Talaychan Patisserie

Weekend Cafe

ใครที่มองหาร้านขนมน่านั่งในช่วงสุดสัปดาห์ แวะมาพักผ่อนและชิมขนมกับเพื่อน ๆ กันที่ร้าน Talaychan Pâtisserie คาเฟ่เล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านพระราม 9 ท่ามกลางสวนธรรมชาติอันเงียบสงบ โดยเน้นเสิร์ฟขนมสไตล์ฝรั่งเศสโฮมเมดเอาใจคนที่หลงใหลในขนมหวานอย่างแท้จริง

Homey Atmosphere

ตัวร้านรีโนเวทจากบ้านหลังเดิมให้เป็นร้านขนมสุดอบอุ่น ด้านหน้ามีสวนน้ำพุที่โอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เมื่อเดินเข้ามาด้านในร้าน จะพบกับตู้แช่ที่มีขนมหลากหลายแบบรอเสิร์ฟอยู่ บริเวณกลางร้านมีโต๊ะไม้เก่าจากร้าน L'ARREDO สำหรับใครที่มากันหลายคน พร้อมทั้งยังมีห้องกระจกใสให้นั่งเอนกายชิลล์ ๆ ได้ทั้งวัน หรือจะนั่งรับลมเย็น ๆ ด้านนอกได้เช่นกัน

Heartmade Desserts

ส่วนขนมของทางร้านครีเอทโดย คุณเต้น เจ้าของร้าน ที่ชื่นชอบการทำขนมมาตั้งแต่เด็ก และไปเรียนการทำขนมที่ Le Cordon Bleu ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะกลับมาเป็นครูสอนที่ Le Cordon Bleu ประเทศไทย ซึ่งรวม ๆ แล้วมีประสบการณ์ในการทำขนมกว่า 20 ปี จนเริ่มออกมาทำขนมเองอย่างจริงจังและวางขายที่งาน Bangkok Farmer’s Market พร้อมกับมีร้านของตัวเองที่เปิดเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เท่านั้น ทางร้านยังใส่ใจในขนมทุกชิ้น โดยอบสดใหม่วันต่อวัน และเลือกใช้วัตถุดิบนำเข้าแทบจะทุกตัว เริ่มต้นสั่งขนมชิ้นแรกที่เป็นตัวขายดีของทางร้าน อย่าง Tart Tatin (155 บาท) หรือแอปเปิ้ลทาร์ต ที่ทางร้านใช้แป้งพัฟและเนยจากฝรั่งเศส แล้วซ้อนด้วยเนื้อแอปเปิ้ลฟูจิและแอปเปิ้ลเขียว ก่อนจะเคลือบหน้าด้วย Caramelized Apple ตบท้าย เสิร์ฟมากับวิปปิ้งครีมช่วยให้รสชาตินุ่มลิ้น

​หรือลองสั่งเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Douceur Chocolate (195 บาท) เค้กไข่ขาว ผสมกับถั่วเฮเซลนัทและอัลมอนด์ ซ่อนความกรุบกรอบไว้ตรงกลางด้วยพราลีน หรือคาราเมลกับถั่วบด พร้อมตกแต่งด้วยแผ่นช็อคโกแลตบาง ๆ บนมิลค์ครีมช็อคโกแลต ให้รสสัมผัสนุ่มและกรอบไปพร้อม ๆ กันมาต่อด้วย Mille Feuille (155 บาท) อีกหนึ่งซิกเนเจอร์เมนูหน้าตาสวยงามที่ใช้แป้งพัฟเนื้อเบาอบกรอบ สอดไส้วานิลลาครีมเนื้อเนียน พร้อมเพิ่มผลไม้ต่าง ๆ ให้รู้สึกสดชื่น ทั้ง สตรอเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่ รสชาติหวานอมเปรี้ยว ทานได้ง่ายไม่เลี่ยน

Petit Fours

ใครที่อยากลองชิมหลาย ๆ ชิ้นในราคาสุดคุ้ม ทางร้านก็มีแบบเซ็ตให้เลือก โดย Set A (250 บาท) ประกอบด้วยซิกเนเจอร์ 4 ชิ้น พร้อมเครื่องดื่มที่เลือกจับคู่ได้เอง 1 แก้ว โดยในจานมีทั้ง Mille Feuille, Lemond Tart, Caramel Nut Tart และ Douceur Chocolate โดย Lemond Tart จะพิเศษตรงที่ไม่ใส่เจลาติน เนื้อสัมผัสแน่น อยู่ได้นานโดยครีมไม่ละลาย และไม่เหม็นกลิ่นคาวไข่เหมือนเลมอนทาร์ตทั่วไป ส่วน Caramel Nut Tart เป็นแป้งเค้กช็อคโกแลตที่ท็อปด้วยแมคคาเดเมียและอัลมอนด์ให้เคี้ยวกรุบกรอบ เป็นเมนูที่ทางร้านประยุกต์ให้เข้ากับรสชาติที่คนไทยชอบ

Drinks To Enjoy

หากกำลังมองหาเครื่องดื่มร้อน ๆ คู่กับขนม ลองสั่ง Americano (95 บาท) ที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟของ Prima Coffee จังหวัดเชียงใหม่ มีบอดี้เข้ม รสชาติออกเปรี้ยว เสิร์ฟคู่กับคุกกี้ช็อคโกแลต ทำให้มีรสขมและหวานไปพร้อม ๆ กัน

แต่ถ้าไม่ชอบดื่มกาแฟ ทางร้านแนะนำ Hot Chocolate (110 บาท) ช็อคโกแลตร้อนรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟมากับไซรัปให้เติมความหวานเอง หรือจะสั่ง Lemond Soda (100 บาท) โซดากับน้ำเลมอนรสเปรี้ยว ดื่มแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น