Khao-Gang in Warehouse 30
เรียกว่าสร้างชื่อเสียงและกวาดรางวัลมามากมาย สำหรับร้าน Nahm ร้านอาหารไทย Fine Dining ที่เลือกเฉพาะวัตถุดิบจากแหล่งที่ดีที่สุดทั่วประเทศ สร้างสรรค์ทุกเมนูอาหารไทยโดย เชฟเดวิด ทอมป์สัน ก่อนที่เชฟจะมาเปิดร้านข้าวแกงร่วมกับ คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค ที่ Warehouse 30 กับชื่อร้าน Someday Everyday ร้านข้าวแกงร่วมสมัยที่เชฟตั้งใจนำเสนอกับข้าวรสชาติดั้งเดิมด้วยวัตถุดิบไทยคุณภาพดีในราคาหลักร้อยเท่านั้น
Contemporary Thai Style
ด้านล่างของร้านจะเป็นเคาน์เตอร์เปิดโล่งเพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาสั่งเมนูราดข้าวตามใจชอบ ก่อนขึ้นไปนั่งทานด้านบนยังโซนที่ออกแบบในแนวร่วมสมัย ถือเป็นร้านข้าวแกงที่ค่อนข้างฉีกกฎของร้านข้าวแกงทั่วไป เนื่องจากต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงได้ จึงใช้โครงสร้างปูนเปลือย แล้วตกแต่งด้วยต้นไม้บริเวณรอบ ๆ ร้าน พร้อมเลือกใช้กระจกใสที่เปิดรับแสงสว่างให้ผ่านเข้ามา ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการทานข้าวแกงในบรรยากาศของคาเฟ่นั่นเอง
Quality Ingredients
ข้าวแกงของที่นี่เชฟเดวิดได้ร่วมกันคิดค้นเมนูกับ เชฟปริญญ์ ผลสุข อดีตหัวหน้าเชฟแห่งร้าน Nahm โดยเชฟปริญเล่าว่า ที่นี่จะไม่ใช้วัตถุดิบที่แพงที่สุด แต่จะเลือกเฉพาะวัตถุดิบจากแหล่งท้องถิ่นที่ดีที่สุดในประเทศ ปรุงทุก ๆ หม้อด้วยความพิถีพิถัน ไม่เน้นทำปริมาณมาก เพราะจะทำให้สชาติผิดเพี้ยน นอกจากนี้ หลาย ๆ เมนู ยังเป็นเเมนูที่หาทานยาก แต่เชฟเดวิดก็ได้เรียนรู้และสั่งสมเมนูเหล่านี้มาตั้งแต่สมัยที่เปิดร้านอาหารไทย Darley Street Thai ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ทำให้เชฟเองเป็นที่รู้จักในแวดวงอาหารของออสเตรเลียและระดับโลก ที่นี่หากสั่งเมนูราดข้าว เริ่มต้นที่จานละ 70 บาท เพิ่มเครื่องเคียงอย่างละ 60 บาท หากสั่งเป็นกับข้าวแยกหรือใส่ถ้วยแยก เริ่มต้นชุดละ 100 บาท นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งเป็นเซ็ตกับข้าวแยกตามที่เราต้องการได้อีกด้วย
เมนูอาหารราดข้าว ประกอบไปด้วยเมนูอาหารไทยต่าง ๆ อาทิ แกงระแวงเนื้อ แกงส้มปลาช่อนของโชค แกงกะหรี่ผัก ไข่พะโล้ ซี่โครงหมูอ่อนต้มใบมะดัน แกงจืดเจ จับฉ่ายแห้ง ผัดมะเขือยาว ลูกชิ้นกุ้งผักโสภณ ผัดเผ็ดไก่ใส่หน่อไม้ ผัดคะน้ากับเห็ดฟาง และน้ำพริกนรก ทั้งนี้ เมนูอาหารจะสับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน
สำหรับเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่ง ได้แก่ แกงระแวงเนื้อ หรือแกงเขียวหวานแห้ง สูตรต้นตำรับมาจากเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย มีส่วนผสมหลักคือกะทิ ขมิ้นขาว และเมล็ดยี่หร่าแขก ตัดรสมันด้วยมะม่วงเปรี้ยว ทำให้เมนูนี้มีกลิ่นหอมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ถัดมาเป็นเมนู จับฉ่ายแห้ง เป็นเมนูที่หาทานยากอีกหนึ่งเมนู ทางร้านใช้วุ้นเส้นมาผัดกับผักหลากหลายชนิดที่หาได้ในบ้านเรา ผัดจนแห้งได้ที่ ทานกับเป็ดรมควันเนื้อนุ่ม ๆ หอม ๆ หรือใครที่ทานมังสวิรัติก็เลือกที่จะไม่ใส่เนื้อเป็ดก็ได้
เมนูโบราณที่เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่อาจไม่รู้จัก นั่นคือ ซี่โครงหมูอ่อนต้มใบมะดัน เมนูนี้ได้สูตรดั้งเดิมมาจากตระกูลบุญนาค แต่ดัดแปลงจากเป็ดให้เป็นกระดูกหมูอ่อน ต้มเปื่อย ๆ จนน้ำข้น ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยหอมเจียว ได้รสเปรี้ยวนำจากใบมะดัน
ใครที่ชอบทานห่อหมกน่าจะคุ้นเคยกับเมนูนี้ นั่นก็คือ ห่อหมกปลาช่อน ที่ใช้เครื่องแกงตำแบบวันต่อวัน คลุกเคล้ากับเนื้อปลาช่อนที่แกะมาอย่างดี ก่อนจะนำไปนึ่ง เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมข้าวสวย ทานเพลินได้ไม่รู้จบ
ปิดท้ายที่ขนมหวานอย่าง ข้าวเหนียวเปียกลำไย ข้าวเหนียวดำแช่น้ำ 1 คืน เพื่อให้ข้าวอ่อน จากนั้นนำมาต้มใส่น้ำตาล กะทิ และลำไย ก่อนเสิร์ฟด้วยการราดน้ำกะทิอีกครั้งเพื่อให้ได้รสเค็ม ๆ มัน ๆ เป็นสูตรดั้งเดิมที่ใครได้ชิมก็ต้องติดใจกันทุกราย