Published on September 19, 2023

'Enjoy Sophisticated Vibes X The Life Artois' at Home Ground BKK

ครั้งนี้ The Life Artois ขอชวนชวนแฟน ๆ ไปเอนจอยช่วงเวลาดี ๆ พร้อมอาหารมื้อพิเศษคุณภาพระดับพรีเมียมที่รังสรรค์ผ่านฝีมือเชฟมากประสบการณ์ในซีรีส์คอนเทนต์ Enjoy Sophisticated Vibes X The Life Artois ที่เราคัดสรรร้านหลากสไตล์และมีคุณภาพเอาไว้ให้แฟน ๆ ได้ Reward & Fulfill Yourself ในทุก ๆ โมเมนต์ ครั้งนี้พามาฮีลใจกันต่อที่ 'Home Groundร้านอาหารบรรยากาศโฮมมีในย่านวิภาวดี
ที่เหมาะแก่การมาทิ้งตัวปล่อยให้ความเหนื่อยล้าเป็นเรื่องของเมื่อวาน แล้วจิบเครื่องดื่มเย็นชื่นใจไปพร้อมกับอาหารอร่อย ๆ

 

องค์ประกอบที่แฝงไปด้วยทรงสามเหลี่ยมทรงจั่วที่ถูกตัดครึ่ง

ชวนมาพบความประทับใจไปกับอาหารจานพิเศษในบรรยากาศสบาย ๆ เหมือนแวะมาทานข้าวบ้านเพื่อนกันที่ Home Ground ร้านอาหารสุดโฮมมีที่เปิดในรั้วเดียวกับตัวบ้านหลังคลาสสิกในซอยวิภาวดี 17 โดยอาหารทุกจานของที่นี่ผ่านการรังสรรค์โดย เชฟจอม-ภาษิตปรัชญา เชฟหนุ่มเจ้าของร้านผู้เกิดและเติบโตที่ชิคาโก โลดแล่นในวงการอาหารมาแล้วทั้งในอเมริกา ยุโรป และประเทศไทย โดยผ่านประสบการณ์ทำร้านอาหารมากว่า 20 ร้าน ทั้งในและต่างประเทศรวมไปถึงร้านระดับมิชลิน ครั้งนี้ขอครีเอตพื้นที่เสิร์ฟเมนูแบบ Home Cooking ในสไตล์ของตัวเองเพื่อถ่ายทอดรสชาติอาหารที่ทานง่ายสไตล์ Comfort Food ให้ได้ลิ้มลองกันที่นี่

 

มุมที่นั่งรับแสงธรรมชาติ

Comfort Food with Comfort Vibes

บรรยากาศในร้านอบอุ่นสบาย ๆ ด้วยการเปลี่ยนเอาสวนบอนไซของคุณพ่อ มาปรับให้กลายมาเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนและดื่มด่ำไปกับรสชาติอาหารอร่อย ๆ แบบ Home Cooking ในสไตล์ของเชฟจอม เคล้าคลอไปกับเสียงเพลงและเครื่องดื่มเย็น ๆ แก้วโปรดที่พร้อมเติมเต็มวันของคุณให้สมบูรณ์แบบ
แค่มองออกไปเห็น Greenry Space นอกหน้าต่าง ก็เชื่อว่าบรรเทาความเหนื่อยล้าที่ผ่านมาได้อย่างแน่นอน

 

บรรยากาศสบาย ๆ ด้านในร้าน

นอกจากนี้ดีไซน์ของร้านยังเน้นความเรียบง่ายแต่สอดแทรกไปด้วยกิมมิก โดยหากสังเกตดี ๆ องค์ประกอบต่าง ๆ จะแฝงไปด้วยสามเหลี่ยมทรงจั่วที่ถูกตัดครึ่ง ซึ่งเชฟอธิบายว่าเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งครึ่งบ้านเป็นร้านอาหาร และอยากให้ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่อยู่อาศัยจริง ๆ นั่นเอง ด้านในจึงโปร่งโล่งสบาย แถมรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มตาตลอดทั้งวันด้วยกระจกใสบานโต ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งผนังและหน้าต่างรับวิวสวย ๆ ให้ผ่อนคลายระหว่างมื้ออาหาร และยังสามารถมองเห็นสวนสมุนไพรและพืชผักที่ทางร้านตั้งใจปลูกเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารทุกจานที่นี่อีกด้วย

 

มุมที่นั่งในร้านสามารถชมวิวสวนสมุนไพรได้อย่างเต็มตา

Homemade Innovative Cuisine

ในส่วนของเมนูอาหารที่นี่ไม่ได้มีคำนิยามที่เจาะจงหรือสัญชาติที่ชัดเจน หากแต่เป็นรสชาติที่ถูกครีเอตออกมาผ่านประสบการณ์และการเดินทางของเชฟจอม โดยจานแรกที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอคือจานเรียกน้ำย่อยอย่าง Crispy Tou (190 บาท) หมั่นโถวทอดสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ท็อปด้วยเนื้อปูจากจังหวัดสุราษฏร์ธานีเคล้ากับ Ponzu Lemon Aioli และเพิ่มรสชาติความสดชื่นด้วยแตงกวาดองแบบโฮมเมด

 

Crispy Tou (190 บาท)

จานถัดมาคือ Galician Octopus (460 บาท) เมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหารสเปนเมนูโปรดของเชฟจอม ตัวซอสถูกออกแบบให้ถูกปากคนไทยด้วยการดัดแปลงให้รสชาติคล้ายกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เสิร์ฟเคียงมากับมันฝรั่งทอด รากบัวกรอบและสมุนไพรไทยที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ผสานกันได้อย่างลงตัว

 

Galician Octopus (460 บาท)

มาถึงรสชาติสดชื่นของสลัดกันบ้างในจานของ Prawn & Ponzu (270 บาท) สลัดกุ้งสไตล์ญี่ปุ่นมาพร้อมยูซุเดรสซิ่ง และมีพระเอกเป็น Sauteed Garlic Prawn เนื้อกุ้งที่ผ่านการผัดกับกระเทียมมาจนหอมนั่นเอง เข้ากันเป็นอย่างดีกับเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้วให้เติมเต็มโมเมนต์แห่งการพักผ่อนนี้

 

Prawn & Ponzu (270 บาท)

หรือจะเป็นเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Mussel with White Wine กลายมาเป็นครีมซอสที่รสชาติคล้ายต้มข่าแบบฝรั่ง อย่าง Mussel & Coconut (390 บาท) มาพร้อมรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมถูกปากคนไทย เสิร์ฟเคียงมากับ Toasted Gaelic Butter Ciabatta ให้ทานคู่กัน

 

Mussel & Coconut (390 บาท)

อีกจานไฮไลต์ของที่นี่ต้องยกให้ Chuck Rib Gnocchi (340 บาท) เสิร์ฟเนื้อที่ผ่านการซูวีถึง 3 วัน 3 คืนเพื่อความเปื่อยนุ่มเต็มที่ เคียงมากับ Gnocchi  สัมผัสนุ่มหนึบ ส่วนตัวซอสให้ความรู้สึกเหมือนอาหารจีนเล็กน้อย โรยด้วย Parmigiano Reggiano เพิ่มความกลมกล่อมให้ครบทุกมิติ

 

Chuck Rib Gnocchi (340 บาท)

ปิดท้ายกันที่ Duck Confit (460 บาท) จานนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากฝรั่งเศส แต่ถูกดัดแปลงให้รสชาติเหมือนเมนูเป็ดคั่วเกลือของชาวจีน โดยเอกลักษณ์อยู่ที่เนื้อเป็ดที่ด้านนอกกรอบแต่ด้านในเปื่อยนุ่มทานง่าย ผ่านวิธีการหมักเป็ดกับสมุนไพรของทางร้าน ก่อนจะนำน้ำมันเป็ดมาผัดกับข้าวและทรัฟเฟิล ใส่เกาลัดญี่ปุ่น พุทราจีน และสมุนไพรไทยอย่างผักแพว ได้รสชาติแปลกใหม่ที่แสนลงตัว ชิมทุกจานพิเศษแล้วอย่าลืมจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ เคล้าไปด้วย พร้อมเอ็นจอยไปกับบรรยากาศสุดชิลล์ ให้คุณได้พบกับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง

 

Duck Confit (460 บาท)

Info
Hours
Everyday : 11AM - 3PM
5PM - 10PM
Price

฿฿฿฿฿ 1,001-2,000 บาทต่อคน

Address
114/3 ชอย วิภาดี 17 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
Map
Facilities
Suggest an Edit