The Authentic Taste with Great Vibes
Kaito Omakase ร้านโอมากาเสะสไตล์เอโดมาเอะน้องใหม่ในย่านสุขุมวิทที่อยากชวนคุณมาเปิดประสบการณ์การทานโอมากาเสะแบบดั้งเดิม เพิ่มเติมคือความไม่ธรรมดาพร้อมนำเสนอความดั้งเดิมของรสชาติและวัตถุดิบสุดพรีเมียมตามวิถีการทานโอมากาเสะแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ให้คุณได้อิ่มอร่อยไปกับรสชาติสุดพรีเมียมและความสนุกสนานภายใต้คอนเซ็ปต์ Sushi & Art ลิ้มรสชาติอาหารและดื่มด่ำกับผลงานศิลปะไปพร้อม ๆ กัน
Art is All Around
หากกล่าวถึงร้านโอมากาเสะ หลายคนคงคิดถึงความดั้งเดิมและไม้โบราณ แต่ที่ Kaito Omakase ร้านโอมากาเสะน้องใหม่ในโครงการ Nihonmachi ตั้งใจที่จะผสานความดั้งเดิมให้เข้ากับยุคปัจจุบันด้วยการสอดแทรกงาน ‘ศิลปะ’ เอาไว้ในส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ผลงานศิลปะที่ประดับประดาอยู่ตามผนังห้องโถงใหญ่ ให้บรรยากาศสบาย ๆ ราวกับเดินอยู่ในอาร์ตแกลเลอรี หรือแม้แต่กิมมิกสุดน่ารักอย่างโปสการ์ดที่สลับสับเปลี่ยนกว่า 8 ลวดลายให้คุณได้ดื่มด่ำงานศิลปะไปพร้อมกับเอ็นจอยมื้ออาหารสุดพรีเมียมในคอร์สนี้
Level Up The Classic
เพราะคำว่า Kaito ในภาษาญี่ปุ่น นั้นแปลว่า ‘ท้องทะเลลึก’ ต้นกำเนิดของวัตถุดิบสุดพรีเมียมและวัตถุดิบแสนอร่อยมากมายอันเป็นหัวใจหลักของโอมากาเสะ บวกกับได้เชฟมากฝีมือที่มากด้วยประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการอาหารญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 20 ปี เป็นหัวเรือใหญ่ในการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น มารังสรรค์ให้กลายเป็นคอร์สสุดพิเศษที่คุณต้องประทับใจเมื่อได้ลิ้มลอง
ทางร้านมีให้เลือกระหว่าง Edomae Course (4,000++ บาท) โอมากาเสะ 14 คอร์ส และ Edomae Course (6,000++ บาท) โอมากาเสะ 18 คอร์ส สำหรับครั้งนี้ ขอแนะนำให้ลองแบบ 18 คอร์ส
ซึ่งจะเริ่มต้นกันด้วยคอร์สเรียกน้ำย่อยอย่าง Iwashi Roll ที่โดดเด่นด้วยเนื้อปลาอิวาชิ ปลาสายพันธุ์ซาดีนที่เชฟจะนำไปดองด้วยเทคนิคพิเศษของเชฟ เสิร์ฟพร้อมกับต้นหอมญี่ปุ่น ขิงและใบโอบะ ถัดมาเป็น Tako ปลาหมึกยักษ์ที่เชฟนำมาต้มในซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ท็อปด้านบนด้วยดอกชิโสะ
Amadai Yaki ปลาอามาได หรือปลาไท่หวาน โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสแน่นและฉ่ำ เชฟนำเสนอด้วยการนำปลาไปย่างถ่านจนกลิ่นหอมและสุกกำลังดี จากนั้นเอาน้ำมันร้อน ๆ ราดจนเกล็ดกรอบ ทำให้สามารถทานปลาได้ทั้งเกล็ด ก่อนจะเสิร์ฟเคียงมาด้วยมะนาวและหัวไชเท้าบด
Chawamushi ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิมที่ให้เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มเป็นเอกลักษณ์ หอมกลิ่นซุปดาชิ ท็อปด้านบนด้วยอิกุระแบบจัดเต็ม แนะนำให้ทานพร้อมกันใน 1 คำจะได้รสชาติที่กลมกล่อม พร้อมเสริมรสชาติเค็มเล็กน้อยด้วยอิกุระที่ทานเข้ากันได้เป็นอย่างดี
Ishigakidai คือปลาเนื้อขาวจากท้องทะเลน้ำลึก ให้รสสัมผัสที่เด้ง กรอบ ส่วนของเนื้อมีความกรึบและหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวญี่ปุ่นสูตรพิเศษของทางร้านที่ให้รสชาติเป็นเอกลักษณ์ เคียงด้วยเกลือและมะนาวที่ช่วยเสริมรสชาติได้เป็นอย่างดี
Tenshi-No Ebi กุ้งนางฟ้าเนื้อนุ่มที่เสิร์ฟในสไตล์นามะ โดยเชฟนำไปดองกับซอสสูตรพิเศษของทางร้าน เพื่อชูความหวานและรสกลมกล่อมจากกุ้งให้ได้มากที่สุด ถัดมาเป็น Hotate โฮตาเตะกุนกัน ข้าวสูตรเฉพาะของทางร้านที่พันด้วยสาหร่าย ท็อปด้วยโฮตาเตะสด ได้รสหวาน เนื้อนุ่ม รับรองว่าอร่อยฟิน
Nodoguro หนึ่งในปลาหายากสายพันธุ์ปลากะพงคอดำน้ำลึก เนื้อสัมผัสนุ่มฉ่ำจากไขมันที่แทรกอยู่ คำนี้เชฟจะนำไปอะบุริส่วนหนังจนไขมันละลายเล็กน้อยเพื่อสร้างกลิ่นหอมและได้รสสัมผัสที่นุ่มนวล
Kegani ปูขนญี่ปุ่นที่เชฟนำไปนึ่งจนสุกกำลังดีในอุณหภูมิที่พอเหมาะ เพื่อให้เนื้อปูยังคงรสหวานเป็นเอกลักษณ์ตามธรรมชาติ เพิ่มมิติของรสชาติให้จานนี้ด้วยอิกุระและซอสมันปู แนะนำให้คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วจะได้ความกลมกล่อมที่แสนประทับใจ
Awabi หอยเป๋าฮื้อญี่ปุ่นสายพันธุ์คุโระ หนึ่งในวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งเชฟนำไปนึ่งกับสาเกนานกว่า 4-5 ชั่วโมง จนเนื้อนุ่ม หนึบ และดึงความหวานจากเป๋าฮื้อออกมา เสิร์ฟมาบนข้าวสูตรเฉพาะของทางร้านและซอสตับอะวาบิที่ให้รสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ เชฟแนะนำให้ชิมเนื้อของหอยเป๋าฮื้อก่อน จากนั้นคลุกข้าวและซอสให้เข้ากัน จะได้อีกหนึ่งรสสัมผัสที่กลมกล่อม
Tomoto Amatsu มะเขือเทศบิจินสด ส่งตรงจากคุมาโมโตะ นำไปดองในน้ำดองสูตรโบราณที่ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวานตามแบบฉบับของมะเขือเทศ โดยเชฟจะเสิร์ฟมาแบบเย็นเป็นเมนูสดชื่น เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่คอร์สถัดไป
Akami ใครที่เป็นมากุโระเลิฟเวอร์ พลาดไม่ได้กับส่วน 'อากามิ' หรือ 'มากุโระ' ส่วนเนื้อแดงที่ให้รสชาติเข้มข้นของเนื้ออย่างชัดเจน โดยเชฟจะนำไปดองกับซอส จากนั้นใส่ผิวส้มยูซุไว้ด้านในเพื่อให้รสชาติกลมกล่อมและได้กลิ่นหอมสดชื่นเข้ากันเป็นอย่างดี
Otoro ส่วนท้องของมากุโระที่มีไขมันแทรกอยู่เยอะที่สุด เชฟจึงนำไปสโมคกับฟางข้าวจนได้กลิ่นอโรมาที่เป็นเอกลักษณ์ จากนั้นนำไปหมักในซอส เพื่อช่วยเสริมรสชาติให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่ไม่เหมือนใครของที่ Kaito Omakase เห็นทีจะเป็น Uni อูนิกุนกังเสิร์ฟในข้าวพันสาหร่ายที่เชฟจัดเต็มความอร่อย ให้ได้ลิ้มลองถึง 2 สายพันธุ์ คือ Bafun และ Murasaki เป็นการผสานสองรสชาติที่แตกต่างกันในหนึ่งคำ ทำให้พบประสบการณ์และรสชาติใหม่ที่แตกต่างแต่อร่อยลงตัว เพราะ Bafun จะให้รสชาติที่หวานและครีมมี่ ส่วน Murasaki จะให้ความครีมมี่แต่ได้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของทะเลมากกว่า เมื่อทานพร้อมกันจึงยิ่งเป็นการเสริมความอร่อยที่มากขึ้นและคุณจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างแน่นอน
อีกหนึ่งความพิเศษที่คนรักปลาไหลต้องถูกใจกับคอร์ส Unagi เมนูข้าวหน้าปลาไหลที่เชฟเลือกใช้ปลาไหลธรรมชาติ ที่ให้คุณภาพและหายากกว่าปลาไหลเลี้ยง โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสแน่น รสชาติหวานและกลิ่นเฉพาะตัว คอร์สนี้เชฟนำปลาไหลไปย่างจนสุกกำลังดีและใช้เทคนิคเฉพาะตัวในการทำให้หนังกรอบ ราดด้วยซอสสูตรพิเศษที่ทำจากกระดูกปลาไหล ท็อปด้วยคิโนเมะ เพื่อเสริมรสชาติและเพิ่มกลิ่นหอม ช่วยให้จานนี้อร่อยกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
Soup Of The Day สำหรับครั้งนี้เชฟเลือกเสิร์ฟซุปอากะดาชิ (Akadashi) ที่มีส่วนผสมหลักคือมิโสะแดงรสเข้มข้น มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมกับซุปดาชิ เสิร์ฟร้อน ๆ เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารคาว ก่อนเข้าสู่คอร์สของหวานได้เป็นอย่างดี
Tamako Yaki เมนูเค้กไข่หวานเนื้อเนียนนุ่มฟู ที่มีส่วนประกอบของปลาเนื้อขาวและกุ้ง รสชาติสัมผัสชุ่มฉ่ำด้วยเทคนิคการย่างสไตล์ดั้งเดิมตามแบบฉบับของญี่ปุ่นซึ่งหารับประทานได้ยาก
ปิดท้ายกับ Dessert เซ็ตของหวานที่ประกอบไปด้วย Warabi Mochi วาราบิโมจิทำสดใหม่ทุกวัน โรยด้วยผงถั่วเหลืองคินาโกะและราดด้วยซอสคุโรมิสึเพิ่มความหวาน, Seasonal Fruit ผลไม้สดตามฤดูกาลที่เลือกเสิร์ฟเป็นเมล่อนหวานฉ่ำ และ Hojicha ชาโฮจิฉะเสิร์ฟร้อน หอมกลิ่นคั่วและรสชาติเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นเซ็ตส่งท้ายมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ