Classy Chinese
ใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีนแล้ว ใครกำลังมองหาร้านสำหรับจัดเลี้ยงฉลอง ลองมาที่ Red Rose ห้องอาหารจีนสไตล์ Modern Chineses ที่ผสมผสานอาหารจีนหลากหลายสไตล์ ทั้ง กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน เสฉวน ที่อยู่คู่กับโรงแรม Shanghai Mansion Bangkok และชาวเยาวราชมานานหลายปี โดยยังคงคอนเซ็ปต์ Modern Chinese ทั้งในเรื่องหน้าตาของอาหารและบรรยากาศภายในโรงแรม ที่มีกลิ่นอายของยุคสมัยเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ แต่ให้ความรู้สึกทันสมัยเหมือนยุค Gasby 1930
Feel the Chinese Vibe
สำหรับห้องอาหารนั้นถูกตกแต่งให้เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมอย่ากลมกลืน โดยมีความย้อนยุคเหมือนได้เข้าไปอยู่ในสมัยของเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ด้านหน้าของโรงแรมมีแจ๊สบาร์สำหรับขาดริงก์ ส่วนชั้นสองเป็นส่วนของห้องอาหารที่ตกแต่งสไตล์ สไตล์ Modern Chinese ที่ใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอันหรูหรา และชั้นสามเป็นส่วนของห้องอาหารเช้า Cotton พร้อมมีชุดกี่เพ้าหลาย ๆ แบบให้ใส่เพื่อถ่ายรูปด้วย
แจ๊สบาร์ของทางโรงแรมพร้อมต้อนรับคนทุกกลุ่ม สามารถแต่งตัวสบาย ๆ เข้ามานั่งดื่มดริงก์ได้โดยไม่ต้องเคอะเขิน
Good Start
สำหรับอาหารจีนกว้างตุ้งถูกครีเอทโดยเชฟใหญ่ Narapong Kongcome เชฟชาวไทยที่มีประสบการณ์ด้านอาหารจีนมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเคยร่วมงานกับร้านอาหารจีนในสิงคโปร์ ก่อนจะกลับมาร่วมงานกับ Shangarila Restaurant และมาอยู่กับ Shanghai Mansion จนถึงปัจจุบัน เริ่มต้นจากสั่งเมนูติ่มซำที่เป็นออร์เดิฟอย่าง Deep-Fried Spicy Shrimp Shu Mai served with Chunked Watermelon and Lychee (40 บาท/คำ) ขนมจีบไส้กุ้งทอด คลุกเคล้ากับซอสพริกสิงคโปร์ นำมาเสียบไม้กับลิ้นจี่และแตงโมให้ทานตัดเลี่ยน
สำหรับเมนูที่ขาดไม่ได้สำหรับห้องอาหารจีนนั้น เชฟแนะนำ Snow Fish Fillet (850 บาท) ปลาหิมะนำเข้า เนื้อสด มีสีขาว นึ่งกับซีอิ๊วสูตรเฉพาะของทางร้าน ให้ความหอม รสชาติกลมกล่อม เหมาะทานกับข้าวสวย
Signature Menu
ถัดมาที่จานหลักซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของห้องอาหารที่ใครมาก็ต้องสั่ง Classic Peking Duck (1,700 บาท) เป็ดปักกิ่งสูตรเฉพาะของทางร้าน โดยเชฟเล่าว่าต้องใช้เวลาสองวันกว่าจะได้เมนูนี้มา นำเข้าอบจนทำให้หนังกรอบ มีสีสันสวยงาม สไลด์เป็นแผ่น ๆ แล้วห่อกับแป้งเป็ดปักกิ่ง ผักต่าง ๆ และน้ำจิ้มเป็ดที่ผสมเปลือกส้ม
Inspired By Three Kingdoms
ส่วนเครื่องดื่มของที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะทางร้านได้มิกโซโลจิสต์ที่มีความรู้ในเรื่องค็อกเทลมาช่วยครีเอทเมนูแต่ละแก้วให้ สำหรับค็อกเทลที่ทางร้านแนะนำนั้น ได้แก่ Zhulong (300 บาท) แก้วนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากนักรบจูล่ง ตัวละครในเรื่องสามก๊ก เริ่มจากการรมควันกับสมุนไพรจีน ตามด้วยการใส่ Plum Wine, Gin, Lime และ Ume Shu ท็อปด้วยโทนิค ตกแต่งแก้วด้วยโป๊ยกั้กและเปลือกส้มกับกานพลู เวลาดื่มจะมีกลิ่นหอม เหมาะดื่มคู่กับเมนูเป็ดปักกิ่ง
ปิดท้ายด้วยค็อกเทลแก้วพิเศษอย่าง Shanghai Sour (300 บาท) เมนูที่ Twist มาจาก Whisky Sour แต่ปรับเปลี่ยนโดยใส่ Chu Yen Ching หรือ Chinese Whisky แทน ตามด้วยแสงโสม Marashino Liq, Bitters, Lime แล้วท็อปด้วยไข่ขาว ตกแต่งด้วยโกจิเบอร์รี่ ชาอู่หลง และ Bitters