ต้อนรับเดือนพฤษภาคมด้วยคอนเทนท์ใหม่ล่าสุดจาก BKK. กับสกู๊ปรวมร้านเปิดใหม่ในแต่ละช่วงเดือน เป็นไอเดียสำหรับผู้ที่มองหาความอร่อย และต้องการกำจัดความหิว ส่วนจะมีร้านไหนที่ไม่ควรพลาดบ้าง ตามไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย
ใครที่หลงเสน่ห์ในรสชาติอาหารญี่ปุ่นสไตล์ทงคัตสึตามสูตรดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นแล้วละก็ ต้องไม่พลาดมาลองชิมหลากหลายเมนูทงคัตสึ ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ กันที่ร้าน Bekku Tonkatsu (べっく とんかつ) ซึ่งนอกจากเรื่องของความอร่อยแล้ว ยังเดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS อีกด้วย เพราะพิกัดร้านนั้นตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS สนามเป้าเลยทีเดียว
ด้วยความที่คุณ Mitsutoshi Bekku เจ้าของผู้ก่อตั้งร้านและเชฟเจ้าของสูตรทงคัตสึ รวมถึงซอสสูตรพิเศษของที่นี่ มีความชอบส่วนตัวในการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball ภายในร้านจึงเต็มไปด้วยของสะสมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการ์ตูน Dragon Ball ให้เห็นแทบทุกมุม ด้านอาหาร ทางร้านเลือกนำเสนอเมนูพิเศษอย่าง สันใน Curry (280 บาท) ข้าวแกงกะหรี่ ที่เลือกใช้เนื้อหมูส่วนของสันในมาปั้นเป็นทรงกลมและนำไปทอดจนได้ความกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาแบบ 3 ชิ้นเต็ม ๆ จาน
ส่วนใครที่ชอบทานเนื้อส่วนสันนอกก็สามารถสั่งเป็น สันนอก Set (280 บาท) โดยมีไฮไลต์อยู่ที่กระเทียมสับซึ่งสอดไส้มาในเนื้อหมู ช่วยเพิ่มความหอมและรสกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกทานแบบเป็นเซ็ต ที่มาพร้อมกับเครื่องเคียง 5 อย่าง ข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ และซุปมิโสะ หรือจะสั่งเป็น A La Carte แบบจานเดียวก็ได้เช่นกัน
สำหรับเมนูของหวานต้องไม่พลาด Custard Pudding (50 บาท) พุดดิ้งคัสตาร์ด ขนมหวานที่ทางร้านแนะนำให้ลิ้มลอง เป็นพุดดิ้งเนื้อเนียนละเอียด ให้กลิ่นหอมคาราเมลอ่อน ๆ และรสชาติไม่หวานจนเกินไป ปิดท้ายมื้อพิเศษได้อย่างน่าประทับใจ
Bekku Tonkatsu
BTS สนามเป้า
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 14.00 น. และ 17.30 - 22.00 น.
โทร. 09-2062-5666
www.facebook.com/Bekku-Tonkatsu-1543305109147315
Lon Lon Local Diner ร้านอาหารไทยที่เปิดให้บริการภายในตึก Trinity Silom ร้านข้าวต้มกุ๊ยสไตล์โมเดิร์น โดยหยิบเอาวัฒนธรรมการทานข้าวต้มกุ๊ยแบบดั้งเดิม และเสน่ห์ของร้านอาหาร Diner ในสไตล์ Retro Western ให้ได้เลือกอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนู มาเป็นกิมมิกของทางร้าน ให้การทานข้าวต้มกุ๊ยริมทางดูเก๋ไก๋มากขึ้น แต่ยังคงรสชาติดั้งเดิมแบบคุณภาพคับถ้วย (ข้าวต้ม) เช่นเดิม
เมนูคลาสสิกที่ทานกับข้าวต้มแล้วเข้ากันเป็นที่สุด คือ ปลาอินทรีทอดเกลือ (285 บาท) ปลาอินทรีเนื้อแน่น ทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน เวลาทานให้บีบมะนาวเพิ่มอีกนิดรับรองว่าติดใจ ส่วนใครที่ชอบทานหมูสามชั้นต้องถูกใจกับ ผัดผักคะน้าหมูสามชั้นทอดน้ำปลา (145 บาท) โดยทางร้านเลือกผักคะน้าสดใหม่ผัดเข้ากับหมูสามชั้นติดมันนิด ๆ ให้ได้ความกรุบกรอบ เคี้ยวเพลิน แถมยังได้รสแซ่บจากพริกที่ลงไปผัดพร้อมกัน
Lon Lon Local Diner
Trinity Silom Hotel
เปิดทุกวัน เวลา 11:30 น. - 14.30 น. และ 17.00 - 22.00 น.
โทร. 09-7231-6968
www.facebook.com/lonlonlocaldiner
หากเอ่ยถึงร้านอาหารจีนแล้วหลายคนคงนึกถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีแดงทอง การเสิร์ฟอาหารในจานดินเผา หรือลักษณะการนั่งรวมกันในโต๊ะกลม แต่สำหรับที่ DAI LOU (ไต่โหลว) ร้านอาหารจีนแนวร่วมสมัยที่ตั้งอยู่บนย่านอารีย์แห่งนี้แล้ว ได้ฉีกกฏของร้านอาหารจีนแบบเดิม ๆ ด้วยการเติมสีสันและบรรยากาศของความร่วมสมัยให้ตัวร้านอาหารน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
เมนูแรกที่ถือเป็น Signature ของร้านอย่าง หมูกรอบวานไฉ (220 บาท) สูตรลับเฉพาะของเชฟ เป็นหมูกรอบสไตล์ฮ่องกง ที่สร้างความแตกต่างด้วยวิธีย่างแทนการทอดจนได้หนังกรอบที่ให้สัมผัสต่างจากหมูกรอบทั่วไป มีส่วนเนื้อที่นุ่ม เลเยอร์สวยงาม และมีส่วนหนังที่กรอบบางเป็นพิเศษ เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มที่ทำจากน้ำผึ้งอินฟิวส์สูตรเฉพาะของทางร้าน
ต่อด้วย ปลาเก๋าเช็กแลปก๊อก (320 บาท) เนื้อปลาเก๋าชิ้นโตนึ่งซีอิ๊ว ที่ทางร้านพิถีพิถันตั้งแต่กระบวนการคัดสรรเนื้อปลาเฉพาะส่วนที่ดีที่สุดของปลาเก๋า จานนี้จึงได้รสหวานจากความสดของเนื้อปลา ที่เข้ากันดีกับเส้นกรอบที่เสิร์ฟมาให้ทานคู่กัน ได้รสชาติสุดกลมกล่อมซึ่งผสานความหอมของซีอิ๊วและสมุนไพรอย่างลงตัว ถูกใจคนชอบทานปลาแน่นอน
DAI LOU
ซอยพหลโยธิน 5
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น.
โทร. 0-2103-6566
www.facebook.com/dailoutapas
บนชั้น 2 ของตึกแถวเก่าในซอยสุขุมวิท 49 มีร้านอาหารจีนเก๋ ๆ สไตล์ Chinese Homemade อย่างร้าน CHU ที่ให้รสชาติในแบบต้นตำรับ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลอง ภายใต้บรรยากาศสุดคลาสสิกของตึกแถวฮ่องกงที่ผสมผสานการออกแบบทั้งรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว
FULL REVIEWอีกจานไฮไลต์ของร้านต้องยกให้กับ กระเพาะหมูเกี๊ยมฉ่าย (140 บาท) จานนี้เสิร์ฟเกี๊ยมฉ่ายกรอบใหม่ ให้รสเปรี้ยวอมหวานตามสไตล์ผักดอง โดยผัดมากับกระเพาะหมูชิ้นพอดีคำที่ตุ๋นมาจนเปื่อย ก่อนจะเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมด้วยกระเทียม เหมาะทานคู่กับข้าวต้มร้อน ๆ อย่างมาก
จากนั้นมาต่อกันที่เมนูทานกับข้าวอย่าง แขนงหมูกรอบ (170 บาท) ผักแขนงสดหวานกรอบ มาพร้อมกับหมูกรอบชิ้นโตเต็มคำ หอมกลิ่นกระเทียมและได้รสเผ็ดนิด ๆ ของพริกแดง ตามมาด้วย กุ้งผัดซอสเสฉวน (220 บาท) ที่ทางร้านเลือกกุ้งสดไซส์ใหญ่ ผัดมากับซอสเสฉวนที่ถูกปรับรสให้ได้รสชาติแบบไทย ๆ ไม่ว่าจะทานกับข้าวสวยหรือข้าวต้มก็เข้ากัน
ส่วนใครที่อยากเติมความสดชื่นในบรรยากาศฮ่องกง ต้องสั่ง ชามะนาวฮ่องกงเย็น (60 บาท) แก้วนี้ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของเลมอนชิ้นใหญ่ที่ฝานใส่มาในแก้วด้วย กลิ่นและรสชาติเข้ากันกับชา เป็นเครื่องดื่ม Refreshing ที่แนะนำว่าต้องลอง
Chu
ซอยสุขุมวิท 49 เขตวัฒนา
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 00.00 น.
โทร. 0-2120-4199
www.bkkmenu.com/eat/we-recommend/chu.html
ยกความสะดวกสบายมาไว้ให้ชาวเมืองทองได้กินดื่มกันถึงที่ สำหรับร้าน 8 Seconds Bar & Kitchen ร้านอาหารกึ่งบาร์สไตล์คาวบอย ที่มาในคอนเซ็ปต์ Farm Dinner โดย 8 Seconds มาจากการแข่งขันขี่วัวกระทิง 8 วินาทีของเหล่าคาวบอย ทางร้านจึงนำเอาบรรยากาศของฟาร์มและกีฬาชนิดนี้เข้ามาให้ทุกคนสัมผัสกับกลิ่นอายสไตล์อังกฤษในยุคนั้น พร้อมให้คุณได้อิ่มท้องกับเมนูอาหารมากมาย ร่วมกับการดื่มเบียร์สดเย็น ๆ หลากหลายสัญชาติที่มีเสิร์ฟตลอดทั้งคืน
เมนูอาหารส่วนใหญ่เป็นเมนูฟิวชั่นทานง่าย อีกทั้งยังมีเมนูสเต๊ก เบอร์เกอร์ ไว้สำหรับเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมอีกด้วย สำหรับเมนูแรกแนะนำเป็นอาหารทานเล่นเรียกน้ำย่อยอย่าง Mix Bruschetta (195 บาท) โอเพ่นแซนด์วิชย่างเนย 4 หน้า ได้แก่ แซลมอนรมควันครีมชีส ข้าวโพดและแฮม เห็ดผัดน้ำมันทรัฟเฟิล และซัลซ่ามะเขือเทศ
ถ้ายังไม่อิ่มท้อง เพิ่มความสนุกด้วยเมนู Pork Ribs (395 บาท) ซี่โครงหมูย่างบนซอสบาร์บีคิวโฮมเมดเนื้อนุ่ม ได้ความชุ่มฉ่ำของซอส รสชาติเข้มข้น หอมซอสบาร์บีคิว
นอกจากนี้ยังมีสเต๊กเอาใจคนชอบทานเนื้ออย่าง Grill Beef Tenderloin New Zealand (750 บาท) เนื้อนิวซีแลนด์สตริปลอยด์กริลล์หอม ๆ ได้ความนุ่ม แต่ยังคงมีความชุ่มฉ่ำของเนื้อ สามารถสั่งระดับความสุกได้ตามชอบ เสิร์ฟมากับมันฝรั่งทอด ซอสเกรวี่ไวน์แดง และน้ำจิ้มแจ่ว
8 Seconds Bar & Kitchen
โครงการสุโขทัยอเวนิว 99 ถนนบอนด์สตรีท
เปิดทุกวัน เวลา 17.00 - 23.00 น.
โทร. 09-0982-4380
www.facebook.com/8-Seconds-Bar-Kitchen-1929072550511767
ชวนชาวปากเกร็ดและชาวนนทบุรีแวะไปเช็คอินสถานที่ชิลล์เอาต์แห่งใหม่กันที่ Rongsi Studio (โรงสี สตูดิโอ) คาเฟ่และโฮมสเตย์สุดชิคที่ตั้งอยู่บนเกาะเกร็ด พร้อมต้อนรับทุกคนให้เข้ามาสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิกของโรงสีข้าวที่มีอายุกว่าร้อยปี
หลังจากที่แชะรูปตามมุมต่าง ๆ ของทางร้านกันจนหนำใจแล้ว แวะมาเติมพลังกันต่อด้วยเมนูคาวหวานสไตล์โฮมเมด ที่ปรุงรสด้วยเชฟมากฝีมือ ให้รสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย โดยทางร้านแนะนำให้เริ่มต้นที่เมนูทานง่ายอย่าง ปอเปี๊ยะโรงสี (250 บาท) ปอเปี๊ยะสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่เชฟครีเอทออกมาให้เป็นเมนูเอกลักษณ์ของทางโรงสี สตูดิโอโดยเฉพาะ ด้วยส่วนผสมของหมูและกุ้ง ประกบหน้ากันด้วยสาหร่าย เสิร์ฟแบบปอเปี๊ยะแผ่น พร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน
หรือจะลองเป็นเมนูอิ่มท้อง เพิ่มดีกรีความแซ่บขึ้นมาอีกหน่อยกับ ยำหัวปลีกุ้งสด (180 บาท) เมนูยำแบบไทย ๆ ที่เน้นชูรสชาติจากเครื่องเทศของไทยเป็นหลัก ให้ความหอมของเครื่องสมุนไพรและรสหวานนิด ๆ ออกรสเปรี้ยวหน่อย ๆ คลุกเคล้ามากับหัวปลีและกุ้งสดขนาดพอดีคำ เหมาะสำหรับทานกับข้าวสวยร้อน ๆ สักจาน
Rongsi Studio
เกาะเกร็ด ปากเกร็ด นนทบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 10.00 น.
โทร. 0-2082-8865
www.facebook.com/RongsiStudio