Delicious Homemade Baked Goods in Saladaeng
หลังจากโรงแรมดุสิตธานีปิดตัวลง คงทำให้ใครหลายคนคิดถึงขนมปังเบเกอรี่แสนอร่อยจากคาเฟ่สุดคลาสสิกที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานราว ๆ เกือบ 50 ปี อย่าง Dusit Gourmet เป็นแน่ แต่ล่าสุดนี้ทางคาเฟ่ได้กลับมาเปิดตัวอีกครั้งให้หายคิดถึงกันในบ้านโบราณหลังเก่าบรรยากาศอบอุ่นบนถนนศาลาแดงที่ตั้งอยู่ภายใน Baan Dusit Thani พร้อมให้ทุกคนได้มาเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุข และผ่อนคลายไปกับบรรยากาศเรียบง่าย สบาย ๆ แบบเป็นกันเอง ที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กบรรยากาศดีที่หาได้ยากในเมืองกรุง
Escape from City Life
บ้านสีขาวแนวเรโทรแห่งนี้ถูกรายล้อมไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้เขียวขจี บวกกับเสน่ห์ของตัวบ้านที่ให้กลิ่นอายคล้ายบ้านพักตากอากาศต่างจังหวัด เหมาะแก่การหลบหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนไปกับบรรยากาศสบาย ๆ อันแสนสงบ อีกทั้งยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟและเบเกอรี่ที่ชวนให้เคลิบเคลิ้มตลอดวัน โดยภายในร้านออกแบบมุมที่นั่งให้มีความเป็นส่วนตัว สร้างบรรยากาศอบอุ่นและความโปร่งโล่งด้วยการดีไซน์โซนเรือนกระจก ให้ผู้ที่มาเยือนได้อิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูอาหาร พร้อมดื่มด่ำความร่มรื่นของต้นไม้ในเวลาเดียวกัน
Cafe by Day, Cosy Bar by Night
แน่นอนว่า Dusit Gourmet ขึ้นชื่อในเรื่องของเบเกอรี่อยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีเมนูเครื่องดื่มและเมนู All Day Breakfast แนว Comfort Food มากมายให้เลือกอิ่มอร่อยตลอดทั้งวัน ซึ่งทุกเมนูของทางร้านได้คิดค้นสูตรและครีเอทรสชาติโดยเชฟมากฝีมือที่มีอยู่คู่กับ Dusit Gourmet มาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารทุกจานของที่นี่เต็มเปี่ยมด้วยเรื่องของคุณภาพทั้งวัตถุดิบและรสชาติอาหารแน่นอน ส่วนอีกหนึ่งความพิเศษของบ้านโบราณหลังนี้ คือยามเย็น บรรยากาศภายในร้านที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยขนมหวานและเบเกอรี่มากมายจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นบาร์ขนาดกะทัดรัด พร้อมเสิร์ฟไวน์ออร์แกนิกคุณภาพดี คราฟต์เบียร์ และค็อกเทลสไตล์เอเชียให้กับเหล่านักดื่มอีกด้วย
Healthy & Yummy
เริ่มต้นเสิร์ฟความสดชื่นกันที่เมนู Detox Juices แนวรักสุขภาพอย่าง Wakey Wakey (150 บาท) เมนูเครื่องดื่มน้ำผลไม้สกัดแบบแยกกาก โดยมีส่วนผสมของแครอท ส้ม ขมิ้น สับปะรด และมะนาว สัมผัสได้ถึงความหอมสดชื่น ให้รสชาติเปรี้ยว ๆ เหมาะกับการดื่มเพื่อเติมความสดชื่นระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่ชอบทาน Smoothie ต้องลอง Call Me Honey (180 บาท) ที่มีส่วนผสมของผงอาซาอิ สตรอเบอร์รี และกล้วยหอม ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวกำลังดี ผสานความหอมหวานด้วยน้ำผึ้ง เข้ากับรสชาติมันของ Almond Milk แบบลงตัว
ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูรักสุขภาพอย่าง Acai Bowl (240 บาท) เมนู Smoothie Bowl ที่เต็มไปด้วยส่วนผสมจากผลไม้นานาชนิด อาทิ แก้วมังกร กล้วยหอม สตรอเบอร์รี และมะพร้าว ซึ่งความพิเศษอยู่ที่การเลือกใช้ผงอาซาอินำเข้าจากแอฟริกาโดยเฉพาะ ให้รสชาติหอมหวาน ทานแล้วสดชื่น ผสานเข้ากับความกลมกล่อมหวานมันของธัญพืชหลากชนิด
เอาใจคอกาแฟด้วยเมนู Ice Cappuccino (140 บาท) กาแฟคาปูชิโน่เย็น ที่ทางร้านใช้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งความพิเศษคือมีกลิ่นหอมของกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์และรสนุ่มละมุน หวานปนขมเล็กน้อย โดดเด่นไม่เหมือนใคร เหมาะกับการทานคู่กับ Brownies (120 บาท) บราวนี่รสเข้มข้น ที่สัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนและรสช็อกโกเเลตแบบเต็มคำ เป็นการจับคู่ความอร่อยที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี
จากนั้นมาสัมผัสความรื่นรมย์ยามบ่ายด้วยการจิบชาหอมกรุ่นไปกับเซ็ต Afternoon Tea (390 บาท) หลากหลายเมนูคาวหวานที่ปรุงรสมาอย่างพิถีพิถัน ได้แก่ สโคนและขนมหวานเบเกอรี่สูตรโฮมเมด รวมถึงเมนู Smoked Salmon Sandwich แซนด์วิชชิ้นเล็กที่จัดวางอย่างสวยงามบนชั้นวางขนม ที่เสิร์ฟมาพร้อมกันกับชุดน้ำชาดีไซน์สวยภายในเซ็ต โดยจะให้บริการในเวลา 14.00-17.00 น. ให้ทุกคนได้มาจิบชายามบ่ายท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่น
อีกหนึ่งเมนูแนะนำที่พลาดไม่ได้คือ Rice Korean Bowl (270 บาท) เมนูข้าวเกาหลี ที่นำข้าวมาผสมผสานรสชาติกับหลากหลายส่วนผสม อาทิ บร็อกโคลี อะโวคาโด มะม่วง และกิมจิ ผสานความอร่อยด้วย Peanut Sauce ให้รสชาติกลมกล่อม พร้อมตัดรสเลี่ยนด้วยกิมจิ
ปิดท้ายด้วยเมนูจานพิเศษอย่าง Grilled Chicken Wrap (275 บาท) ที่มีเนื้อไก่เป็นส่วนผสมหลัก โดยนำไปย่างจนสุกได้ที่และมีกลิ่นหอมกำลังดี แล้วห่อด้วยแป้งตอร์ติญ่าพร้อมผักสลัด คลุกเคล้าด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษของเชฟ สัมผัสได้ถึงความหอมนุ่มของเนื้อไก่ ผสมผสานรสชาติหวานอมเปรี้ยวของซอสมะม่วงที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี
Must Read!
- ทางร้านมี Happy Hours ในช่วงเวลา 17.00-19.00 น. โดยเป็นการลดราคา 50% ของเมนูขนมหวานและเบเกอรีโฮมเมดทุกรายการ