บ้านสุริยาศัย

Published on October 24, 2018

The Aesthetic of Soontaree Life

ดื่มด่ำสุนทรียรส ไลฟ์สไตล์การกิน-ดื่มท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิกของ บ้านสุริยาศัย ร้านอาหารไทยย้อนยุคบนถนนสุรวงศ์ หนึ่งในร้านที่ร่วมแคมเปญ Mekhong Thai Spirit Cocktails 2018 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดค็อกเทลสัญชาติไทยที่รังสรรค์จากวัตถุดิบท้องถิ่นและสุราไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 8 ทศวรรษอย่าง Mekhong


ร้านอาหาร บ้านสุริยาศัย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ตัวเรือนไทยออกแบบในสไตล์โคโลเนียลผสมวิคตอเรียน เพื่อให้ร่วมสมัยเป็นร้านอาหารไทยภายใต้แนวคิด ‘สุนทรีย์ ไลฟ์’ สถานที่ที่เป็นมากกว่าร้านอาหาร เพราะมอบช่วงเวลาแห่งความสุนทรีย์ให้แก่ผู้ที่มาเยือนอย่างครอบคลุม ทั้งในส่วนของการให้บริการด้านอาหาร Content Bar สำหรับเสิร์ฟเครื่องดื่ม ทีรูมสำหรับจิบชายามบ่าย และสตูดิโอสอนทำอาหารไทย

 

เรือนไทยสีขาวสุดคลาสสิก สัญลักษณ์ของบ้านสุริยาศัย

แต่เดิมบ้านเรือนไทยหลังนี้เป็นสมบัติของต้นตระกูลบุนนาค มีอายุยาวนานเกือบ 100 ปี นับตั้งแต่ต้นสมัยรัชกาลที่ 6 ออกแบบอย่างประณีตโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่ผสานเข้ากับตะวันออกได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะมองจากภายนอกที่ได้บรรยากาศความร่มรื่นของแมกไม้ หรือภายในที่ออกแบบและตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจให้ได้กลิ่นอายของความคลาสสิก เรียบหรูและบรรยากาศอบอุ่นราวกับได้รับเชิญมาเยี่ยมบ้านราชนิกุลสมัยก่อนอย่างไรอย่างนั้น

 

โถงกลางบ้านสุริยาศัย บริเวณโซนห้องอาหารไทยมีมุมแกลเลอรีเล็ก ๆ ให้ได้ทราบประวัติความเป็นมาของบ้านหลังนี้

บ้านสุริยาศัย แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซนหลัก ๆ ได้แก่ โซนร้านอาหาร บริเวณชั้น 1 ของตัวบ้าน  เสิร์ฟอาหารไทยแบบดั้งเดิม ดัดแปลงอาหารตำรับชาววังหลากหลายสูตรจากต้นเครื่องและหม่อมราชวงศ์หลายท่านในรูปแบบเมนูโบราณต่าง ๆ, โซนทีรูม บริเวณชั้น 1 ของตัวบ้านอีกเช่นกัน เป็นโซนคอร์ทยาร์ดให้ได้จิบชากรุ่นกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน พร้อมด้วยกาแฟและของว่างทั้งขนมไทยโบราณตำรับชาววังและแบบตะวันตก, โซนสตูดิโอสอนทำอาหารไทย ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ที่สนใจได้เรียนทำอาหารไทยแบบตัวต่อตัว สูตร Home Cooking ที่สามารถทำทานเองได้ที่บ้าน และ โซน Content Bar บาร์ย้อนยุคแบบร่วมสมัยที่พร้อมเสิร์ฟเมนูค็อกเทลไทยและมีมุมพิพิธภัณฑ์แม่โขงขนาดย่อมที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นไทยของสุราไทยให้ได้เพลิดเพลินกันระหว่างจิบเครื่องดื่มอีกด้วย
 

คอร์ทยาร์ทหรือโซนทีรูมให้จิบชายามบ่ายท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ

The Essential Spot for Drinker and Art lover

ในส่วนของโซนไฮไลท์อย่าง Suriyasai Content Bar จุดเด่นของบาร์แห่งนี้คือการนำเอาเรื่องราวความเป็นไทยและเอกลักษณ์ของแบรนด์แม่โขงมาตีความและถ่ายทอดในรูปแบบใหม่ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ทั้งไทยและต่างชาติดื่มด่ำไปกับสุนทรียภาพแห่งความเป็นไทยได้อย่างลึกซึ้ง ผ่านบรรยากาศการออกแบบของร้านในสไตล์ร่วมสมัย ค็อกเทลไทยหลากหลายเมนู 

 

โซนบาร์หลักที่พร้อมเสิร์ฟค็อกเทลไทยร่วมสมัยหลากหลายเมนู

 

หนึ่งในโซนพิพิธภัณฑ์แบรนด์สุราไทย 'แม่โขง'

ภายใน Content Bar จะได้สัมผัสถึงเอกลักษณ์ของ Mekhong The Spirit of Thailand ในช่วงเวลาต่าง ๆ ผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ ของบาร์ ประกอบไปด้วย Main Bar พื้นที่ในการผสมเครื่องดื่มและค็อกเทลต่าง ๆ ซึ่งได้จัดแสดงเรื่องราวของแม่โขงผ่านขวดในยุคต่าง ๆ, Mini Bar ที่นั่งบริเวณบาร์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำรสชาติค็อกเทลไทยพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับบาร์เทนเดอร์โดยตรง 

 

Cigar Room สุดส่วนตัว

และ Cigar Room ห้องซิการ์ที่ถูกจัดสรรเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ยังสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยรอบของบาร์ได้ด้วยการออกแบบในสไตล์กึ่ง Open Space นอกจากนี้ยังมีเวทีสำหรับวงดนตรีไทยร่วมสมัยที่จะมาช่วยสร้างสุนทรียภาพในการดื่มอย่างสมบูรณ์แบบ

 

พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมที่ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์สุราไทย 'แม่โขง'

Suriyasai Handcrafted Thai Cocktails

และเมนูค็อกเทลไทย หรือ Signature Drink ที่ทางบาร์แนะนำ ได้แก่ ขุนศึก (355 บาท) ค็อกเทลที่ให้ความรู้สึกหนักแน่น แข็งแกร่ง ร้อนแรง เปรียบเสมือนนักรบที่พร้อมจะออกศึกในสมัยโบราณ ได้แรงบันดาลใจมาจากการดื่มน้ำจันทน์เพื่อปลุกใจให้ฮึกเหิมก่อนออกรบ ค็อกเทลแก้วนี้สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Mekhong ที่ให้ทั้งกลิ่นของวานิลลา, คาราเมล ผสมผสานกับสมุนไพรพื้นบ้านของไทย ทั้งกระวาน อบเชย กานพลู ขิง ข่า และอื่น ๆ มากกว่า 10 ชนิด ให้ได้รสชาติที่ร้อนแรงยิ่งขึ้น ก่อนจะตกแต่งด้วยตะไคร้ซึ่งเปรียบเสมือนหอกและดาบประจำกายของนักรบ และมาลัยซึ่งเปรียบกับของมงคลแทนใจติดตัวไว้ก่อนออกศึก

 

ขุนศึก (355 บาท)

และ ขุนนาง (395++ บาท) ค็อกเทลไทยที่มีส่วนผสมของ Mekhong มีเรื่องราวสอดคล้องกับค็อกเทล ‘ขุนศึก’ จากการแข่งขัน Mekhong Thai Spirit Cocktails เมื่อปี 2560 ซึ่งทางบ้านสุริยาศัยได้ส่งค็อกเทลนี้ลงแข่งขัน เปรียบเสมือนการออกรบแล้วได้รับชัยชนะกลับมา ได้รับการแต่งตั้งหรือเลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์ให้เป็นขุนนาง

 

บาร์เทนเดอร์ตั้งใจครีเอทเมนูค็อกเทล 'ขุนนาง' อย่างสุดฝีมือ

ค็อกเทลขุนนางมีส่วนผสมของมะม่วงมหาชนก ซึ่งเป็นมะม่วงพันธุ์ใหม่ที่มีการผสมข้ามสายพันธุ์โดยบังเอิญ มีรสชาติอร่อย หอมหวาน ให้สีเหลืองอร่ามเหมือนทองคำของมีค่าในสมัยก่อน อีกทั้งยังเลือกใช้ผลไม้ในทวีปยุโรป เช่น พีชสด และ Citrus เข้ามาผสมผสานในค็อกเทลให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น กลายมาเป็นค็อกเทลขุนนางที่มีความหอมหวาน รสนุ่มละมุน ให้ความละเมียดละไม สื่อถึงความแข็งแกร่งและอ่อนโยนในตัว สุขุมนุ่มลึกเหมือนขุนนางนั่นเอง 

 

ขุนนาง (395++ บาท)

Suriyasai Cuisine

บ้านสุริยาศัยโดดเด่นด้วยตำรับอาหารไทยแท้แบบชาววัง ในลักษณะของ Home Taste ที่มอบรสชาติอาหารไทยสูตรเฉพาะของครอบครัวแต่ละสกุลซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมดัดแปลงตำรับชาววังหลากหลายสูตรจากต้นเครื่องหม่อมราชวงศ์หลายท่าน เลือกใช้วัตถุดิบไทยในครัวเรือนมาครีเอทในรูปแบบเมนูโบราณต่าง ๆ ที่ดูร่วมสมัย น่าทานมากยิ่งขึ้น 

 

บรรยากาศภายในโซนร้านอาหารไทยตำรับชาววัง

 

ตกแต่งร้านด้วยธีมสีขาว ให้บรรยากาศอบอุ่นสมกับเป็นร้านอาหารไทยตำรับชาววังสำหรับครอบครัว

สำหรับเมนูแนะนำ เริ่มต้นกันที่ หมี่กรอบชาววัง (390 บาท) หมี่กรอบตำรับการทอดของหม่อมหลวงเนื่อง ให้รสเปรี้ยวโด่ง หวานนำ ต่างจากหมี่กรอบทั่วไปเพราะไม่อมน้ำมัน มีวัตถุดิบที่สำคัญคือ มะขามเปียก น้ำมะนาว น้ำตาลปีบ และโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของส้มซ่าเป็นหลัก ใช้เครื่องสดแบบจานต่อจาน ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวานอย่างลงตัว

 

หมี่กรอบชาววัง (390 บาท)

ตามมาด้วย ข้าวคลุกรัชกาลที่ 6 (320 บาท) เมนูข้าวคลุกน้ำพริกเผาและเครื่องแนมตามตำราของม.ล.ปอง มาลากุล ประกอบด้วยไข่แดงจากไข่เค็ม เนื้อไก่ฉีก หมูสามชั้น ปลาย่าง และกุ้งแห้ง ก่อนจะโรยด้วยผิวของส้มซ่า แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสให้ได้ความเผ็ดและความเปรี้ยวอมหวาน เสิร์ฟทานคู่กับแตงกวาและมะม่วงเปรี้ยว 

 

ข้าวคลุกรัชกาลที่ 6 (320 บาท)

ปิดท้ายด้วย ผัดพริกขิงตามเสด็จฯ แปลง (550 บาท) เมนูผัดพริกขิงแบบชาววังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเสด็จประพาสต้นของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ในยุคสมัยก่อนซึ่งทรงโปรดให้ห้องเครื่องของสวนสุนันทาทำสำรับกับข้าวติดตาม ดัดแปลงให้ง่ายต่อการพกพาด้วยการทำผัดพริกขิงที่มีความแห้งกรอบเป็นพิเศษ โดยนำเครื่องต่าง ๆ อาทิ กากหมูเจียว ปลาฟู และกุ้งแห้งตัวโตมาทอดกรอบ พร้อมเม็ดบัวทอดผัดกับเครื่องแกงและไข่แดงเค็ม รวมกันได้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยอย่าบอกใคร 

 

ผัดพริกขิงตามเสด็จฯ แปลง (550 บาท)

Info
Hours
Everyday : 12PM - 2:30PM
6PM - 10PM
6PM - 1AM
Price

฿฿฿฿ 501-1,000 บาทต่อคน

Address
174 ถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

MRT สีลม

BTS ศาลาแดง

Facilities
Suggest an Edit