The Finest Truffle From Italy To Bangkok
ใครที่ชื่นชอบอาหารสไตล์ไฟน์ไดน์นิ่งคงจะรู้จักกับวัตถุดิบสุดหรูอย่างทรัฟเฟิลเป็นอย่างดี ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของทรัฟเฟิล ทำให้กลายเป็นเห็ดที่มีราคาแพงที่สุดในโลกและยังเป็นที่นิยมของเหล่าบรรดาเชฟและร้านอาหารชั้นนำมากมาย และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ชาวไทยจะได้ลองทานอาหารที่ร้านอาหารสุดหรูในธีมทรัฟเฟิลจาก Urbani แบรนด์จัดจำหน่ายทรัฟเฟิลและผลิตภัณฑ์ทรัฟเฟิลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสาขานี้ได้คุณ Roberto Ugolini เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังมาเป็น Director ของที่นี่ และได้นำร้านมาเปิดสาขาบนชั้น 39 อาคารสาทรสแควร์ พร้อมต้อนรับให้ทุกคนได้มาสัมผัสโลกของทรัฟเฟิลกัน
Luxurious Spaces
สำหรับตัวร้านจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนใหญ่ ได้แก่ โซน Raw Bar และ โซนร้านอาหาร สำหรับโซน Raw Bar จะมีวัตถุดิบสด ๆ อิมพอร์ตจากต่างประเทศหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป ครีเอทเป็นเมนูอาหารนานาชาติที่ผสมผสานรสชาติของทรัฟเฟิลเข้าไปในรูปแบบแปลกใหม่ อย่างเช่นการนำทรัฟเฟิลไปผสมผสานกับซูชิ เป็นต้น
ต่อด้วยโซนร้านอาหาร ซึ่งตกแต่งให้ดูหรูหรา เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และเก้าอี้หนังสีเข้ม เข้ากับสีทองตามมุมต่าง ๆ และมีมุมที่นั่งที่สามารถมองเห็นวิวตึกสูงของย่านสาทรได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีบริเวณครัวที่เปิดให้มองเห็นเหล่าเชฟปรุงอาหารกันสด ๆ และมุมที่จัดวางสินค้าจากทรัฟเฟิลให้เลือกช้อปกลับไปปรุงอาหารกันต่อที่บ้านได้อีก
The Signature Deluxe Menus
ตอนนี้ทางร้านยังมี Tasting Menus แบบคอร์สให้เลือกทาน โดยจะมีทั้งแบบ 5 คอร์ส ราคา 3,900 บาท++ และ 7 คอร์ส ราคา 5,500 บาท++ ทั้ง 2 แบบจะรวม Chandon 1 แก้ว และเมนู Chef's Amuse Bouche ที่จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โดยวัตถุดิบส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศและได้เชฟมากประสบการณ์มาครีเอทเป็นเมนูอาหารสุดพิเศษที่มีทรัฟเฟิลเป็นส่วนผสม
สำหรับมื้อนี้ จะเป็นแบบ 5 คอร์ส โดยเริ่มเสิร์ฟด้วย Chef's Amuse Bouche ที่ครั้งนี้เลือกเสิร์ฟเป็น หอยนางรมสด ๆ จากฝรั่งเศส ให้ทานเรียกน้ำย่อยกันก่อน ต่อด้วยคอร์สแรกที่มีให้เลือกทั้ง Pear and truffle Salad สลัดเบบี้สปิแนช ลูกแพร์สดและลูกแพร์ตุ๋นไวน์แดง เพิ่มรสชาติด้วยส้มแมนดาริน ปิดท้ายด้วยทรัฟเฟิลสไลด์ หรือเลือกเป็น Truffle foie gras terrine โฮมเมด Terrine ที่ผสมผสานทรัฟเฟิลและฟัวกราส์ เพิ่มเท็กซ์เจอร์ถั่วพิสตาชิโอครัมเบิ้ล และไอศกรีมพิสตาชิโอ ทานคู่กับขนมปังโฮมเมด
คอร์สที่ 2 เป็นเมนูพาสต้า ไม่ว่าจะเป็น Agnolotti al Tartufo พาสต้า Agnolotti โฮมเมด สอดไส้เนื้อวากิวและทรัฟเฟิล พร้อมซอส truffle bearnaise ท็อปด้วยทรัฟเฟิลสไลด์ หรือ Tagliatelle Cabonara เมนูพาสต้ายอดนิยม ทางร้านใช้เส้น Tagliatelle โฮมเมด เสิร์ฟคู่กับไข่แดงที่ผ่านการ Sous Vide และโรยหน้าด้วยทรัฟเฟิลสไลด์
สำหรับคอร์สที่สาม จะเป็นเมนูเนื้อปลา Dover sole truffled chermoula เนื้อปลา Dover Sole ซูวีจนได้เนื้อที่นุ่ม เสิร์ฟคู่กับซูกินี่และ truffled chermoula ส่วนใครที่ชอบทานสเต๊กปลา สามารถเลือกสั่ง Pan - roasted sea bass เนื้อปลา Spanish sea bass ย่างบนกระทะ เสิร์ฟคู่กับฟักทองอบ ไส้กรอกซอริโซ่ มะเขือเทศกงฟีร์ และขิง
มาถึงคอร์สที่ 4 มีให้เลือกทั้ง Tournedos Rossini สเต๊กเนื้อวัวส่วน Tenderloin จากออสเตรเลีย เสิร์ฟคู่กับฟัวกราส์ มันฝรั่ง มะเขือเทศ และซอสทรัฟเฟิล ส่วนใครที่ไม่ทานเนื้อ สามารถสั่ง Slow cooked lamb tenderloin เนื้อแกะจากนิวซีแลนด์ที่ผ่านการซูวี ได้เนื้อที่นุ่มไม่เหนียว ทานคู่กับผักหลากหลายชนิด และ truffle relish
The Sweet Ending
ทานอาหารคาวกันครบแล้ว ก็ถึงเวลาของขนมหวาน สำหรับใครที่เลือกสั่งแบบ 5 คอร์ส เลือกสั่งระหว่าง White Truffle Tiramisu ครีมทิรามิสุผสมผสานกับกลิ่นทรัฟเฟิลขาว ซ่อนอยู่ภายใต้โดมไวท์ช็อกโกแลต ทานคู่กับเบอร์รี่ครัมเบิล เป็นเมนูที่ได้รสชาติของทรัฟเฟิลเต็ม ๆ หรือลองสั่ง Chocolate Fondant เมนูช็อกโกแลตลาวาอุ่น ๆ เสิร์ฟคู่กับ Chocolate Praline และ Tuile ส่วนใครที่ทานแบบ 7 คอร์ส สามารถเลือกสั่งเมนู Mango and Truffle มูสมะม่วงพูเร ทานคู่กับ Cream Cheese Truffle เป็นเมนูที่ผสมผสานทรัฟเฟิลกับขนมหวานได้อย่างลงตัวMust Read!
- ร้านอาหารในคอนเซ็ปต์ Urbani Truffles มีในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่อเมริกาหรือญี่ปุ่น แต่สำหรับสาขานี้ที่นี่เป็นที่แรกในประเทศไทย
- ทางร้านเปิดทั้่งช่วงกลางวันและช่วงดินเนอร์ ช่วงกลางวัน ทางร้านจะมีเซ็ตอาหารกลางราคาเข้าถึงได้ไว้ให้บริการ