The Joy Of Life
ใครที่ผ่านมาที่ปากซอยเจริญกรุง 31 คงจะสะดุดตากับตึกแถวสีน้ำเงินสไตล์เรโทรที่ชื่อ FooJohn Building ซึ่งบริเวณ 2 ชั้นด้านล่างเป็นโซนของ FoudeJoie Bar & Bistro สไตล์ฝรั่งเศส โดยทีมงานเบื้องหลังร้านดังอย่าง Soul Bar
ตัวร้านมาในบรรยากาศย้อนยุคสบาย ๆ พร้อมเสิร์ฟเมนูเครปแบบฝรั่งเศส พร้อมไวน์และค็อกเทลดี ๆ โดยชื่อร้านมาจากคำว่า Fou De Joie ที่หมายถึง ความปิติยินดี เหมือนกับความตั้งใจที่ต้องการให้ทุกคนได้เข้ามาดื่มด่ำและลิ้มรสความสุขของชีวิตที่นี่กัน สำหรับใครที่อยากแวะมาในช่วงนี้ ทางร้านยังเปิดแค่ช่วงเย็นในวันศุกร์และเสาร์เท่านั้น
Bring Back To Old Building To Life
FooJohn Building เป็นตึกเก่าที่นำมา renovate ใหม่ แต่ยังบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคไว้อยู่ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากคาเฟ่สไตล์ฮ่องกงที่ผสมผสานสไตล์ตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน บริเวณชั้นล่างเป็นโซนของ Bistro เน้นใช้โทนสีน้ำตาลตัดกับสีเขียว เลือกใช้โซฟาและเก้าอี้ไม้สไตล์วินเทจ เพิ่มบรรยากาศย้อนยุคด้วยไฟสีแดงและเหลือง
เมื่อเดินขึ้นบันไดมา จะพบกับชั้นลอยที่เป็นโซนไพรเวท สำหรับจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ส่วนบนชั้น 2 จะเป็นที่ตั้งของโซนบาร์ มีที่นั่งทั้งแบบโซฟาสำหรับใครที่มากันหลายคน หรือจะเลือกนั่งจิบค็อกเทลบริเวณโต๊ะไม้เล็กๆ ที่วางเรียงรายอยู่ก็ดีเช่นกัน
French Cold Cuts & Cheese
เมนูอาหารของที่นี่จะเป็นสไตล์ Bistro จะเน้นเสิร์ฟอาหารเบา ๆ เข้ากับไวน์และค็อกเทลที่นี่ด้วย ดูแลโดยคุณ Romain Dupuy หนึ่งในเจ้าของร้านชาวฝรั่งเศส สำหรับทุกเมนูของที่นี่จะเลือกใช้วัตถุดิบที่หาได้ภายในประเทศและบางวัตถุดิบจากฝรั่งเศส
เริ่มจาก Planches (200 บาท) ที่สามารถเลือก Cured Sausage , Meat และ ชีส ได้ 3 ชนิดแนะนำ Dried Ham, Rosette และ Big Salami ทานคู่กับชีส Camembert, Reblochon และ Blue Cheese เสิร์ฟมาพร้อมขนมปัง เหมาะทานคู่กับไวน์จากฝรั่งเศส (เริ่มต้น 140 บาทต่อแก้ว)
All About Crepe
สำหรับเมนูเด่นของที่นี่แนะนำ Parisienne (200 บาท) แป้งเครป Buckwheat เนื้อนุ่ม ท็อปด้วย Dried Ham ไข่ดาว ชีส Racelette โรยด้วยต้นหอม รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับสลัดผัก
หรือจะลองสั่ง Tartiflette (200 บาท) แป้งเครป ท็อปด้วยเบคอน ชีส Racelette หัวหอม โรยผัก Microgreens ด้านบน เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพ นอกจากสองเมนูนี้แล้ว ยังสามารถเลือกมิกซ์เมนูเองได้ โดยทางร้านจะมีให้เลือกทั้งเมนูแบบคาวและหวาน
The Classic French Cocktails
หลังจากรองท้องกันแล้ว แนะนำให้ขึ้นมาจิบค็อกเทลกันที่ชั้น 2 โดยมีคุณ Antoine Loubry เป็นผู้ดูแลเครื่องดื่มของที่นี่ โดยเป็นค็อกเทลสไตล์ French Classice
ทางร้านแนะนำ Le Bijou (360 บาท) รสชาติค่อข้างเข้ม ประกอบด้วยเหล้าหลากหลายชนิด ทั้ง Gin, Chartreuse, Sweet Vermouth, Bitter ท็อปด้วยเปลือกเลมอนและ Maraschino Cherry
