Checkmate Bar & Bistro (Asiatique)

Let's Check! 

Checkmate Bar & Bistro ร้านอาหารและบาร์สุดฮิตในโครงการ  Asiatique The River Front เปิดให้บริการอยู่คู่โครงการนี้มานานกว่า 5 ปีแล้ว โดยจะเน้นเสิร์ฟอาหารสไตล์ฟิวชั่น ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารไทยกับอาหารสไตล์ตะวันตกในส่วนผสมที่เข้ากันได้อย่างลงตัว

Black & White

คำว่า Checkmate แปลว่า รุกฆาต ซึ่งเป็นคำที่มาจากเกมกระดานยอดฮิตอย่างหมากรุก ทางร้านจึงได้นำเอาหมากรุกมาเป็นกิมมิกหลักในการตกแต่ง ทั้งเรื่องของการเลือกใช้สี โดยจะเน้นโทนสีดำ ตัดกับโทนสีขาว ให้ลุคเท่ ๆ และบริเวณผนังที่วาดลวดลายของกระดานหมากรุก มีที่นั่งให้เลือกทั้งบริเวณโซนด้านใน และโซนด้านนอกที่ให้ความรู้สึกสบาย ๆ  

Enjoy Live Music

นอกจากนี้ทุกคืนยังมีวงดนตรีสดฝีมือคุณภาพคอยบรรเลงดนตรีสนุก ๆ ให้ได้ฟังกันตลอดทั้งคืนอีกด้วย สำหรับวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัส วงที่ 1 เวลา 19.00 - 20.30 น., วงที่ 2 เวลา 21.00 - 22.30 น. สำหรับวันศุกร์และวันเสาร์ วงที่ 1 เวลา 18.30 - 20.00 น., วงที่ 2 เวลา 20.30 - 22.00 น. และ วงที่ 3 เวลา 22.30 - 24.00 น.

Fun Bites

มาเริ่มกันที่เมนูทานเล่นอย่าง ออเดิร์ฟเช็คเมท (250 บาท) เมนูขายดีที่ประกอบด้วยออเดิร์ฟทานเล่น 4 สไตล์ ได้แก่ กุ้งพันเบคอน ไส้กรอกอิตาเลียน ปอเปี๊ยะแฮมชีส และเฟรนช์ฟรายส์ เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มและซอสสูตรของทางร้านอย่าง อาจาด ซอสค็อกเทล และซอสบาร์บีคิว ให้ได้ทานคู่กัน 

ต่อด้วยเมนูทานเล่นสไตล์ไทย ๆ ที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นอย่าง มัสมั่นกุ้งเทมปุระ (200 บาท) กุ้งตัวโต ๆ ที่นำไปชุบแป้งแล้วทอดจนฟู กรอบ และมีสีเหลืองทอง เพิ่มความพิเศษด้วยซอสมัสมั่นที่เสิร์ฟมาให้ทานคู่กัน โดยตัวซอสจะใช้ถั่วในการทำถึง 2 ชนิด เพื่อเพิ่มความเข้มข้น และกลมกล่อม พร้อมขนมปังกระเทียมให้ได้ทานตัดเลี่ยน

หรือจะลองเมนูเอาใจคนรักชีสอย่าง บร็อคโคลี่อบชีส (180 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้ผักบร็อคโคลี่ แทนการใช้ผักโขมแบบเดิม ๆ นำไปอบพร้อมแฮม เห็ดออริจิ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ชีสถึง 3 ชนิด แนะนำให้ทานตอนร้อน เพราะชีสจะยังเยิ้มอยู่ ได้รสชาติเข้มข้น หอมมันสำหรับใครที่มองหาเมนูอิ่มท้อง ทางร้านแนะนำ ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือกุ้งเทมปุระและหมูบะเต็ง (220 บาท) น้ำพริกลงเรือที่ทางร้านโขลกเครื่องน้ำพริกมาแบบถึงเครื่อง ครบรส นำไปผัดคลุกเคล้ากับข้าวสวยร้อน ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกุ้งเทมปุระ หมูบะเต็ง และน้ำพริกลงเรือ พร้อมผักเคียงให้ทานคู่กันต่อด้วยเมนูปลา ทางร้านแนะนำ สเต็กแซลมอนซอสเพสโต้พริกขี้หนู (350 บาท) สเต็กปลาแซลมอนชิ้นโต ที่ทางร้านเลือกใช้แซลมอนจากนอร์เวย์ โดยเลือกชิ้นส่วนบริเวณท้องเพราะมีไขมันน้อย และเนื้อนุ่มกำลังดี นำไปกริลล์จนสุก เสิร์ฟวางมาบนซอสเพสโต้สูตรของทางร้านที่เพิ่มความจัดจ้านด้วยพริกขี้หนูสวนสไตล์ไทย ๆ ก่อนตบท้ายด้วย ซี่โครงหมูบาร์บีคิว (380 บาท) ซี่โครงหมูชิ้นโตนำไปตุ๋นในน้ำหมูแดงจนเข้าเนื้อ ก่อนไปกริลล์ เพื่อให้เนื้อเปื่อย นุ่ม ระหว่างกริลล์ทางร้านทาด้วยซอสบาร์บีคิว เพื่อเพิ่มรสชาติและความชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายส์

After Meal Drinks

ทางร้านแนะนำม็อกเทลเพิ่มความสดชื่นอย่าง River-Bank (140 บาท) น้ำมะนาวโซดาที่เพิ่มความหอมหวานจากน้ำผึ้งป่าแท้ ๆ นำไปปั่นผสมกับไซรัป 2 สี เทเสิร์ฟมาในแก้วแยกเลเยอร์สีเป็นชั้น ๆ ได้อย่างน่าสนใจ 

หรือจะลอง CM Punch (150 บาท) ฟรุตพั้นช์ซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่ผสมผลไม้หลากหลายชนิด รสเปรี้ยวอมหวาน 

เพิ่มความสนุกสนานด้วยเมนูคลาสสิกค็อกเทลอย่าง Lychee Mojito (240 บาท) ที่นอกจากจะได้กลิ่นหอม ๆ ของใบมินต์ซึ่งเป็นเสน่ห์ของแก้วแล้ว ทางร้านยังได้เพิ่มรสและกลิ่นของลิเคียวร์ลิ้นจี่ น้ำลิ้นจี่ และเนื้อลิ้นจี่อีกด้วย