All I Need is Chocolate
ช็อกโกแลต เป็นขนมหวานที่ครองใจใครหลายคนทั่วโลกและหนึ่งในช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ของประเทศไทยก็คือคุณอิง สุนิสา ภาสกรนที ภรรยาของคุณตัน ภาสกรนที และยังเป็นผู้ก่อตั้ง Melt Me ร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรก ๆ ในไทยที่ปัจจุบันมีมากกว่า 10 สาขาอีกด้วย โดยที่นี่จะเน้นผลิตและพัฒนาเมนูช็อกโกแลตใหม่ ๆ คุณภาพดีออกมาจำหน่ายอยู่เสมอ
Lovely Japanese Vibe
ตัวร้านตกแต่งในสไตล์เจแปนนิสคาเฟ่ ให้บรรยากาศสบาย ๆ โดยเลือกใช้กระจกบานใหญ่รอบ ๆ ร้านให้คนที่เข้ามานั่งทานได้สัมผัสถึงร่มเงาความอบอุ่นของต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านบน ส่วนภายในเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ พื้น ผนังลายหินอ่อน ตกแต่งผนังด้านในให้เหมือนกับช็อกโกแลตลาวา และใช้โทนสีช็อกโกแลตอย่างสีขาว ดำ น้ำตาล เพิ่มลูกเล่นน่ารัก ๆ ด้วยกระเบื้องลายตารางสลับสี
The Start of Sweetness
จุดเริ่มต้นของที่นี่มาจากการที่คุณอิงชอบทำขนมและช็อกโกแล็ตให้คุณตันทานเป็นทุนเดิม คุณอิงจึงทั้งศึกษาและบินไปเรียนวิธีการทำช็อกโกแลตไกลถึงฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น และกลับมาพัฒนาสูตรและเมนูใหม่ ๆ โดยเป็นร้านขนมในสไตล์ญี่ปุ่นที่นำเข้าวัตถุดิบจากเบลเยี่ยมและนมสดจากฮอกไกโด
เพื่อให้ลูกค้าที่มารับประทานขนมได้ทั้งความอร่อยและประโยชน์สูงสุด ที่นี่จึงเลือกนำเข้าช็อกโกแลตคุณภาพดีจากเบลเยี่ยม และจำหน่ายเฉพาะชนิดที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลต 70% ขึ้นไป อีกทั้งยังมีการพัฒนาสูตรใหม่ ๆ และครีเอทเมนูต้อนรับเทศกาลใหญ่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งสำหรับเดือนแห่งความรักนี้ขอแนะนำเมนูขนมสุดพิเศษที่จะทำให้คุณอินเลิฟได้มากขึ้นกับช็อกโกแล็ต “In The Mood For Love” รวบรวมเซ็ตเมนูช็อกโกแลตสุดพิเศษที่จำหน่ายภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้เท่านั้น
Special Set for Sweet February
แนะนำเซตแรก Pink Nama (595 บาท) ช็อกโกแลตนามะเมนูดังของร้านมีทั้งรส Hokkaido Dark , Hokkaido Strawberry พร้อมนำเสนอ 2 รสชาติใหม่ในเซตน่าลองอย่าง Rose Dark Nama ดาร์กช็อกโกแลต 70% ผสมความหอมหวานของกุหลาบโรยด้วยผงสตรอเบอร์รี่ และ Forest Berry Nama ส่วนผสมที่ลงตัวของไวท์ช็อกโกแลต ราสป์เบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่
อีกหนึ่งเซตใหญ่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันอย่าง Pink Praline (595 บาท) ช็อกโกแล็ตพาลีน 9 ชิ้นจัดทำในรูปแบบพิเศษเฉพาะเทศกาล และ 2 ชิ้นที่ผลิตจากดาร์กช็อกโกแล็ต Valrhona 55% ที่ได้ชื่อว่าเป็นช็อกโกแลตที่ดีที่สุดในโลก
และเซตพิเศษที่จะทำให้วาเลนไทน์นี้หวานยิ่งขึ้นด้วย Surprise Heart Chocolate (490 บาท) ช็อกโกแลตรูปหัวใจด้านบนหุ้มถั่วผสมกับมิกซ์ฟรุ้ตสามารถเปิดขึ้นมาแล้วใส่ของด้านล่างได้
กับอีกหนึ่งเซ็ต Mixed Nuts (390 บาท) การรวมตัวกันของแมคคาเดเมีย อัลมอนด์และเม็ดมะม่วงหิมพานต์เคลือบด้วยซอสสตรอเบอร์รี่ ในขนาดพอดีคำ เมนูขนมทั้ง 2 เซตบรรจุมาใน Pink Lantern Box กล่องสีชมพูสวยมาพร้อมกับหลอดไฟ LED แพ็กเกจสุดเก๋ที่สามารถเปลี่ยนเป็นโคมไฟแต่งบ้านเสริมสร้างบรรยากาศให้หวานยิ่งขึ้นได้
Highly Recommend!
และในส่วนของเมนูซิกเนเจอร์ที่มาถึงแล้วไม่ลองไม่ได้ขอแนะนำ Volcano Toast (229 บาท) โทสต์กรอบ ๆ ทาเนยสูตรเฉพาะของทางร้านหั่นเป็นชิ้นพอดีคำให้ทานง่าย ตกแต่งด้วยครีมคัสตาร์ดสูตรพิเศษเน้นทานคู่กับผลไม้เช่นสตรอเบอร์รี่ ส้ม กีวี่ แก้วมังกรและ
แอปเปิ้ลหั่นบาง ราดด้วยซอสสตรอเบอร์รี่
สำหรับสาวกช็อกโกแลตลองสั่ง Choco PAN (179 บาท) บราวนี่ช็อกโกแลตนามะเนื้อนุ่ม ตกแต่งรอบ ๆ ด้วยซอสช็อกโกแล็ต 70% เจลลาโต้มัสคาโปนชีสเสิร์ฟพร้อมกล้วยและไอศกรีมโดยสามารถเลือกรสเองได้
หรือจะลองสั่งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง Hokkaido Chocolate Drink (169 บาท) ช็อกโกแลตนามะแท้ในแก้ว เสิร์ฟพร้อมนมสดสตรีมร้อน และมาชเมลโล่ แนะนำให้เทนมสดร้อนใส่แก้วที่มีช็อกโกแลตนามะรอให้ช็อกโกแลตละลายสักพักแล้วยกดื่ม ความเข้มข้นของช็อกโกแลตผสมกับความหอมหวานของนมสดเข้ากันอย่างลงตัว