สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยครั้งใหม่กับ EmQuartier Dining โซนร้านอาหารภายในศูนย์การค้า The EmQuartier ซึ่งรวบรวมร้านอาหารกว่า 200 ร้าน มาไว้ในแห่งเดียว ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Bangkok’s Best All Day Dining & Entertainment Destination’ ศูนย์รวมความอร่อยแบบครบครันที่มีอาหารหลากหลายสัญชาติจากร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำมาร่วมเสิร์ฟเมนูสุดพิเศษในราคามิตรภาพ ให้เหล่านักชิมได้เลือกทานอย่างจุใจตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเพลิดเพลินไปกับการช้อปและชิลล์เอาต์ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองด้วยทำเลที่ตั้งที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทำให้การเดินทางนั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ครั้งนี้ BKK จึงไม่รอช้าขออาสาพาทุกคนไปใช้ช่วงเวลาดี ๆ กันที่ EmQuartier Dining ผ่านความอร่อยสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ 5 ร้านดังที่คุณไม่ควรพลาด ส่วนจะเป็นร้านไหนบ้างนั้น ตามไปเช็คอินพร้อม ๆ กันเลย
ประเดิมความอร่อยกันที่ Café Leitz By Pacamara ไลฟ์สไตล์คาเฟ่สุดเท่ สำหรับคนที่รักการถ่ายภาพด้วยกล้อง Leica โดยเฉพาะ พร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบทั้งช็อป Leica อาหาร ขนมหวาน และ Specialty Coffee ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของเมล็ดกาแฟเป็นพิเศษกับแบรนด์ Pacamara ที่ขยายความอร่อยมาเปิดสาขาภายในศูนย์การค้า The EmQuartier โดยเน้นเสิร์ฟเมนูกาแฟและเครื่องดื่มหลากหลายแบบ พร้อมกับเมนูอาหารที่ครีเอทขึ้นใหม่เฉพาะสาขานี้เท่านั้น
หากใครเคยสัมผัสกล้อง Leica มาก่อน เมื่อย่างก้าวเข้าร้านจะสัมผัสได้ถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ถอดแบบสไตล์การตกแต่งจากตัวกล้อง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้โทนสีอย่างดำ เงิน เทา และที่ขาดไม่ได้คือป้ายไฟวงกลมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้ มู้ดแอนด์โทนสีขาวที่มาเติมความอบอุ่นเป็นกันเอง
บางมุมประดับประดาด้วยภาพถ่ายของช่างภาพระดับโลกที่ใช้กล้อง Leica จับโมเมนต์ต่าง ๆ มาร่วมจัดแสดงบนฝาผนังร้าน นอกจากนี้ ที่นี่ยังเพิ่มความหรูหราด้วยผนังสีดำและบาร์ Stainless พื้นที่สโลว์บาร์สำหรับนั่งดื่มกาแฟ อีกทั้งยังมีโซนนั่งด้านนอกบริเวณทางเดินเชื่อมอาคารของศูนย์การค้าฯ ในลักษณะของเรือนกระจก ให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบสบาย ๆ อีกด้วย
ในส่วนของเมนูอาหาร ส่วนใหญ่ทางร้านจะเน้นเสิร์ฟเมนูบรันช์ทานง่าย ให้เลือกอิ่มท้องตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็น Egg Ham Cheese Croissant (185 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ครัวซองต์ของทางร้าน ที่สอดไส้ด้วยผักสลัด มะเขือเทศ ไข่ออมเล็ต แฮม ชีส พร้อมราดด้วยซอสศรีราชามาโย สูตรพิเศษที่มาช่วยตัดรสชาติให้ได้กลิ่นอายสไตล์ไทย ๆ ก่อนจะโรยหน้าตามด้วยชีสและเกล็ดขนมปังโทสต์ที่ให้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบ
ส่วนใครที่ชอบทานมันบดเป็นพิเศษ ต้องลอง Banger & Mash (295 บาท) ไส้กรอกหมูสด ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับมันบด ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ราดซอสไวน์แดง ก่อนจะท็อปด้านบนด้วยมะเขือเทศราชินีและพาร์สลีย์ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทานแล้วอิ่มท้องแน่นอน
หรือจะเป็นชุดเบอร์เกอร์ที่มาพร้อมกับความอร่อยแบบจัดเต็มอย่าง Pull Pork Burger with Earl Grey Cream Sauce (340 บาท) โดยทางร้านได้เลือกใช้ Bun Burger ชิ้นใหญ่ที่สั่งทำเป็นพิเศษ สอดไส้ด้วยผักสลัด มะเขือเทศ และเนื้อสันคอหมูที่เชฟนำไปต้มจนเปื่อยนุ่ม แล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำซอสที่ทำมาจากใบชาเอิร์ลเกรย์จนได้รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศ พริกดอง แตงกวาดอง และเฟรนช์ฟรายส์ ทั้งนี้อาหารแต่ละเมนู สามารถสั่งกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ มาดื่มคู่กันได้ด้วย จะช่วยเสริมความอร่อยให้มื้อนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
Café Leitz By Pacamara
ชั้น M, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
โทร. 0-2003-6068, 0-2048-5900
www.facebook.com/cafeleitz
เอาใจสาย Cafe Hopping กันอย่างต่อเนื่องกับ Vanilla Cafeteria คาเฟ่สไตล์ Modern Industrial ที่เน้นเสิร์ฟเมนู Comfort Food แสนอร่อย บรรยากาศภายในร้านสบายตาด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และการเลือกตกแต่งร้านด้วยมู้ดแอนด์โทนสีน้ำตาล-ขาว ส่วนโซนนั่งทานอาหารมีม้านั่งยาวที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ทานข้าวที่โรงอาหารของโรงเรียน ตัวร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ ได้แก่ โซนนั่งด้านในที่เชื่อมต่อกับศูนย์การค้าฯ และโซนนั่งด้านนอกที่ให้รับลมเย็น ๆ พร้อมชมวิวน้ำตกจากสวน Tropical ฝั่งตรงข้าม อีกทั้งยังมีโซนครัวแบบ Open Kitchen ให้คนที่เข้ามาทานได้เห็นเบื้องหลังความอร่อย กรรมวิธีการปรุงอาหารแต่ละจานของทางร้านอย่างใกล้ชิด
เมื่อมาถึงที่ร้าน แนะนำให้ลองสั่งเมนูยอดนิยมอย่าง Egg Benedict Caesar Salad (495 บาท) มาทาน เป็นเมนูซีซาร์สลัดที่ท็อปด้านบนด้วยเอ้กเบเนดิกต์หรือไข่น้ำ นอกจากผักสลัดใบเขียวที่ทางร้านเลือกนำมาเสิร์ฟความอร่อยเพื่อเหล่านักชิมที่รักสุขภาพแล้ว ภายในจานนี้ยังประกอบด้วยวัตถุดิบคัดพิเศษคือ หน่อไม้ฝรั่งสีขาวและไส้กรอกอิตาเลียน ราดตามด้วย Horseradish Cream Sauce น้ำสลัดครีมซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน ก่อนจะตกแต่งด้านบนสุดด้วยไข่ปลาคาเวียร์ เสิร์ฟมาพร้อมกับ Croutons หรือขนมปังกรอบรสชีสนำเข้าจากอิตาลีที่นิยมนำมาโรยหน้าซีซาร์สลัด ทานแล้วได้ความครีมมี่ รสชาติกลมกล่อม
ก่อนจะอิ่มท้องขึ้นมาอีกนิดกับ Smorked Pock Chop with Raspberry Gravy (560 บาท) พอร์คช็อปหมูรมควัน ที่ท็อปมาบนกะหล่ำปลีม่วงผัดเบคอน คลุกเคล้ามากับซอสมิกซ์เบอร์รีสูตรเฉพาะของทางร้าน ให้รสเปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วไม่เลี่ยน โดยจะเสิร์ฟเคียงมากับหอมทอด ทานเข้ากันอย่างลงตัว
แล้วปิดท้ายกันด้วยเมนูของหวานกับ Dark Chocolate Self-Saucing Cake with Fresh Berries (460 บาท) เค้กช็อกโกแลตอบร้อน เสิร์ฟพร้อมซอสช็อกโกแลตและผลไม้สดตระกูลเบอร์รี เมนูนี้ได้ความหอมหวานของช็อกโกแลตที่ตัดกับรสเปรี้ยวของผลไม้ได้แบบพอดิบพอดี
Vanilla Cafeteria
ชั้น 2, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
โทร. 0-2003-6124
www.vanillaindustry.com
www.facebook.com/vanillaindustry
เปลี่ยนบรรยากาศมาทานอาหารสไตล์อิตาเลียนกันบ้างที่ Mozza ร้านอาหารอิตาเลียนในเครือเดียวกับ Cocotte และ Pesca Mar & Terra Bistro ที่ชูคอนเซ็ปต์การนำเสนออาหารอิตาเลียนสูตรดั้งเดิมจากครัวคุณย่าคุณยายมาให้ทุกคนได้ทาน โดยร้าน Mozza ตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของ The EmQuartier คอยต้อนรับทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ดื่มด่ำกับอาหารอิตาเลียนโฮมเมดกัน
ถึงแม้ว่าตัวร้านจะตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์การค้าฯ แต่ก็ได้โลเคชันที่ติดกับบริเวณสวนส่วนกลาง จึงมีมุมนั่งสบาย ๆ ให้เลือกมากมายทั้งด้านในและด้านนอก ภายในร้านตกแต่งด้วยไม้สีเข้มและพื้นกระเบื้องลายที่ชวนให้นึกถึงร้านอาหารในอิตาลี ยังมีบริเวณครัวที่เปิดให้เห็นขั้นตอนการทำพิซซ่าอบสดใหม่ และบริเวณบาร์เครื่องดื่มที่ประดับด้วยขวดไวน์และเหล้านานาชนิด ตัดกับกำแพงต้นไม้สีเขียวที่เพิ่มความร่มรื่นให้กับร้าน
สำหรับอาหารของที่นี่ ยังคงคอนเซ็ปต์เดียวกับทุกร้านในเครือ Cocotte ที่เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีและเน้นการแบ่งกันทานเป็นหลัก เพื่อเป็นการสร้างช่วงเวลาแห่งความทรงจำร่วมกัน โดยได้เชฟใหญ่ Samuele Alvisi เชฟชาวอิตาลีที่เคยทำงานในร้านอาหารโรงแรมดังมาแล้วหลายประเทศ มาดูแลทุกเมนูของที่นี่ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นเมนูสไตล์อิตาลีโฮมเมดที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอให้เหมือนทานอาหารจากครัวของครอบครัวชาวอิตาลีแท้ ๆ
เริ่มจากเมนูยอดนิยมอย่าง Burrata with Tomato Confit & Balsamic Caramel (150 กรัม 490 บาท) เมนูชีสบูราต้าเนื้อเนียนนุ่มสไตล์อิตาลีที่มีให้เลือก 2 ขนาดทั้งแบบ 150 กรัม และ 300 กรัม ราดด้วย Vinegar Sauce และท็อปด้านบนด้วยมะเขือเทศลูกโตเนื้อสดฉ่ำ เป็นจานที่ทานแล้วสดชื่นเหมาะกับวันอากาศร้อน ๆ อย่างมาก
จากนั้นมาต่อกันที่เมนู Carpi Salerno (760 บาท) โฮมเมดพิซซ่า ที่ท็อปด้านบนด้วย Stracciatella ชีสสไตล์อิตาเลียนที่ผลิตจากน้ำนมควาย มีรสชาตินุ่มละมุนใกล้เคียงกันกับชีสบูราต้า เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศสด และพาร์มาแฮมที่หมักมาถึง 24 เดือน ท็อปด้านบนมาด้วยใบโหระพาและมะเขือเทศเชอร์รี ได้ทั้งรสเค็มจากพาร์มาแฮมและรสหวานจากมะเขือเทศ ก่อนจะเอาใจคนรักเส้นด้วย Truffle Tagliolini (690 บาท) โฮมเมดพาสต้าเส้นสดแบบแทลเลียเตลเลหรือพาสต้าเส้นแบน ที่ท็อปด้านบนด้วยเห็ดทรัฟเฟิลสดสไลซ์และทรัฟเฟิลออยล์หอม ๆ
ทานเมนูของคาวไปแล้ว อย่าลืมตบท้ายด้วยขนมหวานอย่าง Cocotte’s Tiramisu (290 บาท) ซอฟต์เค้กทีรามิสุ ที่ท็อปด้านบนด้วยครีมมาสคาโปนชีส เสิร์ฟพร้อมบิสกิตแบบแท่งที่นิยมนำมาตกแต่งหน้าเค้กทีรามิสุ คาราเมลนมหวาน และเจลลี่รสกาแฟ ตักทานพร้อมกันให้รสนุ่มละลายในปาก ผสานกลิ่นหอมหวานของคาราเมลและกาแฟอย่างลงตัว
Mozza By Cocotte
ชั้น G, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-22.00 น.
โทร. 09-7004-0072
www.mozza-bangkok.com
www.facebook.com/Mozzabkk
หากใครที่กำลังมองหาเมนูอาหารเพื่อสุขภาพอยู่ละก็ อย่าลืมไปอิ่มอร่อยกันต่อที่ D’ARK ไลฟ์สไตล์คาเฟ่สุดเก๋อีกหนึ่งสาขาที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า The EmQuartier โดยทางร้านจะเน้นเสิร์ฟเมนูอาหาร Comfort Food สไตล์ Gourmet พร้อมด้วยเมนูเพื่อสุขภาพมากมาย รองรับตั้งแต่มื้อกลางวันไปจนถึงมื้อค่ำ ซึ่งทานแล้วเข้ากันกับเมนูเครื่องดื่มกาแฟคัดพิเศษ
บรรยากาศภายในร้านเป็นแบบเพดานยกสูง ให้ผู้ที่เข้ามาทานรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ผ่อนคลายจากวันที่เหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี สำหรับเมนูแนะนำ เริ่มต้นกันที่เมนูเบา ๆ อย่าง Acai Super Bowl (450 บาท) สมูทตี้อาซาอิ ที่โรยหน้าด้วยกราโนล่าสูตรโฮมเมดและดอกอัญชัน พร้อมท็อปบนมาด้วยผลไม้สดรสเปรี้ยวและตระกูลผลไม้ที่ทานแล้วสดชื่น ได้แก่ แก้วมังกร กีวี สตรอเบอร์รี และมะม่วง ตักทานแล้วสัมผัสได้ถึงความหอมสดชื่น ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวกำลังดี
ก่อนจะเพิ่มความอิ่มสบายท้องมากขึ้นอีกนิดกับเมนู Truffle Mayo Chicken Sourdough (490 บาท) ขนมปัง Sourdough ราดซอสทรัฟเฟิลมายองเนส ท็อปบนด้วยอะโวคาโดบดที่ทางร้านนำมาคลุกเคล้ากับซอสสูตรเฉพาะ เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อไก่ส่วนสะโพก แล้วโรยหน้าด้วยแผ่นชีส พริกไทย เกล็ดขนมปัง และผิวเลมอนที่มาช่วยเพิ่มความหอมสดชื่นตัดรสเลี่ยนให้จานนี้ได้เป็นอย่างดี
จากนั้นหันมาเอาใจคนรักเส้นด้วยเมนู Spaghetti Aglio Olio with Mussels (390 บาท) สปาเก็ตตี้ผัดเนยกระเทียม น้ำมันมะกอก และหอยแมลงภู่ไซส์ยักษ์ที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย เส้นสปาเก็ตตี้ที่ได้นั้นเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมของเนยทุกคำที่ทานเข้าไป ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ
D’ARK
ชั้น G, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิด วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 08.00-22.00 น.
วันศุกร์ เวลา 08.00-24.00 น.
วันเสาร์ เวลา 08.00-23.00 น.
โทร. 0-2003-6013
www.darkoffee.com
www.facebook.com/darkbkk
ส่งท้ายมื้อสุดประทับใจของวันกันที่ Roast ร้านอาหารที่เสิร์ฟความอร่อยด้วยอาหารแนว Western สไตล์ Comfort Food ภายในร้านเน้นบรรยากาศอบอุ่น สบาย ๆ เหมือนได้นั่งทานอาหารภายในบ้าน ด้านอาหารทางร้านได้มีการครีเอทหลากหลายเมนูจากวัตถุดิบคุณภาพดี สดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารเช้า สลัด ซุป พาสต้า เบอร์เกอร์ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ปรุงสด ๆ แบบจานต่อจานจากเชฟผู้มีประสบการณ์ และของหวานหลากหลายรูปแบบ อาทิ วาฟเฟิล ซูเฟล และแพนเค้ก พร้อมด้วยเมนูกาแฟคั่วสดและเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ อีกมากมายแบบอิ่มครบจบคุ้มในร้านเดียว
เมนูแนะนำ สำหรับอาหารคาว ได้แก่ Truffle Alfredo (280 บาท) โฮมเมดพาสต้าราดด้วยครีมซอสที่มีส่วนผสมของเห็ดชิตาเกะ เห็ดชิเมจิ เห็ดทรัฟเฟิลขูด และน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล ที่ให้รสชาติกลมกล่อมหอมละมุนแบบเต็มคำ
ส่วนขนมหวานต้องลองซิกเนเจอร์เมนูอย่าง Strawberry Waffle (260 บาท) โฮมเมดวาฟเฟิลเนื้อกรอบนอกนุ่มในสอดไส้ด้วยวิปครีมและสตรอเบอร์รีสดชิ้นใหญ่แบบเน้น ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาสูตรโฮมเมดที่ราดด้วยไซรัปข้าวโพดรสหวานละมุนให้ได้ทานคู่กัน
Roast
ชั้น 1, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
โทร. 09-4176-3870
www.roastbkk.com
www.facebook.com/roastbkk
เรียกได้ว่า EmQuartier Dining เป็นแหล่งรวมที่สุดของความอร่อย ซึ่งคัดสรรมาไว้ภายในศูนย์การค้า The EmQuartier แห่งนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเลือกทานที่ไหน ทุก ๆ ร้านล้วนเติมเต็มประสบการณ์การทานอาหารของคุณได้อย่างสมบูรณ์ ใครที่อยากมาลิ้มลองความอร่อย สัมผัสโมเมนต์ดี ๆ บรรยากาศการทานอาหารสบาย ๆ แบบนี้บ้าง ต้องห้ามพลาดมาเช็คอินที่ EmQuartier Dining ด้วยตัวเองสักครั้งแล้วล่ะ สามารถติดตามความอร่อยของร้านอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.emquartier.co.th หรือ www.facebook.com/EmporiumEmquartier