The one stop for coffee lovers
Bangkok Espresso Bar ร้านกาแฟสไตล์อินดัสเทรียลย่านอารีย์ที่เริ่มต้นจาก kiosk เล็ก ๆ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 ก่อนจะขยับขยายกลายมาเป็นร้านกาแฟภายใต้คอนเซ็ปต์ Grab & Go ท่ามกลางบรรยากาศสุดเท่ โทนสีน้ำตาลดำเข้มขรึม เหมือนโรงงานผลิตกาแฟ และด้วยราคาที่คุ้มค่า ประกอบกับรสชาติของกาแฟที่ดื่มง่าย เข้าถึงง่าย จึงทำให้เหล่าคนรักกาแฟทั้งหลายได้แวะเวียนกันมาที่ Bangkok Espresso Bar จนถึงปัจจุบัน
Espresso and More
ร้านกาแฟแห่งนี้ให้ความสำคัญกับกาแฟเอสเพรสโซ่มากที่สุด เนื่องจากเป็นเมนูเครื่องดื่มแรกของที่นี่ ปัจจุบันทางร้านยังได้ทำโรงคั่วกาแฟเล็ก ๆ ของแบรนด์เองด้วย โดยกาแฟส่วนใหญ่ที่ทางร้านเลือกนำมาใช้นั้นเป็นกาแฟไทย จากดอยขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่ สามารถดัดแปลงเป็นเมนูร้อน เมนูเย็น ชงเข้ากับส่วนผสมอื่น ๆ ทั้งช็อกโกแลต คาราเมล และวานิลลาได้อย่างลงตัว
สำหรับ Specialty Coffee ของที่นี่ ได้แก่ Single Origin จากทั้งของไทยและของต่างประเทศที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามแต่ละสัปดาห์ โดยเมนูร้อนที่นิยมเสิร์ฟได้แก่ Espresso และ Cold Brew ส่วนเมนูเย็นทางร้านจะเสิร์ฟในลักษณะของอิตาเลียนสโตร์ คือนำกาแฟกับนมมาผสมเชคเข้าด้วยกัน ใช้ชื่อเมนูว่า Shakerato ประกอบด้วย 3 เมนู ได้แก่ Espresso Shakerato, Capuccino Shakerato และ Marocchino Shakerato ซึ่งเมื่อนำไปเชคแล้วจะได้กาแฟที่มีรสชาตินุ่มขึ้น
Coffee Time
เมนูกาแฟที่ทางร้านแนะนำ ได้แก่ Marocchino (50 บาท) ซิกเนเจอร์เมนูของทางร้าน โดยมีการนำมาดัดแปลงให้เป็นกาแฟแบบเย็น เป็นการผสมผสานกันระหว่างมอคค่าคาปูชิโน่ ไม่ใช้ฟองนมมาท็อปบนตัวกาแฟ แต่จะใช้วิธีเชคกาแฟจนเกิดฟอง ให้รสกลมกล่อมของโกโก้ ผสมกับรสนุ่ม ๆ ของกาแฟและฟองนม
ตามมาด้วย Flat White (45 บาท) ด้วยคาแร็กเตอร์ของกาแฟ Bangkok Espresso Bar นั้นมีรสชาติเข้มข้น สมกับที่เป็นกาแฟไทย จึงถูกนำเสนอออกมาเป็น Flat White ที่ให้รสเข้มข้น พร้อมกับมีฟองนมบาง ๆ ที่ช่วยให้กาแฟถ้วยนี้มีรสกลมกล่อมมากขึ้น
หรือจะลอง Piccolo Latte (45 บาท) ลาเต้แก้วเล็ก ใช้ช็อตดับเบิลลิสต์ ใส่นมน้อย ๆ แก้วนี้จะให้รสที่เข้มข้นกว่าลาเต้แบบทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟนม แต่อยากให้มีส่วนผสมของนมน้อย ๆ
ส่วนเมนูที่ห้ามพลาดคือ Espresso Shakerato (45 บาท) อเมริกาโน่ที่นำมาเชคให้เกิดฟองนมนุ่ม ๆ เปลี่ยนรสเข้มข้นให้ได้รสสัมผัสที่นุ่มละมุน ดื่มง่ายขึ้น