Published on September 28, 2023

From Chiang Mai to Bangkok

จากไร่ชาออร์แกนิกในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ อย่าง ‘Araksa Tea Garden’ หนึ่งในไร่ชาเก่าแก่ของประเทศไทย ที่มุ่งมั่นในการรักษาวัฒนธรรมการดื่มชาแบบดั้งเดิม รวมถึงใส่ใจและให้ความสำคัญกับธรรมชาติแบบยั่งยืน ไปจนถึงวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนท้องถิ่น สู่ ‘Araksa Tea Room’ ห้องน้ำชาในตึกเก่าบนถนนเจริญกรุง พร้อมเสิร์ฟความหอมกรุ่นของชาในแบบฉบับชาวไร่ให้คนเมืองได้ลองสัมผัสประสบการณ์การดื่มชาไม่เหมือนที่ไหน ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบแสนผ่อนคลาย ที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงเชียงใหม่ก็ได้ซึมซับกลิ่นอายความ Slow Life ไปกับพื้นที่แห่งนี้

 

งานศิลปะม้งเชียงรายบนผนังกลางร้านขนาดใหญ่

 

หยิบยกเอากลิ่นอายบรรยากาศของไร่ชาจังหวัดเชียงใหม่มาไว้ที่นี่ได้อย่างน่าสนใจ

Welcome to Araksa Tea Room

ท่ามกลางมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องอันเก่าแก่ในย่านเจริญกรุง ได้เป็นที่ตั้งของ Araksa Tea Room ที่หยิบยกเอากลิ่นอายบรรยากาศของไร่ชาจังหวัดเชียงใหม่มาไว้ที่นี่ได้อย่างน่าสนใจ นับตั้งแต่ทางเข้าก็ชวนสะดุดตาด้วยอาคารสีขาวบริเวณหัวมุมพร้อมประตูและหน้าต่างไม้ ชวนให้เราเข้าไปสัมผัสความอบอุ่นด้านใน

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปจะพบกับบรรยากาศเงียบสงบ เรียบง่าย ผ่านการดีไซน์ที่เน้นใช้วัสดุไม้และไม้ไผ่ ก่อนจะสอดแทรกกิมมิกความเก๋เอาไว้ด้วยของตกแต่งต่าง ๆ อย่างสิ่งทอและงานเซรามิกจากช่างฝีมือท้องถิ่นไทย รวมถึงงานศิลปะม้งเชียงรายอย่างสิ่งทอบนผนังกลางร้านขนาดใหญ่ ที่สื่อถึงความเป็นภาคเหนือได้อย่างชัดเจน

 

จากไร่ชาในจังหวัดเชียงใหม่ สู่ ‘Araksa Tea Room’ ห้องน้ำชาในตึกเก่าบนถนนเจริญกรุง

 

ภายในร้านตกแต่งด้วยสิ่งทอและงานเซรามิกจากช่างฝีมือท้องถิ่นไทย

 

บรรยากาศเงียบสงบ เรียบง่าย ผ่านการดีไซน์ที่เน้นใช้วัสดุไม้

Organic Tea from Garden in Chiang Mai

สำหรับความพิเศษของชาจากทางร้าน อยู่ที่การนำเสนอศิลปะแห่งการดื่มชาแบบดั้งเดิมที่ส่งตรงใบชากว่า 20 ชนิด มาจากไร่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นชาออร์แกนิกที่ปลูกโดยกลุ่มคนท้องถิ่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชาวเขา อาข่า ม้ง และลีซอ ควบคู่ไปกับชาวไทย จนได้ชาที่ดีที่สุดพร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลิ้มลอง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านชาที่จะคอยแนะนำและแบ่งปันเทคนิคการชงชาให้กับคุณ

 

นำเสนอศิลปะแห่งการชงชาแบบดั้งเดิม

 

ส่งตรงใบชากว่า 20 ชนิด มาจากไร่จังหวัดเชียงใหม่

เริ่มต้นด้วยชาขาวอย่าง Sayun (320 บาท) ยอดชาที่ทางไร่ใส่ใจในการเก็บเกี่ยวด้วยมืออย่างพิถีพิถันในช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ตก ทำให้ได้ชาในรสชาติเข้มข้นจากการเจอแสงแดดมาตลอดวัน ในขณะเดียวกันยังให้กลิ่นหอมคล้ายดอกไม้และผลไม้ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้ดี

มาต่อกันที่ชาเขียว ขอแนะนำ Thida Green Tea (200 บาท) ชาเขียวที่ผ่านกระบวนการทำแบบดั้งเดิมโบราณ คือการใช้ไฟในการคั่ว ก่อนจะนำมานวดแล้วอบจนแห้ง ทำให้ได้กลิ่นหอมพร้อมรสชาติชัดเจน แทรกด้วยกลิ่นน้ำผึ้งและดอกไม้ ไม่ว่าจะดื่มคู่กับเมนูไหนก็เข้ากันได้อย่างลงตัว

 

Sayun (320 บาท), Thida Green Tea (200 บาท), Silk (Dark Oolong) (200 บาท), Aoon Jai (200 บาท)

 

สัมผัสประสบการณ์การดื่มชาในบรรยากาศอันเงียบสงบแสนผ่อนคลาย

ตามด้วยชาในหมวดอู่หลง ต้องลอง Silk (Dark Oolong) (200 บาท) ชาประเภทกึ่งหมักที่ให้รสชาติระหว่างชาเขียวและชาดำ หลังจากผ่านกระบวนการเก็บเกี่ยวใบชาจะถูกนำมาผึ่งแห้งเพื่อให้เกิด Oxidation ส่งผลต่อสี กลิ่น และรสชาติของชา ซึ่งจะทำให้ได้ความเข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์ สำหรับเมนูนี้มีความพิเศษอยู่ที่ทางร้านได้ Tea Specialist ชาวฝรั่งเศสมาครีเอตรสชาติให้ โดยสอดแทรกคาแรกเตอร์ของ Araksa เข้าไป ทำให้ได้รสชาติเข้มข้น หอมละมุน ควบคู่ไปกับกลิ่นน้ำผึ้ง ดอกไม้ และผลไม้ ไปในคราวเดียวกัน

อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์ ต้องขอยกให้กับชาในหมวด Raw Pu’er อย่าง Aoon Jai (200 บาท) ชาเพื่อสุขภาพที่ผ่านกระบวนการหมักด้วยจุลินทรีย์ตั้งแต่ปี 2018 เป็นเวลานานกว่า 5 ปี ทำให้ได้สีและรสชาติเข้มข้น พร้อมกลิ่นหอมไปในโทนน้ำผึ้งและผลไม้แห้ง เหมาะสำหรับคนชอบดื่มชาเข้ม ๆ ที่มีกลิ่นแบบชัดเจน

 

ชา Raw Pu’er ที่ผ่านกระบวนการหมักด้วยจุลินทรีย์เป็นเวลานานกว่า 5 ปี

 

พร้อมเสิร์ฟความหอมกรุ่นของชาในแบบฉบับชาวไร่ให้คนเมืองได้ลองสัมผัส

Homemade Baked Goods

จากนั้นมาลอง Pairing ชาร้อนกับขนมโฮมเมดแสนอร่อยของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็น Scone (95 บาท) สโคนโฮมเมดที่มีให้เลือกถึง 4 รสชาติ ได้แก่ Pain / Lemon / Cranberry / Strawberry เสิร์ฟมาให้ทานพร้อมครีมและแยมสตรอเบอร์รีที่เข้ากันได้อย่างลงตัว

 

Scone (95 บาท)

ตามด้วย Earl Grey Creme Brulee (180 บาท) เครมบรูเลที่เพิ่มสัมผัสแปลกใหม่ด้วยส่วนผสมของชาเอิร์ลเกรย์ ทำให้ได้กลิ่นหอม พร้อมรสชาติกลมกล่อม และความนุ่มละมุนแบบเต็มคำ

 

Earl Grey Creme Brulee (180 บาท)

Slow Food

นอกจากจะได้สัมผัสการดื่มชาควบคู่ไปกับขนมอบโฮมเมดที่หลากหลายแล้ว Araksa Tea Room แห่งนี้ยังพร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Slow Food’ โดดเด่นด้วยการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากหลากหลายท้องถิ่นในไทย ก่อนจะนำมาครีเอตรสชาติอย่างพิถีพิถันและใส่ใจโดยเชฟมากประสบการณ์

สำหรับเมนูแรก ขอแนะนำ ยำใบชาทอด (280 บาท) ใบชาส่งตรงจากไร่ที่ทางร้านนำไปชุบแป้งทอดจนกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำยำรสเข้มข้น จัดจ้าน มีหลากหลายน้ำยำให้เลือกทาน อาทิ ยำไก่ เห็ด และเมี่ยงคำ เป็นอีกหนึ่งจานที่ทานได้แบบเพลิน ๆ

 

ยำใบชาทอด (280 บาท)

ตามด้วย ข้าวยำ (240 บาท) ข้าวหอมมะลิจากตำบลแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ นำไปหุงกับกะทิ อัญชัน และขมิ้น จนได้ความหอมมัน กลมกล่อม เคียงมาพร้อมสมุนไพรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ถั่ว หัวหอม ตะไคร้ พริก ขิง งา และดอกดาหลา ก่อนจะนำมาคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ทานคู่กับน้ำพริกเผา ช่วยเสริมรสชาติให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น

 

ข้าวยำ (240 บาท)

มาถึงเมนูแนะนำที่ต้องลอง คือ ขนมจีนน้ำยาปู (440 บาท) เส้นขนมจีนออร์แกนิกที่ให้รสสัมผัสเหนียวนุ่มกำลังดี เสิร์ฟมาพร้อมน้ำยาปูที่ทำมาจากเครื่องแกงใต้ ทำให้ได้รสชาติความเข้มข้น ที่ผสมผสานกับเนื้อปูแบบเต็ม ๆ คำ

 

ขนมจีนน้ำยาปู (440 บาท)

อีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แนะนำ ​ฉู่ฉี่ปลา (340 บาท) มาพร้อมรสชาติกลมกล่อมกำลังดี ที่ผสานความเข้มข้น จัดจ้าน จากเครื่องแกงใต้ เสิร์ฟมาพร้อมปลาอินทรีเนื้อแน่นชิ้นใหญ่ ไม่ว่าใครทานก็ต้องถูกใจ

 

ฉู่ฉี่ปลา (340 บาท)

ปิดท้ายด้วยเมนูง่าย ๆ แต่หาทานได้ยาก อย่าง ไข่เจียวรากชู (140 บาท) ไข่เจียวที่ทอดมาจนได้สีเหลืองทอง มาพร้อมส่วนผสมของ ‘รากชู’ ผักพื้นบ้านของทางภาคเหนือที่มีกลิ่นคล้ายกุยฉ่าย ให้รสชาติแปลกใหม่พร้อมความนุ่มละมุนของไข่ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี

 

ไข่เจียวรากชู (140 บาท)

นอกจากนี้ Araksa Tea Room แห่งนี้ ยังพร้อมเสิร์ฟเมนูค็อกเทลในยามค่ำ โดยนำเอาวัตถุดิบชามาเป็นส่วนผสมหลักในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงยังชูวัตถุดิบของไทยตามจังหวัดต่าง ๆ ผ่านการนำเสนอเรื่องราวเส้นทางการเดินทางของใบชาจากเชียงใหม่มาสู่กรุงเทพมหานครอีกด้วย
Info
Hours
Open : 10AM - 10PM
Sun : 10AM - 10PM
Mon : Closed
Tue : 10AM - 10PM
Wed : 10AM - 10PM
Thu : 10AM - 10PM
Fri : 10AM - 10PM
Sat : 10AM - 10PM
Price

฿฿฿ 301-500 บาทต่อคน

Address
ซอยเจริญกรุง 38 เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

MRT หัวลำโพง

BTS สะพานตากสิน

Facilities
Suggest an Edit