On the Second floor of Blue Dye Cafe
จากคาเฟ่สุดฮิปในย่านทองหล่อ วันนี้ Blue Dye Cafe ได้มากับค็อกเทลบาร์น้องใหม่ในชื่อ Middle Bar ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของคาเฟ่ เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ของร้านไว้เช่นเดิม โดยจะเริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป
Classic is Forever
คุณตั้ม และ คุณภูมิ สองหุ้นส่วนหลักเล่าว่า อยากให้พื้นที่แห่งนี้เป็น Speakeasy Bar โดยยังคงโครงสร้างบ้านไม้หลังเดิม แต่ตกแต่งตามผนังด้วยสตัฟฟ์สัตว์ มีโต๊ะและเก้าอี้เล็ก ๆ ให้ได้นั่งพูดคุยกัน รวมถึงบริเวณบาร์ที่ใช้วัสดุที่ทำจากไม้ จึงมีความคลาสสิกแตกต่างจากบาร์หลาย ๆ ที่
What No. would you like to try?
ที่นี่มีคลาสสิกค็อกเทล และเมนูซิกเนเจอร์ถึง 10 แก้ว โดยจะไล่ระดับหนักไปเบา เริ่มที่เมนูแรก No.1 (380 บาท) ค็อกเทลที่คล้ายกับการนำเอา Old Fashion กับ Negroni มาผสมกัน ประกอบไปด้วย Gin, Sweet Vermouth, Campari และ Angostura Bitters เป็นเมนูแรกที่หนักที่สุดในบรรดา 10 เมนู
ต่อด้วยเมนู No.4 (340 บาท) แก้วนี้ดื่มง่ายขึ้นมาหน่อย มีความฟรุตตี้จากน้ำมะนาว ตามมาด้วย Bourbon Whisky และ ไซรัป ก่อนจะตกแต่งด้วยเนื้อแอปเปิ้ล
ถ้าใครที่ชอบ Gin ลองสั่งค็อกเทล No.5 (360 บาท) ที่เบสด้วย Gin ตามด้วย Jagermeister, น้ำมะนาว, ไซรัป และแตงกวา ก่อนจะท็อปด้วย Tonic Water
สำหรับสาว ๆ น่าจะถูกใจแก้วนี้ No.7 (340 บาท) เนื่องจากมีความฟรุตตี้และดื่มง่ายกว่าทุกตัว ประกอบไปด้วย Tequila, น้ำผึ้ง, น้ำมะนาว, ตะไคร้ และตกแต่งด้วยสับปะรด ให้รสเปรี้ยวนำ หวานปลายลิ้น
แต่ถ้าละมุนขึ้นมาหน่อย แนะนำให้ลองสั่ง No.9 (340 บาท) ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของ Dark Rum, น้ำมะนาว, ไซรัป และเสาวรส ตกแต่งด้วยโรสแมรี่ ดื่มง่ายเช่นกัน แต่ได้กลิ่นของผลไม้ชัดเจน นอกจากนี้ หากใครที่อยากลองค็อกเทลนอกเหนือจากในเมนู สามารถให้บาร์เทนเดอร์ครีเอทแก้วของตัวเองได้เลย