Published on November 04, 2021

From the Coast to River

ภายใน Capella Bangkok โรงแรมสุดหรูเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านเจริญกรุง ได้ต้อนรับร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน Côte by Mauro Colagreco ภายใต้การร่วมมือกับ Mauro Colagreco เชฟหนุ่มสัญชาติอาร์เจนติน่า-อิตาเลียน เจ้าของรางวัล Chef of The Year และร้านของเขา Mirazur ที่ฝรั่งเศส ได้คว้าอันดับหนึ่งจาก The World's 50 Best Restaurants และยังเป็นเชฟคนแรกที่ไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสแต่สามารถคว้ามิชลินสตาร์ 3 ดาวในฝรั่งเศสได้อีกด้วย

ตามความหมายของชื่อร้านแห่งนี้ Côte (โค้ท) ที่หมายถึงชายฝั่งทะเล ทางเชฟได้ตั้งใจนำเอกลักษณ์อาหารสไตล์เมดิเตอร์เนียนที่สื่อถึงชายฝั่งทะเลมาผสมผสานเข้ากับเสน่ห์ของชายฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และยังสื่อสารความหมายของชายฝั่งทะเลผ่านกิมมิกเล็ก ๆ อย่าง จานแฮนด์เมดสีน้ำเงินที่อิมพอร์ตเข้ามาจากเบลเยียม เพ้นต์ลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงระยิบระยับที่กระทบลงบนผิวน้ำของท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั่นเอง

 

จานแฮนด์เมดเพ้นท์ลวดลายเมื่อแสงอาทิตย์กระทบผิวน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

Dining with the Stunning River View

เมื่อเดินเข้ามาภายในร้านก็จะพบกับการตกแต่งร้านในสไตล์คอมเทมโพรารีที่ดูโปร่งโล่ง แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีน้ำตาลแดง, ครีม และเทาอ่อน เสริมกับหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดให้เห็นวิวสวย ๆ แบบพาโนรามาของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทางร้านจัดแบ่งโซนที่นั่งเป็นสัดส่วน มีทั้งโซนที่นั่งสำหรับใครที่มากันเป็นกลุ่มเล็ก และยังมีพื้นที่ที่สามารถปรับเป็นห้องไพรเวทสำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มใหญ่หรือจัดปาร์ตี้ส่วนตัวได้
 

บรรยากาศภายในร้าน

 

มุมที่นั่งของร้าน

 

มุมที่นั่งสุดโรแมนติก

'The story of côte begins with the sound of water and the color of light. The blues, greys and greens of my natural surroundings. The reminiscence of a comfortable habitat, a familiar environment. The roots of my cuisine, home of the best products on earth. At the crossroads of the water, the land and the sun. Riviera, blessed from the gods, terroir of excellence, vibrant and rich.' - Mauro Colagreco

Riviera-Inspired Dining Experience

สำหรับอาหารของที่นี่จะเป็นการนำเสนอเมนูอาหารดั้งเดิม ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบริเวณชายฝั่ง French Italian Riviera เมืองชายฝั่งทะเลทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและอิตาลี ตั้งแต่เมือง Nice ไปจนถึง Genoa ผ่านเทคนิคการปรุงแบบสมัยใหม่ ประกอบกับวัตถุดิบชั้นเลิศที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ถ่ายทอดออกมาเป็นเมนูอาหารที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของเชฟ Mauro Colagreco ได้อย่างชัดเจน ทุกเมนูอาหารควบคุมดูแลโดยทีมงานเชฟที่ส่งตรงมาจากร้าน Mirazur ประเทศฝรั่งเศส จึงมั่นใจได้ว่าจะลิ้มรสชาติของอาหารที่ได้มาตรฐานจากเชฟ Mauro Colagreco แน่นอน

ปัจจุบันทางร้านพร้อมเสิร์ฟเมนูแบบคอร์สที่มีให้เลือกทั้งแบบ Côte Experience ( 7 คอร์ส ราคา 5,600++ บาท / ท่าน ) 
และ Carte Blanche ( 9 คอร์ส ราคา 6,100++ บาท /ท่าน ) โดยคอร์สเมนูพิเศษเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในแต่ละวัน 
สามารถเลือกไวน์แพริ่งได้เช่นกัน

 

Turbot, Jerusalem Artichoke, Texture, Black Truffle

 

เชฟ Davide Garavaglia และเชฟ Marc Vasseur

ในครั้งนี้ทางร้านได้นำเสนอเมนูไฮไลต์ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในแต่ละวัน 
เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Artichoke Salad จานนี้ทางร้านได้นำ Artichoke 
มาครีเอตใน 5 รูปแบบ เพื่อสร้างรสสัมผัสที่แตกต่าง ตั้งแต่พูเรไปจนถึงแบบอบกรอบ คลุกเคล้ากับปลาแอนโชวี่, เจลมะกรูด และอื่น ๆ

หรือจะเป็นเมนู Foie Gras, Pomelo, Turnip ตับห่านชั้นดีจากฝรั่งเศส เสิร์ฟคู่กับพูเรส้มโอ และเทอร์นิพ เนื้อฟัวกราส์นุ่มเนียน ตัดกับรสชาติเปรี้ยวจากพูเรส้มโอ

ตามด้วยเมนูที่ซ่อนเซอร์ไพรส์อย่าง Chaud Froid: Egg, Cauliflower, Caviar, Horseradish Foam เสิร์ฟมาในเปลือกไข่ไก่ เลเยอร์ด้วยมูสดอกกะหล่ำ เพิ่มรสชาติด้วยคาเวียร์ ท็อปด้วยโฟมจาก Horseradish แนะนำให้ตักด้านล่างขึ้นมาด้านบน เป็นเมนูที่มีทั้งความเย็นและร้อนในจานเดียว

 

Artichoke Salad

 

Foie Gras, Pomelo, Turnip

 

Chaud Froid: Egg, Cauliflower, Caviar, Horseradish Foam

มาถึงจานหลัก แนะนำ Turbot, Jerusalem Artichoke, Texture, Black Truffle เนื้อปลาเทอร์บอตที่ปรุงมาพอดี ได้เนื้อสัมผัสนุ่มซ้อนด้านล่างด้วยเห็ด ทานคู่กับ Jerusalem Artichoke Espuma เนื้อนุ่มเนียน เพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้กับจานนี้ด้วยการนำหนังปลาไปทอดจนกรอบ และโรยด้วยทรัฟเฟิลดำสไลซ์

หรือจะเป็นเมนู Roasted Suckling Pig, Apple and Sage condiment, 'Beer' Jus เนื้อหมูส่วนหลังหมักและย่างในเตาอบมาจนสุกกำลังดี ราดด้วยซอสที่ได้จากเนื้อหมูก่อนจะเพิ่มความหอมด้วยเบียร์ ทานเคียงกับแอปเปิ้ลและ Sage condiment

 

Turbot, Jerusalem Artichoke, Texture, Black Truffle

 

Roasted Suckling Pig, Apple and Sage condiment, 'Beer' Jus

และเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน Quail, Black Trumpet Mushrooms and Foie Gras Stuffing, 'Diable Sauce', Beetroot, Radicchio เนื้อนกกระทานุ่ม ๆ ที่นำกระดูกออกทั้งหมด ยัดไส้ด้วยส่วนผสมอย่าง Black Trumpet Mushroom, Foie Gras, Sultana และ Cognac เป็นต้น ทานกับซอสที่ทำจากการเคี่ยวกระดูกนกกระทา และ Beetroot Vinaigrette

 

Quail, Black Trumpet Mushrooms and Foie Gras Stuffing, 'Diable Sauce', Beetroot, Radicchio

ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยสองเมนูขนมหวานที่ทางร้านแนะนำกับ White Chocolate Ganache, Frozen Pomelo, Osmanthus Sorbet ไอศกรีมซอร์เบดอกหอมหมื่นลี้รสหวานหอม ทานคู่กับส้มโอแช่แข็งและไวท์ช็อกโกแลตกานาซ เป็นเมนูที่ทานแล้วสดชื่น

และ Yoghurt, Raspberry, Coconut and Rosemary มูสโยเกิร์ต, ไอศกรีมโรสแมรี่, Coconut Espuma ตัดรสด้วยความเปรี้ยวจากราสพ์เบอร์รี และผงโรยราสพ์เบอร์รี เพิ่มความหวานละมุนด้วยไวท์ช็อกโกแลต

 

White Chocolate Ganache, Frozen Pomelo, Osmanthus Sorbet

 

Yoghurt, Raspberry, Coconut and Rosemary

Info
Hours
Open : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Sun : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Mon : Closed
Tue : Closed
Wed : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Thu : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Fri : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Sat : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Price

฿฿฿฿฿฿ มากกว่า 2,000 บาทต่อคน

Address
Capella Bangkok, 300/2 ถนนเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
Map
Facilities
Suggest an Edit