkok (2) AMA Cafe (3) หน่ำเฮงหลี (4) เฮี๊ยะไถ่กี่ (5) Jong Dimsum
(6) Lhongtou (7) คนชง คนปรุง (8) Ninetails Bar and Booster (9) Rabbit Hill (10) Dim Dim
Cafes
คาเฟ่สุดฮิปเปิดใหม่สไตล์จีนอย่าง Hēijīi Bangkok ที่ตั้งอยู่ภายในซอยเจริญกรุง 43 เต็มไปด้วยบรรยากาศของกลิ่นอายชุมชนเก่าแก่ของคนไทยเชื้อสายจีน และหลากหลายเรื่องราวความทรงจำในวัยเด็กของผู้เป็นเจ้าของมาไว้ภายในร้าน ถ่ายทอดผ่านเมนูเครื่องดื่มและโฮมเมดเบเกอรี่ แบบผ่อนคลายพร้อมการต้อนรับอันแสนอบอุ่น
ตัวร้านออกแบบเป็นสไตล์จีนประยุกต์ที่ให้กลิ่นอายของความคลาสสิกทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นหลังคาทรงจีนโบราณ ประตูบานเฟี้ยมแบบห้องแถวชุมชนจีน เฟอร์นิเจอร์แนววินเทจ และผนังอิฐปูนเปลือยที่คงเอกลักษณ์โครงสร้างดั้งเดิมของตัวอาคารไว้ ดูดิบเท่ร่วมสมัยในสไตล์ลอฟต์ รวมทั้งเพดานสีเขียวไทยโทนที่คนสมัยก่อนนิยมใช้ก็ได้กลิ่นอายของชุมชนชาวจีนในอดีตไว้ได้อย่างครบถ้วน
Hēijīi Bangkok ยังเน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยสารพัดเมนูโฮมเมด ทั้งเมนูอาหารทานเล่น อาหารว่าง เมนูเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ และโฮมเมดเบเกอรี่ ขอแนะนำเมนูเครื่องดื่ม Hongkong Papaya Milk (85 บาท) นมมะละกอปั่นสดสูตรฮ่องกง ให้รสหวานอย่างเป็นธรรมชาติ เสิร์ฟมาในแก้วแบบ Take Away ที่ใช้กระดาษสีน้ำตาลสกรีนโลโก้รูปไก่ตราสัญลักษณ์ของคาเฟ่แทนฝาแก้วพลาสติกทั่วไป
และเมนูไฮไลต์อย่าง Financier with Kumquat Sauce (150 บาท) ขนมเค้กสไตล์ฝรั่งเศสขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่มีส่วนผสมของเนย ไข่ และอัลมอนด์กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาพร้อมกับแยมส้มจีนที่ทางร้านทำเอง โดยใช้ส้มจีนที่ปลูกไว้ด้านหน้าร้านมาทำเป็นวัตถุดิบหลัก ให้รสหวานอมเปรี้ยว และกลิ่นหอมสดชื่นของส้ม
Heijii Bangkok
ซอยเจริญกรุง 43
เปิดทุกวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 18.00 น.
โทร. 08-3466-8999
www.facebook.com/HĒIJīi-Bangkok-544155406029047
ตามมากันที่ AMA Cafe อีกหนึ่งคาเฟ่สไตล์จีนเปิดใหม่ย่านสำเพ็ง ที่ซ่อนตัวอยู่ในโฮสเทลย่านเมืองเก่า ลึกลับตั้งแต่ทางเข้าชวนให้คุณเข้าไปค้นหา ด้วยรูปแบบอาคารที่มีเอกลักษณ์และมีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี ถูกรีโนเวทให้เข้ากับยุคสมัยด้วยสไตล์การตกแต่งแบบจีนร่วมสมัยแตกต่างกันแต่ละชั้น
โซนคาเฟ่เปิดให้คนทั่วไปได้เข้ามาลิ้มรสความอร่อยของกาแฟ และเครื่องดื่มที่พิถีพิถันตั้งใจชงในทุก ๆ แก้ว รวมทั้งการตกแต่งที่สะท้อนกลิ่นอายความจีนเข้ากันกับโฮสเทล ให้ซึมซับบรรยากาศขณะนั่งจิบกาแฟได้อย่างดี ท่ามกลางเฟอร์นิเจอร์และลวดลายไม้บนประตูหน้าต่างไม้เก่า รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวสะพานหันที่โดยสารรถจักรยานยนต์ Vespa ผ่านไปมาอยู่เสมอ
เมนูที่แนะนำ ได้แก่ AMA Signature (120 บาท) เมนูพิเศษที่รวมความเข้มข้นทั้งมัทฉะ โกโก้ และซอสนมสูตรพิเศษของร้าน ผสมผสานกันอย่างลงตัว เป็นหนึ่งในเมนูรสชาติสุดเข้มข้นที่อาจจะกลายเป็นแก้วโปรดของใครสักคนหากได้ลิ้มลอง และ AMA Dirty (100 บาท) แก้วนี้เหมาะสำหรับใครที่อยากเติมคาเฟอีนให้ร่างกาย เพราะมีการรวมความเข้มข้นของกาแฟและนมสูตรพิเศษไว้ด้วยกัน
Ama Cafe
ซอยสะพานหัน ย่านสำเพ็ง
เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 17.30 น.
โทร. 085-867-7888 หรือ 02-221-0463
www.facebook.com/amahostelbangkok
Classic Cafes & Restaurants
ร้านหมายเลขสาม เลขสวยสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านกาแฟโบราณนั่งจิบร่วมกันแบบคลาสสิก ๆ หน่ำเฮงหลี ร้านกาแฟโบราณบรรยากาศอบอุ่นริมถนนจักรพรรดิพงษ์ พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารเช้าราคาสบายกระเป๋า ภายในร้านตกแต่งเรียบง่าย มีเพียงโต๊ะหินอ่อนเพียงไม่กี่โต๊ะ แต่สวยงามน่าถ่ายรูปในทุกมุมของร้าน ส่วนเมนูที่ร้านมีให้เลือกไม่มากนัก แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพในทุก ๆ เมนู หากได้ลองชิมรับรองว่าต้องติดใจความอร่อยในบรรยากาศนี้อย่างแน่นอน
แนะนำเป็นเมนูขายดีอย่าง ชุดขนมปังสังขยา (30 บาท) ขนมปังมีให้เลือกทั้งแบบนึ่งและแบบปิ้ง จุดเด่นอยู่ที่ตัวสังขยาสูตรโบราณที่เคี่ยวสดใหม่ทุกเช้า ให้รสชาตินุ่มนวลหวานกำลังดี แนะนำให้ทานตอนที่มาเสิร์ฟใหม่ ๆ จะทำให้อร่อยถูกใจมากยิ่งขึ้น หรือลองเมนูง่าย ๆ อย่าง ไข่ลวก (15 บาท) มาทานคู่กัน เมนูเครื่องดื่มแนะนำเป็น ชาเย็น (15 บาท) ชานมหอม ๆ ดื่มเพลิน ๆ เพราะรสชาติของที่นี่ไม่หวานมากจนเกินไป
หน่ำเฮงหลี
ถนนจักรพรรดิพงษ์
ร้านเปิดทุกวัน วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 06.00 - 16.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 06.00 - 12.00 น.
โทร. 0-2281-2134
ร้านหมายเลขสี่ แต่รับรองว่าไม่ซี้เพราะดวงดีได้ไปชิมความอร่อยที่ เฮี๊ยะไถ่กี่ ร้านกาแฟที่อยู่คู่แยกวิสุทธิกษัตริย์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 โดยสาขาวิสุทธิกษัตริย์นี้เป็นสาขาแรกของเฮี๊ยะไถ่กี่ และเป็นสาขาเดียวที่ไม่มีคำว่าโกปี๊นำหน้า บรรยากาศในร้านยังคงความคลาสสิกแบบดั้งเดิมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์รวมไปถึงของตกแต่งภายในร้าน
เมนูของทางร้านจะเป็นเมนูตามแบบสไตล์ร้านกาแฟโบราณ มีชุดอาหารเช้าให้เลือกมากมายถึง 6 แบบ พร้อมเมนูอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ สเต๊ก ข้าวต้ม และสลัด รวมไปถึงเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็นอีกหลายรายการ แนะนำเป็นชุดเมนูอาหารเช้าสุดคลาสสิกอย่าง ไข่กระทะและขนมปังสอดไส้ (85 บาท) ไข่กระทะหน้าหมูสับ ถั่วลันเตา หมูยอ และกุนเชียง เสิร์ฟพร้อมขนมปังสอดไส้หมูยอและกุนเชียง
หรือจะเป็นเมนูง่าย ๆ อย่าง ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม เบคอน และขนมปัง (119 บาท) ทานคู่กับเครื่องดื่มที่เข้ากันได้ดีกับเมนูอาหารเช้าอย่าง กาแฟเย็น (25 บาท) กาแฟโบราณรสชาติหวานมัน กลมกล่อม ดั้งเดิมฉบับเฮี๊ยะไถ่กี่
เฮี๊ยะไถ่กี่
ถนนประชาธิปไตย
ร้านเปิดทุกวัน วันจันทร์ - เสาร์ เวลา 05.30 - 14.30 น. วันอาทิตย์ เวลา 05.30 - 12.00 น.
โทร. 0-2629-1297
Jong Dimsum ร้านติ่มซำที่ส่งต่อความอร่อยจากร้าน 'อาม่า ติ่มซำ' สูตรภาคใต้แท้ ๆ สู่ติ่มซำเจ้าเด็ดย่านสะพานควายในราคาที่จับต้องได้ ภายในร้านตกแต่งสไตล์ Chinese Vintage ที่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย สวยงามเหมาะแก่การถ่ายรูป โดยเฉพาะบริเวณริมหน้าต่างชั้น 2 ที่มีแสงเข้าตลอดทั้งวัน โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากร้านที่ประเทศไต้หวัน จึงหยิบยกบรรยากาศคลาสสิกของร้านติ่มซำในไต้หวันมาไว้ที่นี่ด้วย
เมนูติ่มซำและเมนูอาหารจานหลักมาจากสูตรภาคใต้แท้ ๆ จากอำเภอเบตง รวมถึงซอสและพริกน้ำส้มแบบเข้มข้นที่ทานคู่กับติ่มซำ ซึ่งเป็นสูตรของทางร้านที่ยังคงรสชาติตามแบบฉบับของภาคใต้เอาไว้ เมนูแนะนำแรกคือ ขาหมูอบหม้อดิน (150 บาท) เป็นขาหมูสูตรโบราณ ใช้ส่วนคากิกับสันคอนำไปเคี่ยวหนึ่งวันเต็ม ๆ และเก็บอีกหนึ่งวันจนได้เนื้อหมูที่นุ่มละมุนลิ้น รสชาติเข้มข้นและหอมกลิ่นพริกแห้ง ก่อนจะเสิร์ฟร้อน ๆ ในหม้อดิน ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือหมั่นโถวนุ่ม ๆ ก็เข้ากัน
เมนูติ่มซำของทางร้านมีให้เลือกหลากหลายเมนู โดยราคาจะเริ่มต้นที่เข่งละ 40 บาท แนะนำเมนูยอดฮิตอย่าง ขนมจีบ (40 บาท) ฮะเก๋า ( 40 บาท) สาหร่ายทรงเครื่อง (40 บาท) ไปจนถึงเมนูติ่มซำที่เป็นอาหารจานหลักอย่าง ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว (180 บาท) แนะนำให้ทานคู่กับซอสติ่มซำสูตรพิเศษของทางร้าน เพื่อให้ได้รสชาติตามแบบฉบับติ่มซำเมืองใต้แท้ ๆ
Jong Dimsum
สะพานควาย
เปิดทุกวัน เวลา 07.00 - 20.00 น.
โทร. 08-9048-6908
www.facebook.com/jongdimsum
นอกจากเยาวราชจะเป็นย่านที่ทุกคนนึกถึงอาหารสตรีทฟู้ดแล้ว ที่นี่ยังมีคาเฟ่สไตล์จีนร่วมสมัยตั้งอยู่ใจกลางแยกเฉลิมบุรีที่มีชื่อว่า Lhong Tou คาเฟ่เล็ก ๆ แต่อัดแน่นไปด้วยเมนูคุณภาพที่ผ่านการคิดและสร้างสรรค์ออกมาให้เข้ากับคนทุกเพศทุกวัย เรียกว่าใครที่เดินผ่านก็ต้องแวะพักเหนื่อยเติมพลังกายกันที่นี่
เมื่อเดินเข้ามาทุกคนจะได้พบกับคาเฟ่มิติใหม่ที่ไม่คุ้นตากันบ่อยนัก เพราะทางร้านได้ออกแบบให้มีที่นั่งเพียงพอกับจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ จึงได้ต่อเติมที่นั่งเป็นสองชั้น โดยใช้โครงสร้างเหล็กยึดทุกส่วนเอาไว้อย่างแข็งแรง ตรงข้ามกันติดกระจกใสแผ่นใหญ่ทำให้ร้านดูกว้างขวางผิดหูผิดตา อีกทั้งยังเพนต์สีที่กระจกเป็นลวดลายของต้นหลิว และติดรูปภาพของสัตว์ต่าง ๆ ที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความจีน
ในส่วนของอาหาร ยังรวบรวมซิกเนเจอร์ในย่านเยาวราชมาสร้างสรรค์ออกเป็นเมนูต่าง ๆ มาให้ได้ลองชิมกันใน Chinese Set (129 บาท) ประกอบไปด้วย ข้าวต้ม พร้อมกับข้าว 8 อย่าง ได้แก่ เกี่ยมฉ่ายน้ำมันงา ไข่แดงเค็ม กุนเชียง หมูหยอง กานาฉ่าย ใบปอผัดไชโป๊ว ไชโป๊วเห็ดหอม และปลาฉิ้งฉ้างทอด โดยเครื่องเคียงจะเปลี่ยนทุก ๆ วัน และพลาดไม่ได้กับเมนู Mini B.B.Q. Pork Bun (49 บาท) ซาลาเปาลูกเล็กสอดไส้หมูแดงสับละเอียด ทอดร้อน ๆ สดใหม่กับแป้งนุ่ม ๆ
Lhong Tou Cafe
ถนนเยาวราช
เปิดทุกวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 21.00 น.
โทร. 08-5824-6934
www.facebook.com/Lhongtou
หมายเลขเจ็ด เลขมงคลของการร่วมกัน เห็นทีจะดีไม่น้อยถ้าชวนเพื่อนพี่น้องมาชิมอาหารไทยสไตล์จีนที่ร้าน คนชงคนปรุง แห่งนี้ การันตีด้วยอาหารคุณภาพดีในบรรยากาศจีน ๆ พร้อมเสิร์ฟอาหารภายใต้คอนเซ็ปต์ 'Thai - Chinese Comfort Food'
ดื่มด่ำบรรยากาศสุดคลาสสิกของบ้านเก่าที่ทางร้านได้รีโนเวทเป็นร้านอาหาร ผ่านการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ให้กลิ่นอายสไตล์จีนร่วมสมัยชวนให้เข้ามาทาน ทางร้านแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนบาร์เครื่องดื่มบริเวณหน้าร้านที่พร้อมให้บริการขนม ถัดมาเป็นโซนนั่งทานข้าวในบรรยากาศสบาย ๆ โดยเมนูของทางร้านนั้นมีพร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารใต้และอาหารเหนือ หลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกทานอย่างเต็มที่
ทางร้านคัดสรรวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี เน้นความสดใหม่ เมนูไฮไลต์ที่ใครมาก็ต้องชิมคือ ปลากะพงราดกองกระเทียม (375 บาท) ที่เลือกใช้เป็นเนื้อปลากระพงชิ้นโต นำมาชุบแป้งทอดแบบบางกรอบ พร้อมโรยกระเทียมเจียวหอม ๆ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ เข้ากันเป็นอย่างดี และเมนูที่ให้กลิ่นอายความเป็นจีนอย่าง ต้มกะหล่ำปลีเห็ดหอมกระดูกแก้ว (140 บาท) ต้มผักรวมที่คล้ายกับต้มจับฉ่าย แต่มีรสชาติเฉพาะที่แปลกออกไป ซดทานร้อน ๆ คล่องคอ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานซุป รสชาติไม่จัดจ้าน
คนชงคนปรุง
อินทามระ เขตพญาไท
เปิดทุกวันพุธ - จันทร์ เวลา 11.00 - 21.00 น.
โทร. 09-7251-8178
www.facebook.com/KonchongKonprung
Bars
Ninetails Bar and Booster ถ้ำของนางจิ้งจอก 9 หาง บาร์ค็อกเทลหนึ่งเดียวในย่านลาดพร้าว พร้อมต้อนรับทุกคนให้เข้ามาอยู่ในวังวนของนางจิ้งจอกแล้วสนุกไปพร้อม ๆ กัน ท่ามกลางบรรยากาศของโคมสีแดง ให้ความรู้สึกแบบหนังของ หว่อง กาไว ภายในร้านตกแต่งสไตล์ Oriental Chic โดยใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่ประตูทางเข้า ไปจนถึงชั้นสองที่แฝงรายละเอียดเล็ก ๆ ไว้แต่ละจุด ไม่ว่าจะเป็นโคมแดง ประตูเหล็ก ร่ม และคำคมอักษรจีนต่าง ๆ ที่สำคัญทางร้านใช้รูปผู้หญิงเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงนางจิ้งจอกเก้าหาง และวางคอนเซ็ปต์อย่างชัดเจนว่า Nothing Happened เมื่อตื่นขึ้นมาจะก็จะจำอะไรไม่ได้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมนูอาหารเน้นเมนูทานเล่นไม่เหมือนใครจากประสบการณ์ทำอาหารมานานหลายปีของเชฟ เมนูแรกที่ทางร้านแนะนำ หม่าล่าไก่ (150 บาท) ไก่คาราเกะคลุกเคล้ากับพริกหม่าล่า ที่ทางร้านปรุงพิเศษเพื่อลดความฉุนของเครื่องเทศ ใส่พริกไทยป่นให้มีรสเผ็ดขึ้น ก่อนจะนำไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ควรบีบเลมอนนิด ๆ เพื่อให้รสชาติตัดกัน
เครื่องดื่มดัดแปลงจากเครื่องดื่มไทย ๆ มาครีเอทเป็นค็อกเทลแต่ละแก้ว ลองสั่ง Orange Blossom (180 บาท) ส้มจีนตากแห้ง นำมาตำละเอียดจนมีกลิ่นหอม เติมน้ำส้ม และเบสด้วยเหล้าเตกิล่า มีรสเปรี้ยวอมหวานดื่มแล้วช่วยสร้างความสดชื่นได้ดี และอย่าลืมสั่ง Dark Swamp (180 บาท) ที่มีส่วนผสมของน้ำเฉาก๊วย เหล้าคาร์ลัวและเหล้าวอดก้า ให้รสชาติหวานและหอมกลิ่นกาแฟนิด ๆ
Ninetails Bar & Booster
ลาดพร้าวซอย 4
เปิดทุกวัน เวลา 18.00 - 01.00 น.
โทร. 09-6859-9571
www.facebook.com/ninetails.bb
ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาแฮงเอาต์ที่ย่านเยาวราชกันบ้าง กับ Rabbit Hill บาร์สไตล์เอเชียที่ซ่อนตัวอยู่ในคูหาเล็ก ๆ บนถนนสันติภาพ หากเดินผ่านหน้าร้านอาจจะไม่ทันได้สังเกตว่าเบื้องหลังประตูสีแดงนี้จะมีบาร์ซ่อนตัวอยู่ ด้านในได้บรรยากาศย้อนยุคเหมือนกลับไปสู่ช่วงทศวรรษ 1950 - 1970 มีเพลงจีนเปิดคลอเบา ๆ สลับกับเพลงสากล การตกแต่งร้านใช้โทนสีแดงผสมกับโครงสร้างลอฟต์สไตล์จีน มีจุดเด่นคือบันไดเล็ก ๆ สูงชันที่พาดลงกลางร้าน เสาอาคารที่ครีเอทให้เหมือนไม้กระบองหงอคง และภาพวาดหญิงสาวชาวจีนที่ชวนให้ถ่ายรูปคู่เป็นอย่างมาก
พื้นที่นั่งมีตั้งแต่โต๊ะยาวทรงสูงพร้อมเก้าอี้หันหน้าเข้าผนัง โต๊ะไม้พร้อมโคมไฟตั้งโต๊ะในห้องสมุด ถัดเข้ามาด้านในสุดเป็นบาร์ที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง พร้อมเสิร์ฟเมนูที่นำวัตถุดิบที่มีอยู่แล้วมาครีเอทเป็นเมนูประจำร้านและจับคู่กับเบียร์ได้ดี จึงเน้นไปที่อาหารจีนประเภทต้มและทอดเป็นหลัก เริ่มที่ ไก่ห่อกระดาษ (180 บาท) เมนูโบราณอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี จากมณฑลกวางสี นำไก่หมักเครื่องเทศและเก็บใส่ถุงกระดาษแล้วนำไปทอด
นอกจากอาหาร ยังมีเมนูเครื่องดื่มประเภทเบียร์และเหล้าสไตล์เอเชีย รวมถึงเหล้าบ๊วยด้วย สำหรับเครื่องดื่มที่เป็นจุดเด่นของร้านคือ Moonzen คราฟต์เบียร์สัญชาติฮ่องกง ที่มีมาให้ลองครบทุกตัว รวมถึงแท็ปเบียร์ที่หมุนเวียนเบียร์ใหม่ ๆ มาให้ลองกันชิมอย่างสม่ำเสมอ
Rabbit Hill
ถนนสันติภาพ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00 - 00.00 น.
โทร. 09-2646-6636
www.facebook.com/rabbithillbkk
หมายเลขสิบ มาเปลี่ยนบรรยากาศแฮงเอาต์ที่บาร์ทั่วไปให้ได้อารมณ์สไตล์เอเชียกับ Dim Dim ค็อกเทลบาร์ที่มีกลิ่นอายความเป็นจีนตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงด้านใน จะเห็นว่าบรรยากาศด้านในค่อนข้างมืดสลัว สอดคล้องกับชื่อร้าน Dim Dim ซึ่ง Dim แรกหมายถึงไฟสลัว ๆ ริบหรี่ ส่วน Dim ที่สอง มาจาก Dim Sum หรืออาหารจานเล็ก ๆ ที่ไว้ทานเล่นคู่กับเหล้าหรือค็อกเทล ด้วยมนต์เสน่ห์ของประเทศจีนจึงเลือกใช้ธีมสีแดงและเขียวเป็นหลักนั่นเอง
สำหรับค็อกเทลและเหล้าสูตรพิเศษของร้านได้ความร่วมมือจาก Sugar Ray You’ve Just Been Poisoned เป็นผู้คิดค้นและดัดแปลงให้เข้ากับธีมของร้าน เริ่มต้นด้วย Oolong & Orange Sour (280 บาท) ค็อกเทลที่เสิร์ฟในแก้วชาจีนใบเล็ก เบสด้วยเบอร์เบิร์นวิสกี้ที่ใส่ใบชาอู่หลงและผิวส้มเพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติเฉพาะ เสริมรสหวานจากไซรัปส้ม เพิ่มความเปรี้ยวด้วยเลมอน และความข้นจากไข่ขาว เขย่าให้เข้ากันจนเนื้อเนียน ได้เป็นค็อกเทลรสเปรี้ยวอมหวานเจือกลิ่นส้มอ่อน ๆ ตกแต่งหน้าแก้วด้วยงาดำ พร้อมบ๊วยให้ทานคู่กับค็อกเทล
อีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ Bakkwa Old Fashioned (280 บาท) ใบโรสแมรีแช่กับเบอร์เบิร์นวิสกี้รสเข้มกับน้ำแข็งทรงลูกบาศก์ เสิร์ฟพร้อมหมูแผ่น Bakkwa ชิ้นเล็กเสียบไม้รับรองว่าถูกปากจนต้องสั่งอีกแก้วเป็นแน่
Dim Dim
ซอยสุขุมวิท 33
เปิดทุกวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 18.30 - 01.30 น.
โทร. 0-2085-2788
www.facebook.com/dimdimbarbkk