New House, New Experience
ข่าวดีสำหรับแฟน ๆ Specialty Coffee และนักช้อปที่หลงรักงานดีไซน์แสนเรียบง่ายของ Co-incidence แบรนด์ไลฟ์ไตล์โปรดักส์จากดีไซเนอร์ไทยที่ครองใจใครหลาย ๆ คน เพราะตอนนี้ทางแบรนด์ได้เปิดบ้านหลังใหม่ (ที่แอบขยับจากโลเคชันเดิมมานิดหนึ่ง) ซึ่งทางเดินทางสะดวกเช่นเดิม พร้อมเพิ่มเติมพื้นที่กว้างขว้างและครีเอทความอร่อยด้วยวัตถุดิบคุณภาพแบบครบครันทุกเมนู
แน่นอนว่าพื้นที่ของ Co-incidence House ได้ขยับขยายใหญ่ขึ้นจากเดิม และเพิ่มเติมความอบอุ่นด้วยการตกแต่งในสไตล์เรียบง่าย โดยเลือกใช้โทนสีขาวและวัสดุสเตนเลสเท่ ๆ ผ่านเฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น ถาด จาน เก้าอี้ ให้มานั่งชิลล์เอาต์ได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีโซนสินค้าดีไซน์สุดเก๋ของแบรนด์ Co-incidence ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์เครื่องเขียน เครื่องใช้ในบ้าน ไปจนถึงไลฟ์ไตล์แฟชั่น มาให้ได้เลือกช้อป ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเองเหมือนได้มานั่งเล่นบ้านเพื่อน
Specialty Coffee and More
บริเวณหน้าเคาน์เตอร์บาร์ตกแต่งผนังด้วยบรรดาข้าวของเครื่องใช้ในครัวแบบน่ารัก ๆ มีกระจกใสที่เผยให้เห็นเบเกอรี่น่าทานจากร้าน WWA ซึ่งวางโชว์ให้เห็นหลากหลายเมนู พร้อมด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟที่อบอวลไปทั่วทั้งร้าน ครีเอทความอร่อยโดยทีมบาริสต้ามากฝีมืออีกทั้งยังพัฒนาเมนูใหม่ ๆ เสิร์ฟให้ได้ลิ้มลองกันภายในคาเฟ่แห่งนี้ กาแฟแต่ละแก้วล้วนให้ความสำคัญกับเมล็ดกาแฟไทยเป็นพิเศษ นับตั้งแต่แหล่งเพาะปลูก กระบวนการผลิต ไปจนถึงรสชาติหรือคาแร็กเตอร์ของกาแฟที่เน้นไปทาง Sweet & Fruity ที่เหมาะกับทั้งกาแฟแบบร้อนและเย็น ไม่ผ่านการปรุงเเต่งใด ๆ แต่เลือกให้ความหวานตามธรรมชาติของชนิดกาแฟและความหวานจากสารสกัดธรรมชาติเท่านั้น
ขอแนะนำเมนู Dirty (120 บาท) กาแฟเเก้วเล็กที่เสิร์ฟนมสดเบลนด์เข้ากับ Half & Half Cream แบบเย็นจัด แล้วราดตามด้วยเอสเพรสโซช็อตร้อนเข้มข้นด้านบน เวลาดื่มแนะนำให้รีบซดความสดชื่นของกาแฟก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่ทั้งสองเลเยอร์จะค่อย ๆ ละลายไหลรวมกัน และเมื่อดื่มไปเรื่อย ๆ คุณจะได้สัมผัสถึงรสชาติความกลมกล่อมของกาแฟในระดับอุณหภูมิที่ต่างกัน หรือจะเป็น Black and Cream (140 บาท) กาแฟที่เสิร์ฟความอร่อยในสไตล์เวียนนา โดยมีกาแฟดำแบบเข้มข้นอยู่ด้านล่าง แล้วท็อปด้านบนด้วย Coconut Salted Caramel ที่เบลนด์เข้ากับครีมหวานมัน ให้ได้ละเลียดความนุ่มละมุนของเนื้อครีมที่ตัดกับรสขมของกาแฟเข้มอย่างลงตัว
ส่วนใครที่ไม่ถนัดดื่มกาแฟมากนัก อยากชวนให้ลิ้มลองเมนู Pink Coco Caramel (130 บาท) ที่มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าวสด ที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ทำให้มีสีชมพูใส พร้อมใส่นมถั่วเหลือง และ Coconut Salted Caramel ลงไปด้วย เพื่อช่วยเพิ่มความหอมหวานและรสเค็มนิด ๆ สำหรับเมนูนี้ ทางร้านให้คุณราดเอสเพรสโซช็อตได้ตามที่ต้องการ และเมื่อคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันก็จะได้รสชาติที่กลมกล่อม ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นไปในตัวอีกด้วย
นอกจากเมนูกาแฟใหม่ ๆ ที่ทางร้านครีเอทขึ้นเพื่อต้อนรับทุกคนที่เข้ามาดื่มแล้ว ยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ ให้เลือกทานเพื่อเติมพลังระหว่างวันอีกด้วย เช่น Japanese Beef / Pork Curry Rice (200 บาท) ข้าวแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่น ที่เสิร์ฟความเข้มข้นด้วยเนื้อวัวและเนื้อหมู ที่เคี่ยวจนได้ความหอมกลมกล่อม ก่อนจะราดลงบนข้าวสวยร้อน ๆ ให้ได้ทานพร้อมกัน หรือจะเป็น Cheese & BBQ Sauce Hot Dog (150 บาท) Hot Dog หมูกรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ด้วยสลัด Coleslaw หัวหอม เชดด้าชีส และราดด้วยซอสบาร์บีคิวในขนมปังบันกรุบกรอบ ทานคู่กับมันฝรั่งที่ทอดใหม่ทุกจาน
