BKKMENU.com ขอเอาใจนักชิมสายรักสุขภาพสักหน่อยด้วยการพาไปลิ้มรสความอร่อยกับ 5 ร้านอาหารที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ From Farm To Table เน้นเสิร์ฟหลากหลายเมนูซึ่งคัดสรรวัตถุดิบที่ล้วนส่งตรงมาจากฟาร์มส่วนตัว อีกทั้งยังสร้างสรรค์บรรยากาศภายในร้านได้ราวกับนั่งทานอาหารอยู่ในฟาร์มอีกด้วย ส่วนจะเป็นที่ไหนบ้างนั้น ชาว Healthy Lovers ไปเช็คลิสต์พร้อม ๆ กันเลย
โอ้กะจู๋ ฟาร์มผักออร์แกนิกขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่ที่ขยายสาขามาที่ย่านสยามสแควร์ โดยยังคงคอนเซ็ปต์ ‘อาหารที่ปลูกด้วยความรัก สดจากฟาร์มส่งถึงคุณ’ เช่นเดิม เป็นการเปิดโอกาสให้คนกรุงเทพฯ ได้ทานอาหารออร์แกนิก โดยที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงเชียงใหม่ จำลองบรรยากาศสวนผักหรือโรงเรือนปลูกผักมาไว้ภายในร้าน เพื่อให้ใครที่แวะมาได้รู้ถึงที่มาที่ไปของฟาร์มผักออร์แกนิก รวมทั้งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้อินกับการทานผักมากขึ้น เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีอบอุ่น เพื่อให้ความรู้สึกผ่อนคลายในแบบบ้านมากที่สุด
เมนูอาหารส่วนใหญ่ที่ทางร้านเสิร์ฟนั้นยังคงเน้นเป็นสลัดผักออร์แกนิกจานโต นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายเมนูใหม่ซึ่งถูกครีเอทมาไว้เพื่อสาขานี้โดยเฉพาะ เริ่มต้นด้วย ปอเปี๊ยะสดปูโรล (130 บาท) ปอเปี๊ยะสดที่สอดไส้ครีมชีสด้านใน พร้อมด้วยแครอทบีทรูท แอปเปิ้ล ผักและสมุนไพรต่าง ๆ แบบอัดแน่นเต็มคำ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มเมี่ยงรสแซ่บ
ต่อด้วย สลัดน้ำพริกหนุ่ม (165 บาท) ซิกเนเจอร์เมนูที่สื่อถึงความเป็นเชียงใหม่ โดยนำเอาของดีจากภาคเหนืออย่างน้ำพริกหนุ่มซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของโอ้กะจู๋มาคลุกกับสลัดผักออร์แกนิกสด แคบหมู จากนั้นเพิ่มพาร์เมซานชีสและไข่ลวกเข้าไป เป็นการมิกซ์รสชาติอาหารเหนิอและอาหารตะวันตกที่เข้ากันได้ดี
ส่วนจานหลัก ต้องลอง สลัดแซลมอนโอเมก้า 3 และเต้าหู้ย่าง (285 บาท) สลัดแซลมอนที่สั่งตรงมาจากนอร์เวย์กับมูสลี่ที่นำมาเข้าเตาอบ โดยปราศจากการใช้เนยและน้ำมัน สุกกำลังดี ทานคู่กับเต้าหู้ย่าง ธัญพืชและผักออร์แกนิกที่ประกอบไปด้วยร็อกเก็ต ถั่วขาว คีนัว 3 สี ถั่วแขก ถั่วลูกไก่ เสิร์ฟคู่มากับน้ำสลัดงาขาวงาดำ และวอลนัท
โอ้กะจู๋
สยามสแควร์ ซอย 7 เขตปทุมวัน
เปิดทุกวัน เวลา 10.30 - 21.30 น.
โทร. 063-093-8388
www.facebook.com/ohkajhu
CORO Field Cafe ร้านอาหารที่เลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มครบวงจรของตัวเองที่ชื่อว่า CORO Field ฟาร์มออร์แกนิก 100% จังหวัดราชบุรี โดยตั้งอยู่ในเอสพลานาด รัชดา เพื่อเอาใจคนกรุงเทพฯ ที่อยากทานอาหารสดใหม่จากฟาร์ม ผ่านผลิตผลหลักอย่างเมล่อนสายพันธุ์จากญี่ปุ่น, มะเขือเทศสายพันธุ์มินิจากประเทศฮอลแลนด์, ผักสลัดปลอดสารพิษที่ให้การดูแลเป็นพิเศษโดยการรดน้ำด้วยน้ำแร่ และมันม่วงรสหวานที่ได้มาตรฐานของเกษตรกรชาวราชบุรี สำหรับสไตล์การตกแต่งร้าน ให้กลิ่นอายของความเป็นฟาร์มนิด ๆ ซึ่งได้มีการจำลองบรรยากาศบางส่วนจากฟาร์ม CORO Field มาประยุกต์ให้เข้ากับพื้นที่ภายในร้าน
อาหารและเครื่องดื่มหลากหลายเมนูของที่นี่ เป็นสไตล์ฟิวชั่นผสมกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น สัมผัสถึงความพิเศษของวัตถุดิบแต่ละตัวที่ทางร้านได้ครีเอทขึ้นโดยเฉพาะ อาทิ แซลมอนกระทะร้อน (295 บาท) แซลมอนชิ้นโตย่างร้อน ๆ เสิร์ฟมาบนกระทะ ฉ่ำซอสสูตรเข้มข้นซึ่งมีส่วนผสมของขิง ทานคู่กับผักย่าง ไม่ว่าจะเป็นเบบี้แครอท หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วลันเตา และมันม่วงบดเนื้อเนียน ได้รสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว
หรือจะเป็น อาหารไทยฟิวชั่นอย่าง โรตีน้ำพริกอ่องมะเขือเทศเชอร์รี่ (175 บาท) เป็นน้ำพริกอ่องที่ใช้มะเขือเทศเชอร์รี่ฮอลแลนด์เป็นวัตถุดิบหลัก เสิร์ฟมาคู่กับโรตีที่มีเนื้อแป้งกรอบนอกนุ่มใน พร้อมด้วยผักสลัดสดใหม่
ส่วนเมนูของหวานและเครื่องดื่มที่แนะนำคือ โฟลทโทมิเมล่อน (125 บาท) สมูทตี้โทมิเมล่อนที่ท็อปบนมาด้วยด้วยไอศกรีมเมล่อนอีกครั้ง รสเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่น
CORO Field Cafe
ชั้น G เอสพลานาดรัชดา ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.
โทร. 02-660-9341
www.facebook.com/corofieldcafe
Farm To Table, Hideout ครัวใหญ่ของ Farm To Table คาเฟ่ออร์แกนิก ที่เสิร์ฟไอศกรีมออร์แกนิกแบบสดใหม่จากฟาร์มออร์แกนิกที่ไร่ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ส่งตรงมาเสิร์ฟที่ร้านโดยเฉพาะ ร้านนี้ถูกซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็ก ๆ ย่านปากคลองตลาด ในบรรยากาศย้อนยุคนิด ๆ มองเห็นต้นไม้สีเขียวร่มรื่น สามารถนั่งทานอาหาร ขนม และจิบกาแฟกันแบบสบาย ๆ ไม่อึดอัด
เมนูอาหารของที่นี่ ถึงแม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่เมนูแต่ทุกเมนูก็เน้นรสชาติและวัตถุดิบคุณภาพสดใหม่ทุกจาน แนะนำ สลัดผักออร์แกนิก + ไข่ต้ม (82 บาท) สลัดผักจานใหญ่ที่มาพร้อมผักสด ๆ ข้าวโพดหวาน มะเขือเทศ ไข่ต้มยางมะตูมเยิ้ม ๆ กรูตอง ไก่ย่างเนื้อนุ่ม และน้ำสลัดข้าวกล้องจากเชียงใหม่
ส่วนเมนูขนมของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทางร้านเน้นการหยิบเอารสชาติของขนมไทยมาประยุกต์และเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมที่ขึ้นชื่อของทางร้าน สามารถเลือกรสไอศกรีมที่จะเสิร์ฟคู่กับขนมได้เอง ลองสั่ง ครัมเบิลกระเจี๊ยบแดง + เจลาโต้ (122 บาท) ฐานด้านล่างเป็นเนื้อเค้กแน่น ๆ ท็อปด้วยครัมเบิ้ลกระเจี๊ยบแดงกรุบ ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมเชอร์เบทมิกซ์เบอร์รี่และซอสเบอร์รี่รสเปรี้ยว
หรือจะเป็น ไอศกรีมขนุนลอดช่องวัดเจษฯ (65 บาท) ที่นำเนื้อขนุนปลูกเองมาปั่นผสมกับไอศกรีม พร้อมใส่ลอดช่องลงไป หอมหวาน ได้รสชาติที่ลงตัวกันอย่างมาก
Haoma ร้านอาหารที่นำเสนอคอนเซ็ปต์ของการทานอาหารในฟาร์มใจกลางกรุงเทพฯ โดยคำว่า Haoma หมายถึง ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อโบราณ โดยเป็นต้นไม้ที่เป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่งและหยั่งรากลึกเพื่อเป็นแหล่งสร้างความอุดมสมบรูณ์ให้แก่โลกนี้ การตกแต่งร้านจะเน้นผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้าไปให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้และปูนเปลือย ติดกระจกใสบานใหญ่รอบร้านเพื่อให้เห็นภาพของสวนผักด้านหลังร้าน และยังมีโซนที่นั่งบริเวณกลางสวนสำหรับช่วงเวลาเย็น ๆ อีกด้วย ภายในร้านสร้างสวนผักขึ้นมาจากความตั้งใจที่ต้องการเสิร์ฟอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายในสวนผักสีเขียวนี้ มีพืชผักและสมุนไพรกว่า 30 ชนิด ถูกปลูกด้วยวิธีที่ต่างกัน ไม่ว่าจะปลูกแบบ Hydroponics, Aquaponics หรือดินออร์แกนิก ซึ่งผักและสมุนไพรทุกชนิดที่ปลูกจะนำมาประกอบเมนูอาหารและเครื่องดื่มของทางร้านทั้งสิ้น
สำหรับเมนูแนะนำเริ่มจาก Buratta and the bubbles (390 บาท) จานสลัด Heirloom Tomatoes หลากสีสัน เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดชีสบูรัตต้าออร์แกนิกเนื้อนุ่ม โรยด้วยลูกเดือยและสาคูหมักกับน้ำส้มบัลซามิก ซอส Chimchurri และ Pesto ท็อปด้านบนสุดด้วยบับเบิ้ลมะเขือเทศ
ต่อด้วยจานที่มีพรีเซนเทชั่นสวยงามน่าประทับใจอย่าง Stick to the roots (370 บาท) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิดการกลับหัวของโลก โดยเชฟได้เลือกใช้ผักที่มีหัวฝังดิน เช่น บีทรูท, รากบัว, แครอท และอื่น ๆ นำมาปรุงในรูปแบบต่าง ๆ จัดวางบนจานและวาดจานให้คล้ายมีรากไม้แผ่ออกมา
ส่วนใครที่มองหาจานซีฟู้ด ลองสั่ง Deep Sea Diving (550 บาท) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องทะเล โดยเลือกใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นหอยเชลล์จากฮอกไกโด หนวดปลาหมึกยักษ์ มะเขือม่วง ซอสมิโซะ และถั่วแระญี่ปุ่นที่ทางร้านปลูกเอง
Haoma
231/3 ซอยสุขุมวิท 31 เขตวัฒนา
เปิด วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 17.30 - 23.00 น.
โทร. 061-460-5441, 02-258-4744
www.facebook.com/HaomaBKK
Joy Table หรือ Home Cooking Cafe สไตล์ญี่ปุ่นย่านลาดพร้าว-สุทธิสาร ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหาร เบเกอรี่โฮมเมด และเครื่องดื่มหลายชนิดให้คนรักสุขภาพได้มาลิ้มลอง คาเฟ่เล็ก ๆ แห่งนี้ออกแบบร้านมาในลักษณะของคาเฟ่โฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผ้าดิบ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบาย ๆ เป็นกันเอง เหมือนได้มาทานอาหารบ้านเพื่อนที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการทำฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ที่ชื่อว่า ต้นผักแมวน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผักสลัด จำหน่ายในรูปแบบของการขายส่งและขายปลีก เมนูอาหารของที่นี่จึงเน้นสลัด โดยจะนำผักไฮโดรโปนิกส์จากฟาร์มมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักของการทำอาหาร ซึ่งทุกเดือนจะมีการอัพเดตเมนูใหม่เรื่อย ๆ นอกจากเมนูสลัดแล้วก็ยังมีเมนูสปาเก็ตตี้ ซุป และโฮมเมดเบเกอรี่อีกมากมายให้ได้เลือกทานในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์อีกด้วย
สำหรับเมนูแนะนำ อุ่นท้องด้วยเมนูสลัดอย่าง สลัดเต้าหู้ย่าง (85 บาท) ที่นำเต้าหู้มาปรุงรสชาติให้มีความกลมกล่อม แล้วย่างบนกระทะร้อน ก่อนจะเสิร์ฟคู่กับสลัดผักสด ๆ ที่ราดด้วยน้ำสลัดงาญี่ปุ่น
และ สลัดแซลมอนรมควัน (105 บาท) แซลมอนที่เพิ่มกิมมิกด้วยการรมควันหอม ๆ กับผักสลัดที่ท็อปบนด้วยไข่ออนเซ็น และราดด้วยน้ำสลัดงาญี่ปุ่นรสเข้มข้น
ส่วนเมนูเครื่องดื่ม ลองสั่ง Green Detox (85 บาท) น้ำผักผลไม้ปั่นสดที่นำกรีนโอ๊คมาผสมกับน้ำมะนาว แอปเปิ้ล แตงกวาญี่ปุ่น น้ำผึ้ง และเมล็ดเจียที่ช่วยเสริมสรรพคุณเรื่องระบบย่อยอาหาร ดื่มง่าย มีรสชาติกลมกล่อม
Joy Table
56 ซอยลาดพร้าว 64 แยก 6 วังทองหลาง
เปิด วันพฤหัสบดี - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 20.00 น.
โทร. 087-838-2201
www.facebook.com/joytablecafe