‘Ryuzu Omakase’ The New Omakase in Thonglor
BKK. ชวนคุณไปดื่มด่ำกับความอร่อยสุดเอ็กคลูซีฟที่ Ryuzu Omakase ร้าน Premium Omakase สไตล์เอโดะมาเอะ ที่เลือกใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยมจาก 4 ฤดูกาลที่ส่งตรงมาจากทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น โดยแฝงความสนุกของการทานโอมากาเสะสไตล์เอโดะมาเอะ และความเป็นฟิวชั่นไว้เล็ก ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ แต่ยังคงความพรีเมียมของวัตถุดิบและรสชาติแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิม ให้คุณได้เอนจอยกับคอร์สพิเศษท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ สไตล์ Luxury & Cozy เรียบหรูแต่เข้าถึงง่าย พร้อมการบริการอย่างใส่ใจที่จะทำให้มื้อสุดพิเศษของคุณ เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำและประทับใจที่สุดที่ได้มาลิ้มลอง
Enjoy Your Course in Cozy and Luxury Vibes
ร้านตั้งอยู่ในโครงการ Marche’ Thonglor คอมมูนิตี้น้องใหม่ใจกลางเมือง แหล่งแฮงเอาต์แห่งใหม่ที่ครบครัน และยังสามารถแวะเวียนมาที่ Ryuzu Omakase ได้อย่างสะดวกสบาย โดยตั้งร้านอยู่บนชั้น 2 ของโครงการ โดดเด่นด้วยบานประตูไม้สีอ่อน และกำแพงสีขาวสะอาดตาประดับประดาด้วยภาพเพ้นท์มือของจิตรกรระดับประเทศ
เมื่อก้าวเข้ามาด้านใน จะพบกับเคาน์เตอร์บาร์ซึ่งเป็นจุดประจำการของเชฟ รายล้อมด้วยที่นั่งรอบเคาน์เตอร์เพื่อให้เห็นถึงขั้นตอนพิถีพิถันในการเสิร์ฟ บนเพดานถูกประดับประดาด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่ปักด้วยมือแบบชิ้นต่อชิ้นไว้บริเวณรอบ ๆ ในขณะที่บริเวณกำแพงจะเห็นลวดลายภาพเพ้นท์ที่สื่อถึงความพริ้วไหวของสายน้ำ เพราะคำว่า ‘Ryuzu’ นั้นมาจากคำว่า “竜頭ノ滝” ในภาษาญี่ปุ่น ที่หมายถึง “น้ำตกหัวมังกร” น้ำตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ทางร้านจึงตั้งใจให้ที่นี่เป็นดั่งความสดชื่นและร่มเย็น สร้างความรู้สึกสบายและเป็นกันเองทุกครั้งที่ได้มาเยือน รวมไปถึงความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ เหมือนกับความใสของน้ำตกที่ไร้สิ่งเจือปนตั้งแต่ต้นน้ำจรดปลายน้ำ
Omakase Edomae Style
ทางร้านมีคอร์สให้เลือกถึง 3 รูปแบบด้วยกัน ตั้งแต่ 14 Courses (3,500 บาท++ เฉพาะมื้อกลางวัน), 16 Courses (5,900 บาท++) และ 18 Courses (8,900 บาท++) ซึ่งทั้งหมดนี้รังสรรค์โดยเชฟไทยฝีมือดี ที่มีประสบการณ์ด้านการทำโอมากาเสะในประเทศญี่ปุ่นและไทยมานานกว่า 25 ปี โดยเชฟจะตีความแต่ละคอร์สผ่านแรงบันดาลใจจากสีของน้ำตกที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ส่งผลต่อรสชาติที่แตกต่างกัน แต่ยังชวนให้ประทับใจในทุก ๆ คำ ผนวกกับศิลปะและสุนทรียศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของการทานโอมากาเสะแบบญี่ปุ่น ออกมาเป็นคอร์สพิเศษที่อยากให้คุณหาโอกาสมาลิ้มลอง โดยวัตถุดิบทั้งหมดสลับสับเปลี่ยนกันมาจาก 4 ฤดูกาลในญี่ปุ่นซึ่งในครั้งนี้ BKK. ขอพาไปลิ้มลองวัตถุดิบสุดพรีเมียมในช่วง Summer ซึ่งเชฟจะครีเอตออกมาเป็นเมนูสุดพิเศษให้คุณได้เอนจอยกันตลอดทั้งคอร์ส
เริ่มต้นกันที่ Appetizer ที่เชฟเสิร์ฟเมนูทานเล่น 3 คำมาในดีไซน์สุดน่ารักที่เห็นแล้วต้องยิ้มตาม เริ่มต้นที่ Shiromi Tempura เทมปุระปลาเนื้อขาวทอดร้อน ๆ เสิร์ฟคู่กันกับเกลือหิมาลายัน คำถัดมาเป็น Sujiko Monaka ที่เชฟนำโมนากะหรือเวเฟอร์ญี่ปุ่นมาทำเป็นรูปหัวใจ สอดไส้ด้านในด้วย Bluefin Tuna Monaka ท็อปด้วย Name Sujiko (ไข่ปลาแซลมอนสด) คำสุดท้ายเป็น Zaru Mozuku สาหร่ายสดจากโอกินาว่าและ Junsai พืชน้ำจืดปรุงรสเปรี้ยวหวาน
คอร์สถัดมาเป็น Sashimi Moriwase ซาซิมิ 3 คำที่ประกอบไปด้วย Shiro Ebi กุ้งหวานตัวเล็กท็อปด้วยอูนิจากฮอกไกโด Katsuo (Bonito Tuna) หรือปลาโอลาย ซึ่งเป็นทูน่าชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มปลาสายพันธุ์อนุรักษ์ ที่ถูกจำกัดการจับทำให้หาทานค่อนข้างยาก และ Blufin Tuna ที่เชฟเลือกใช้ส่วนของชูโทโร่ เสิร์ฟเคียงมาด้วยวาซาบิสดจาก Shizuoka
ต่อกันที่ Awabi หรือ Abalone เมนูที่เชฟนำข้าวญี่ปุ่นไปคลุกเคล้ากับซอสตับอะวาบิโฮมเมด (ซอสตับเป่าฮื้อ) ก่อนจะท็อปด้วยเป๋าฮื้อญี่ปุ่นชิ้นโตแบบเต็มคำ ถัดมาเป็น Monk Fish หรือ Ankimo ต้มกับซอสสูตรพิเศษของทางร้านให้ได้ทานคู่กัน
มาถึงสารพัดเมนู Sushi กันบ้าง เริ่มต้นที่ Shima Aji Sushi ปลาชิมาอาจิจากจังหวัดนางาซากิ ท็อปด้วยต้นหอมและขิงบด ต่อกันที่ Same Karei Sushi ปลาตาเดียวจากญี่ปุ่น ท็อปด้วยหัวไชเท้าปรุงรสและผิวส้มยูซุ
ถัดมาเป็น Kinmedai Sushi จากจังหวัด Katsuura ท็อปด้วย Yuzo Kosho หรือพริกไทยยูซุ เครื่องเทศยอดนิยมในแถบคิวชู ก่อนจะขูดผิวส้มตามลงไปเพื่อเพิ่มมิติให้กับรสชาติ เป็นเมนูที่มีกลิ่นฉุนเล็กน้อยจากเครื่องเทศ แต่ให้รสชาติที่น่าประทับใจเลยทีเดียว
ต่อกันที่ Nodoguro Sushi ปลากะพงคอดำหรือปลากะพงสีชมพู เป็นหนึ่งในปลาเกรดพรีเมียมที่มีราคาสูง และคนญี่ปุ่นยกให้เป็นปลาที่มีรสชาติดีที่สุด ท็อปปลาบนวาซาบิบอลและข้าวคลุกอูนิ
คำถัดมาเป็น Botan Ebi กุ้งหวานตัวใหญ่ท็อปด้วยไข่กุ้งโบตั๋น เคียงมาด้วยหัวกุ้งหวานทอดแบบกรุบกรอบ ก่อนเสิร์ฟจานถัดไปเป็น Tachiuo ปลาดาบเงินห่อสาหร่าย
จานถัดมาเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของคอร์สอย่าง Akita Wagyu A5 เนื้ออากิตะวากิวจากวัวที่ถูกเลี้ยงอย่างดีด้วยรำข้าวและน้ำแร่ในอากิตะ เสิร์ฟมาคู่กันกับ Uni Bafun Toast โทสต์อูนิที่มีกิมมิกเก๋ ๆ อยู่ที่การเทน้ำร้อนลงไปในน้ำแข็งแห้งที่เป็นฐานด้านล่าง ใครที่เป็นสายถ่ายภาพ จานนี้นอกจากความอร่อยแล้วยังถ่ายรูปออกมาสวยอีกด้วย
Amadai ปลาอะมาไดที่เชฟเอาน้ำมันร้อน ๆ ราดหนัง จนทำให้เกล็ดทั้งหมดมีความกรอบสามารถเคี้ยวได้เพลิน ๆ เสิร์ฟมาบน Renkon (รากบัวญี่ปุ่น) และเกลือหิมาลายัน
ต่อกันที่ Blufin Tuna Sushi ที่เชฟเลือกใช้ทูน่าบลูฟินส่วนชูโทโร่ ส่วนคำต่อไปเป็นส่วน Otoro ที่ใช้ถ่าน Aburi จี่ด้านบนจนได้ความสุกที่กำลังดี ได้กลิ่นหอม ๆ ช่วยเพิ่มอโรม่าให้คำนี้อร่อยยิ่งขึ้น
ถัดมาเป็น Uni Bafun อูนิบาฟุนบนข้าวห่อด้วยสาหร่าย ทานได้เพลิน ๆ ปิดท้ายกันด้วยความหวานของซุปร้อน ๆ จาก Zuwai หรือปูหิมะ ที่เชฟนำก้ามปูหิมะไปต้มในซุปปู ก่อนจะหยดด้วยมะนาวญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มรสชาติอีกเล็กน้อย
ปิดท้ายกันที่คอร์สของหวานจานสุดท้าย ที่เชฟเสิร์ฟจัดเต็มขนม 3 อย่าง อาทิ Yuzu Granita Homemade ยูซุกรานิต้าโฮมเมด ที่เชฟโชว์วิธีการทำให้ดูกันแบบสด ๆ ตรงหน้า, Japanese Cheescake ชีสเค้กเนื้อเนียนนุ่มสไตล์ญี่ปุ่น และ Fruit Jelly เจลลีผลไม้สดเสิร์ฟในเปลือกส้มให้ทานแบบเพลิน ๆ ปิดท้ายมื้อสุดพรีเมียม 18 คอร์สที่เต็มไปด้วยความอร่อยได้เป็นอย่างดี