Dine with the High-Quality Food
สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารที่เหมาะกับการพาครอบครัวมาทาน โดดเด่นด้วยบรรยากาศสบาย ๆ มีหลากหลายมุมที่นั่งให้เลือกสรร พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูสุดพรีเมียมที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นดี ขอแนะนำให้ลองแวะมาที่ Siam Brasserie ร้านอาหารไทยต้นตำรับคุณย่า ซึ่งยังคงสูตรอาหารไทยแท้ที่สืบทอดมาตั้งแต่ต้นสมัยสยามประเทศ มาผสมผสานเข้ากับวิธีการนำเสนอที่วิจิตรบรรจง เพื่อเนรมิตทุกมื้อพิเศษให้เต็มไปด้วยช่วงเวลาแสนประทับใจ
นอกจากอาหารไทยสูตรต้นตำรับคุณย่าแล้ว ทาง Siam Brasserie ก็ยังพร้อมเสิร์ฟความอร่อยในส่วนของอาหารนานาชาติที่ถูกรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถันโดยเชฟมากฝีมือ และจากประสบการณ์การเดินทางของคุณเจมส์ ที่หยิบจับเอาสารพัดเมนูจากหลากหลายภูมิภาคของโลก ทั้งจากฝั่งเอเชีย อิตาลี ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา มานำเสนอเป็นเมนูพิเศษของทางร้านได้อย่างน่าสนใจ
Comfy Vibes
ด้านบรรยากาศภายในร้านก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน โดยทางร้านได้พร้อมให้บริการหลากหลายมุมที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณด้านหน้าร้านที่เปิดรับแสงธรรมชาติสวย ๆ หรือจะเป็นโซนด้านในซึ่งเต็มไปด้วยมุมที่นั่งสบาย ๆ ให้เลือกสรร ส่วนที่ต้องยกให้เป็นไฮไลต์เลยก็คือโซนกลาสเฮ้าส์ริมระเบียงที่โดดเด่นด้วยการออกแบบโครงสร้างและตกแต่งร้านแบบล้อมรอบด้วยกระจกใสบานใหญ่ กับทำเลที่ตั้งอยู่ติดสวนสวยสุดร่มรื่นสบายตา ให้คุณได้ดื่มด่ำบรรยากาศสดชื่นไปกับวิวแมกไม้นานาชนิดด้านนอก พร้อมซึมซับกลิ่นอายความอบอุ่นในวันพักผ่อนสบาย ๆ กับครอบครัวและก๊วนเพื่อนคนสนิทได้อย่างเป็นส่วนตัว
Taste of Thai and International Cuisine
สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ ทางร้านได้สอดแทรกความพิเศษเอาไว้ในทุก ๆ จาน แนะนำให้ลองทาน แกงมัสมั่นแกะ (490 บาท) เมนูที่รวมรสชาติความเป็นไทย สื่อถึงความเป็น 'สยาม' และพรีเซ็นต์ความเป็นบราสเซอรีเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ทั้งในส่วนของแกงมัสมั่นที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นของเครื่องเทศ บวกกับรสชาติเข้มข้นแบบดั้งเดิม และเพิ่มเติมความพิเศษด้วยซี่โครงแกะเนื้อนุ่มชิ้นโตให้ทานคู่กัน
หรือจะเป็นเมนูน้ำพริกแบบไทย ๆ อย่าง ชุดน้ำพริกกะปิ ปลาทูชะอมไข่ทอด (320 บาท) โดยเชฟจะโขลกน้ำพริกแบบสดใหม่ทุกออร์เดอร์ ได้รสชาติตามแบบต้นตำรับ ทั้งรสเปรี้ยวเค็มเผ็ดกำลังดี หอมกะปิชั้นดี พร้อมเสิร์ฟเคียงมากับผักลวก ผักสด และปลาทูตัวโตที่ทางร้านให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยจะแกะก้างออกเพื่อให้ทานปลาทูกันได้ง่ายมากขึ้น
อีกหนึ่งเมนูใหม่ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอคือ ต้มยำพุงปลาช่อนน้ำใส (370 บาท) ต้มยำน้ำใสรสชาติจัดจ้าน มาพร้อมความหอมของเครื่องต้มยำตามแบบฉบับไทยแท้ เติมรสชาติด้วยน้ำมะนาวหอม ๆ และพริกขี้หนูสวน พร้อมเสิร์ฟเนื้อส่วนของพุงปลาช่อนชิ้นใหญ่ให้ได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ
นอกจากจานกับข้าวแล้ว ที่นี่ยังเสิร์ฟอาหารจานเดียวสำหรับชั่วโมงเร่งรีบด้วย แนะนำเมนู สยามผัดไทย (270 บาท) ผัดไทยสูตรดั้งเดิมที่เสิร์ฟมาในลักษณะของการห่อไข่ สีเหลืองสวยชวนทาน ให้เนื้อสัมผัสของเส้นจันท์ที่เหนียวนุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำซอสปรุงรสกลมกล่อม พร้อมเคียงคู่ความอร่อยมากับกุ้งตัวโตให้ทานคู่กัน
มาต่อกันที่เมนูอาหารนานาชาติที่ผ่านการครีเอทมาอย่างตั้งใจในจานของ Fettuccine Seafood Nero (390 บาท) เฟตตูชินีซีฟู้ดเนโรซอสหมึกดำรสชาติกลมกล่อม ที่เสิร์ฟมาอย่างสวยงามในจานหลุม อัดแน่นไปด้วยเครื่องซีฟู้ดคุณภาพพรีเมียม ทานกันได้เพลิน ๆ หรือหากใครที่มาทานกันเป็นกลุ่มใหญ่ ต้องไม่พลาดสั่ง Pork Ribs Barbecue Sauce (1,390 บาท) ซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิวชิ้นโต ที่เหมาะเป็นจาน Sharing โดยเมนูนี้เป็นซี่โครงหมูที่ถูกหมักมาเป็นอย่างดี ย่างหอม ๆ ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม ทานง่าย ก่อนจะเพิ่มรสชาติด้วยซอสบาร์บีคิวสูตรของทางร้าน ที่เคียงมากับเครื่องจิ้มและมันฝรั่งให้ทานคู่กัน
ส่วน Pizza Creamy Tomato Spicy Seafood (450 บาท) ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอ เมนูนี้คือโฮมเมดพิซซ่าแบบแป้งบางกรอบ มาพร้อมกับความครีมมี่ของโทมาโทสไปซี่ซีฟู้ดสูตรเฉพาะของที่ร้าน พร้อมหน้าซีฟู้ดแบบพรีเมียม ให้เอ็นจอยมื้อพิเศษนี้กันอย่างเต็มอิ่ม
ปิดท้ายกันที่ ขนมแซงมา (150 บาท) ขนมหวานไทยโบราณ อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน โดยขนมแซงมาของที่นี่จะให้เนื้อสัมผัสของเส้นขนมที่นุ่มหนึบหนับ หอมกลิ่นน้ำตาลมะพร้าว ที่เสิร์ฟมากับน้ำกะทิและงาขาวคั่วให้ทานคู่กัน เป็นการส่งท้ายมื้ออาหารนี้ได้อย่างน่าประทับใจ