Cafe x Film
ท่ามกลางกระแสของกล้องฟิล์มที่กำลังกลับมา เราจึงอยากชวนคุณลองมาสัมผัสบรรยากาศแห่งการผสมผสานระหว่างร้านล้างฟิล์มและบาร์กาแฟที่รวมไว้ในแห่งเดียวอย่าง Analox Film Cafe คาเฟ่เล็ก ๆ ริมถนนใหญ่ใจกลางเมืองย่านช่องนนทรี ซึ่งเกิดจากการนำเอาความชอบของทั้งสองสิ่งมารวมกันเป็นคาเฟ่กล้องฟิล์มด้วยฝีมือทีมงานสังกัดวงดนตรี Cocktail ชื่อดัง เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Analox Film Cafe โดยต้องการให้พื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือนคอมมูนิตี้แห่งใหม่เอาใจเหล่าคนรักกล้องฟิล์ม
Industrial Loft Style
หากใครที่แวะเวียนผ่านมา จะต้องสะดุดตากับดีไซน์หน้าร้านที่สอดแทรกกลิ่นอายความดิบเท่ด้วยการเลือกใช้โทนสีดำและผนังปูนเปลือย โดดเด่นด้วยมุมเคาน์เตอร์บาร์กาแฟหน้าร้าน พร้อมประตูเหล็กด้านข้างที่ถอดรูปแบบร่างมาจากกล้องฟิล์ม ทันทีที่เปิดประตูก้าวเข้ามาในร้าน จะพบกับการตกแต่งแบบเรียบง่ายสไตล์ Industrial Loft บวกกับกล้องฟิล์มโบราณที่วางประดับประดาอยู่ทั่วมุมร้าน นับเป็นการผสมผสานกลิ่นอายความคลาสสิกออกมาได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังแบ่งพื้นที่มุมด้านหลังของตัวร้านให้เป็นห้องล้างฟิล์มขนาดกะทัดรัด พร้อมเปิดรับแสงด้วยกระจกใสบานใหญ่ให้สามารถมองดูกระบวนการล้างฟิล์มได้ในระหว่างรอเครื่องดื่ม
เรียกได้ว่า Analox Film Cafe ครอบคลุมทุกการให้บริการอย่างแท้จริง ทั้งด้านการบริการล้างและสแกนฟิล์มร่วมกับการจำหน่ายฟิล์มอีกหลากหลายรูปแบบ พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยเมนูเครื่องดื่ม Signature ที่ทางร้านครีเอตทุกเมนูมานำเสนอในคอนเซ็ปต์ของกล้องฟิล์มทั้งสิ้น
All Signature Drinks
เริ่มกันที่เมนูแนะนำของทางร้านอย่าง Analox (125 บาท) เมนูกาแฟนมที่ได้รับไอเดียมาจาก Dirty Coffee ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นเมนูนี้ ต้องผ่านกระบวนการนำกาแฟ Espresso Shot ไปหมักบ่มเป็นเวลาถึง 2 วัน เพื่อชูรสชาติของกาแฟให้เข้มข้นและหอมกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร โดยเสริมความหอมละมุนด้วยนมกะทิ พิเศษด้วยการครีเอตขอบแก้วจากน้ำตาลมะพร้าวเคี่ยวเองของทางร้าน ให้รสสัมผัสหอมหวานคล้ายคาราเมล ก่อนจะเสริมความกรุบกรอบด้วยถั่วลิสงและมะพร้าวอบกรอบเป็นการปิดท้าย
ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน แนะนำ Monochrome (125 บาท) เมนูเครื่องดื่มที่ผสมผสานระหว่างพานาคอตต้าและกาแฟเข้าไว้ด้วยกัน ครีเอตเมนูออกมาในโทนสีขาวตัดกับดำ โดยมีส่วนผสมจากพานาคอตต้ารสนุ่มละมุน พร้อมเพิ่มความหอมกรุ่นด้วยโทนสีดำที่มีส่วนผสมระหว่าง Black Mocca, Espresso Shot และ Almond Milk แก้วนี้ให้รสชาติเข้มข้น หอมกลมกล่อมแบบครีมมี่ ผสมผสานความอร่อยออกมาได้อย่างลงตัว
สร้างความสดชื่นกันต่อด้วยเมนูเครื่องดื่มอย่าง Vivid (125 บาท) เมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Sangria เครื่องดื่มประเภทไวน์หมักจากประเทศสเปน อันเต็มไปด้วยส่วนผสมของน้ำองุ่น Cold Pressed ที่นำมาหมักกับผลไม้หลากหลายชนิด อาทิ ส้ม เลมอน แอปเปิ้ล และพีช โดยใช้เวลาหมักและสกัดเป็นเวลานานถึง 2 วัน ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน พร้อมทั้งรสสัมผัสอันความซับซ้อนผลไม้หลากหลายชนิดที่มอบความสดชื่นระหว่างดื่มแบบเต็มคำ
ตามมาด้วย Sepia (125 บาท) กาแฟเอสเพรสโซรสเข้มข้น ที่ผสมผสานความหอมสดชื่นด้วยเกรปฟรุ๊ต บวกกับ Lemon Syrub Homemade ที่ทางร้านครีเอตขึ้นเองโดยเฉพาะ เสิร์ฟมาพร้อมเกรปฟรุ๊ตสดและเปลือกเลมอนขูด ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เหมาะกับการสร้างความสดชื่นระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
เอาใจคนรักโกโก้ด้วยเมนู Cocoa Blend (95 บาท) ที่ครีเอตความอร่อยโดยใช้กรรมวิธีการทำให้เย็นจัดด้วยการนำไปปั่นกับน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟมาในแก้วแช่เย็น ที่ช่วยคงความเข้มข้นของรสชาติให้อยู่ได้นาน จากนั้นโรยด้วยผงโกโก้เป็นการปิดท้าย ให้รสชาติกลมกล่อม หวานมัน ดื่มแล้วสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นของโกโก้แบบเต็มคำ
Recommended Dessert
สำหรับเมนูขนมหวาน แนะนำ Banana Bread (150 บาท) เค้กกล้วยหอมสูตรโฮมเมด ที่ผสมผสานความหอมหวานด้วยไอศกรีมวานิลลา โดยเสิร์ฟมาคู่กับกล้วยหอมพร้อมวิปครีมเนื้อนุ่ม ที่เสริมความละมุนด้วยซอสคาราเมลสูตรพิเศษที่ทางร้านเคี่ยวเองโดยเฉพาะ ให้รสชาติหวานกำลังดี เสริมรสชาติได้เข้ากันกับเมนูเครื่องดื่มของทางร้าน