Drink Coffee Like An Australian
สำหรับคอกาแฟคนไหนที่กำลังมองหาร้านนั่งจิบกาแฟ พร้อมพูดคุยกับบาริสต้าในบรรยากาศสบาย ๆ ขอแนะนำ Single Lane พื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ ที่ยกเอาบรรยากาศและรสชาติของกาแฟแบบ Australian Style มาไว้ยังใจกลางย่านพระโขนง พร้อมด้วยโครงสร้างการออกแบบภายในร้านที่มีความลึกเข้าไปด้านในคล้ายกับเลนถนน เมื่อบวกกับการคัดสรรเมล็ดกาแฟที่ทางร้านเน้นเสิร์ฟเป็นพิเศษในรูปแบบของ Single Origin ด้วยแล้ว จึงถูกนำมาเป็นกิมมิกในการตั้งชื่อร้านที่ใช้ชื่อว่า Single Lane นั่นเอง
ด้วยประสบการณ์การเป็นบาริสต้าที่ออสเตรเลียถึง 4 ปี ของ คุณโอและคุณเมย์-เจ้าของร้าน ทั้งคู่จึงตัดสินใจกลับมาร่วมกันปลุกปั้นร้านกาแฟเล็ก ๆ สไตล์ Australian ที่ทั้งเท่และอบอุ่นไปพร้อม ๆ กัน ด้วยการตกแต่งแบบปูนเปลือยและเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ได้มู้ดแอนด์โทนสบาย ๆ ผสมผสานกับความดิบเท่สไตล์ Loft นิด ๆ พร้อมเสริมความร่มรื่นเย็นสบายตาด้วยต้นไม้ประดับที่ทางร้านเลือกนำมาตกแต่งไว้ตามมุมต่าง ๆ อย่างลงตัว
ในส่วนของกาแฟที่ทางร้านค่อนข้างให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คุณโอเล่าให้ฟังว่าทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูกาแฟที่เบลนด์จากเมล็ดกาแฟแบบ Single Origin ที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้คุณลูกค้าได้ลองชิมทุกอาทิตย์ โดยเลือกใช้เมล็ดกาแฟจากหลากหลายประเทศที่คุณโอและคุณเมย์คัดเลือกมาด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเมล็ดคั่วอ่อนไปจนถึงคั่วกลางเพื่อให้ได้รสชาติแนว Fruity ที่ Body ไม่หนักจนเกินไปตามสไตล์ Australian แต่หากใครที่ชอบเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ของไทย ทางร้านก็มีเมล็ดกาแฟจากจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายมาให้ได้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้วยเช่นกัน
Single Origin Coffee
มาถึงที่ร้านต้องลองดื่มเมนูคลาสสิกอย่างกาแฟดริป Drip Coffee (160 บาท) สำหรับแก้วนี้ ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วกลางจาก Colombia โรงคั่วที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งให้รสชาติและกลิ่นแนว Fruity ดื่มง่ายคล้ายกับการดื่มชา เหมาะกับคนเพิ่งเริ่มดื่มกาแฟอย่างมาก
ต่อมาเป็นแก้วไฮไลต์ของร้าน มีชื่อว่า Magic (100 บาท) เบสรสชาติด้วย Double Ristretto สัดส่วน 3/4 ของแก้ว หรือเป็นการใช้ส่วนสกัดแค่ต้นช็อตเท่านั้น จึงมีรสชาติที่เข้มและ Body แน่นกว่าปกติ อีกหนึ่งแก้วแนะนำคือ Summerest (150 บาท) เครื่องดื่ม Refreshing ที่มีส่วนผสมของกาแฟ Cold Brew สูตรเฉพาะของทางร้านที่ใช้เมล็ดกาแฟจากอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะเชคเข้ากับชาพีชและน้ำลูกพรุน พร้อมตกแต่งแก้วด้านบนด้วยพุทราเชื่อม
ส่วนใครที่เป็นสาย Dirty ทางร้านก็มีเมนู Dirty Kat (110 บาท) กาแฟตระกูล Dirty ที่ใช้เมล็ดกาแฟเบลนด์จากจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เบสรสชาติด้วยครีมสดและนม พร้อมด้วยช็อกโกแลตคิทแคทที่ถูกนำมาแต่งแก้วและเสิร์ฟเพื่อให้ได้ทานคู่กับกาแฟแก้วนี้โดยเฉพาะ
Non-Coffee and Sweet Menu
หากไม่ดื่มกาแฟต้องลอง Fudge (140 บาท) แก้วนี้คุณโอเลือกใช้โกโก้รสเข้มข้นและน้ำตาลทรายแดงผสมกันก่อนนำไปแช่จนเป็นน้ำแข็ง แล้วใส่ลงไปในแก้ว เพิ่มครีมสดและเทนมสดทับลงไปก่อนจะท็อปด้านบนสุดด้วยไอศกรีมวานิลลา ให้กลิ่นหอมหวาน รสชาติแสนละมุน
นอกจากเมนูกาแฟแล้ว ทางร้านยังเสิร์ฟเมนูเบเกอรี่ให้ได้ทานควบคู่กันอีกด้วย โดยคุณเมย์เป็นคนลงมือทำเองในรูปแบบโฮมเมดเกือบทุกอย่าง ซึ่งทางร้านจะมีเมนูใหม่ ๆ มาให้ลองชิมกันเรื่อย ๆ สำหรับเมนูที่พลาดไม่ได้เลยขอยกให้กับ Lemon Cake (95 บาท) ที่เสิร์ฟมาแบบอุ่น ๆ พร้อมแต่งหน้าเค้กด้วยเลมอนขูดและซอสรสเปรี้ยวอมหวาน ทานได้เพลิน ๆ เข้ากันดีกับเครื่องดื่มทุกแก้ว