‘อารีย์’ อีกหนึ่งย่านชื่อดังที่กำลังเป็นที่ฮอตฮิตสำหรับชาว Cafe Hopper กันอยู่ในตอนนี้ โดดเด่นด้วยหลากหลายร้านอาหาร บาร์ และสปาบรรยากาศสบาย ๆ ตลอดจนคาเฟ่ดีไซน์เก๋ ๆ มากมาย BKK. จึงขอชวนคุณมาผ่อนคลายและออกไปสนุกกับหลากหลายกิจกรรมสุดชิลล์ พร้อมครีเอตโมเมนต์ดี ๆ ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังเดินทางมาถึงนี้กันที่ ‘ย่านอารีย์’ ที่จะเปลี่ยนวันแสนธรรมดาให้เต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความสุขสุดประทับใจ
ทุก ๆ โมเมนต์ของการพักผ่อนใน ‘ย่านอารีย์’ ของคุณ จะสะดวกสบายในทุกการใช้จ่าย เพียงแค่พกบัตร UnionPay ไปด้วยทุกที่ ก็จะทำให้คุณเติมเต็มช่วงเวลาสุดพิเศษนี้แบบที่คุณเลือกได้ตามใจชอบ มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะกิน เที่ยว ชิลล์ ช้อป ก็ครอบคลุมได้ทุกไลฟ์สไตล์ในบัตรเดียว ตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ว่าแล้วอย่ารอช้า ออกไปเติมสีสันความสนุกกับ 5 ร้านดังย่านอารีย์ ที่จะทำให้คุณแฮปปี้มากกว่าที่เคย
Enjoy Your One Fine Day
Spend Smarter, Your Way
เริ่มต้นวันสบาย ๆ กับบัตร UnionPay กันที่ร้านแรกอย่าง JOHA Korean Restaurant ร้านอาหารเกาหลีรสชาติต้นตำรับจากปูซาน ที่ใครผ่านไปผ่านมาต้องสะดุดตากับการตกแต่งร้านสไตล์โคเรียโมเดิร์น คุมโทนด้วยสีแดงตัดกับเขียวอย่างเรียบหรู พร้อมแต่งเติมความเก๋ด้วยโครงเหล็กบริเวณหน้าร้าน
ในส่วนของเมนูอาหาร ทางร้านพร้อมคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี ที่นำเข้ามาจากเกาหลีใต้โดยเฉพาะ รังสรรค์ความอร่อยด้วยฝีมือของเชฟโอปป้าชาวเกาหลี ที่ตั้งใจอยากนำเสนอรสชาติความอร่อยแบบต้นตำรับแท้ ๆ ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง แนะนำเมนูยอดฮิตของทางร้านอย่าง ข้าวยำเกาหลี (250 บาท) จัดเต็มความอร่อยมาด้วยผัก 7 ชนิด ได้แก่ แครอท หัวไชเท้า เห็ดหอม ถั่วงอก กวางตุ้ง ซุกินี และโคซารี เสิร์ฟลงบนหม้อหินร้อน ๆ ทานพร้อมกับเต้าหู้ ได้ความอร่อยสไตล์เกาหลีแบบเต็ม ๆ
ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูแนะนำจากทางร้านอย่าง ซุปไก่โสม (470 บาท) ไก่ตุ๋นโสมเกาหลี ที่ทางร้านนำโสมไปเคี่ยวกับน้ำซุปเป็นเวลานานถึง 5 ชั่วโมง อัดแน่นด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เกาลัด, กระเทียม, ขิง, แปะก๊วย และพุทราจีน ท็อปด้านบนด้วยข้าวทอด ให้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอมกลิ่นสมุนไพรเป็นอย่างดี
JOHA Korean Restaurant
ซอยพหลโยธิน 7 (อยู่ระหว่างซอยอารีย์ 3 และ 4)
เปิดวันพุธ-จันทร์ (ปิดวันอังคาร) เวลา 11.30-21.30 น.
โทร. 08-3177-5533
www.facebook.com/JOHA-Korean-Restaurant
เปลี่ยนบรรยากาศมาลิ้มลองความอร่อยของอาหารใต้รสชาติจัดจ้านที่ร้าน Paknang ร้านอาหารใต้ร่วมสมัยที่นำเสนอความอร่อยของอาหารใต้สูตรลับประจำตระกูลจากอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยฝีมือของทายาทรุ่นปัจจุบันของคุณยายละมูล พร้อมเสิร์ฟความอร่อยในบรรยากาศสุดชิคสไตล์คาเฟ่ แต่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความคลาสสิก ผ่านเฟอร์นิเจอร์วินเทจและของตกแต่งยุค 60’s สุดน่ารักที่ผสานเข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
สำหรับความพิเศษของเมนูอาหาร ทางร้านเลือกนำเสนออาหารใต้ตามสไตล์ของปากพนัง ซึ่งให้รสชาติในแบบดั้งเดิม โดยเลือกใช้วัตถุดิบพื้นเมืองจากจังหวัดนครศรีธรรมราชมาปรุงอาหารทุก ๆ จาน เพื่อให้ได้กลิ่นอายและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตามสูตรของคุณยายละมูลอย่างแท้จริง
พลาดไม่ได้กับเมนู Signature อย่าง คั่วแห้งเนื้อปลากะพง (220 บาท) เนื้อปลากะพงสับทอดกรอบ นำไปคั่วกับพริกแกงรสจัดจ้านสูตรเฉพาะของยายละมูล ผสานความอร่อยเข้ากับพริกแกงกะทิจนแห้งได้ที่ ก่อนจะเพิ่มกลิ่นหอมสมุนไพรด้วยพริกไทยอ่อนและใบมะกรูด ให้สัมผัสถึงรสชาติเข้มข้น จัดจ้าน และหอมกลิ่นสมุนไพรเป็นอย่างดี ตามด้วยการดับรสชาติเผ็ดจัดจ้านด้วยน้ำสมุนไพรโบราณ อย่าง ยี่หวา (85 บาท) น้ำกระเจี๊ยบและพุทรา ให้รสเปรี้ยวอมหวานกำลังดี เติมเต็มความสดชื่นให้มื้อนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
Paknang
ซอยพหลโยธิน 7
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น., 17.00-22.00 น.
โทร. 09-8822-1450
www.facebook.com/paknang.bkk
อิ่มท้องกับหลากหลายเมนูของคาวกันแล้ว ก็ได้เวลามา Hopping กันต่อที่ Bar Storia del Caffè คาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ ที่พร้อมให้คุณแวะมาผ่อนคลายในบรรยากาศสุดรื่นรมย์ โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์เรโทรผสมวินเทจ ที่หากคุณก้าวเข้ามาจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายคล้ายคาเฟ่สไตล์ยุโรป ผสมกับความประณีตของเฟอร์นิเจอร์ที่ทางร้านสั่งทำพิเศษ และตกแต่งด้วยของสะสมแนววินเทจ นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจในวันสบาย ๆ
เมนูอาหารของทางร้าน นอกจากจะเน้นเสิร์ฟอาหารสไตล์ All Day Dining แล้ว ยังมีอีกหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและขนมหวานให้อิ่มอร่อยตลอดวัน แนะนำเมนูทานเล่นอย่าง Baked Clams and Garlic Toast (220 บาท) ขนมปังเนยกระเทียม ที่เสิร์ฟความอร่อยมาให้ทานคู่กับหอยลาย ที่ทางร้านนำไปผัดกับเกลือ พริกไทย และชีส จนได้รสหอมกลมกล่อม ทานแล้วเข้ากันเป็นอย่างดี จับคู่กับเครื่องดื่ม Special Coffee อย่าง Shakerato (110 บาท) กาแฟดำที่ผสานความหอมหวานด้วยไซรัปวานิลลาและคาราเมล ก่อนจะนำไปเชคจนเกิดเป็นฟองนุ่ม ๆ ให้สัมผัสได้ถึงความเข้มข้น พร้อมรสหวานละมุนอย่างลงตัว
พลาดไม่ได้กับเมนูขนมหวานแนะนำของทางร้านอย่าง Profiteroles Trio (260 บาท) ขนมปังเนื้อนุ่ม สอดไส้ความหอมหวานด้วยไอศกรีม 3 รสชาติ อย่าง วานิลลา, ดาร์กช็อกโกแลต และสตรอเบอร์รีชีสทาร์ต ก่อนจะราดด้วยซอสช็อกโกแลตที่ทางร้านทำเองปิดท้าย ได้ความเข้มข้นเต็ม ๆ คำ แนะนำให้ทานคู่กับ Iced Latte (130 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟเบลนด์สูตรเฉพาะของ Bar Storia del Caffè ผสานความกลมกล่อมด้วยนมสดที่ไม่ใส่ไซรัป ให้สัมผัสถึงกลิ่นหอมกรุ่น และรสนุ่มนวลในแก้วเดียว
Bar Storia del Caffè (Ari)
ซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ)
เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-23.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-24.00 น.
โทร. 08-2581-9026
www.facebook.com/barstoriadelcaffe
Hopping กันมาทั้งวัน ก็ได้เวลาคลายความเหนื่อยล้าที่ Ikigai Spa Bangkok ร้านสปาบรรยากาศแสนอบอุ่น เรียบง่าย ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงแรม Craftsman Bangkok Hotel ซอยพหลโยธิน 11 หนึ่งในสถานที่ที่พร้อมให้คุณได้ใช้ช่วงเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ และเติมเต็มช่วงเวลาดี ๆ ให้คุณหยุดพักจากสิ่งต่าง ๆ ท่ามกลางความสงบอย่างแท้จริง
ด้วยบรรยากาศละมุนละไมสไตล์ญี่ปุ่นที่เหมาะแก่การพักผ่อน ชวนให้คุณได้ใช้เวลาระหว่างจิบ Welcome Drinks แก้วพิเศษแสนชื่นใจในการเลือกหลากหลายโปรแกรมทรีตเมนต์เพื่อใช้เวลาผ่อนคลายร่างกายอย่างเต็มที่ทั้งการนวดไทยและนวดอโรมา สำหรับผู้ที่หลงรักการนวดไทย แนะนำให้ลองรับบริการโปรแกรมของ Ikigai Signature Thai Oil Massage เป็นการนวดไทยอย่างลุ่มลึก ค่อย ๆ คลายความปวดเมื่อยโดยฝีมือการนวดของเหล่าเธอราพิสต์มากประสบการณ์ ประกอบกับการเลือกใช้น้ำมันนวดเพื่อช่วยลดการเสียดสีและระคายเคืองผิวหนัง ทำให้ช่วงเวลาแห่งการปรนนิบัติผิวของคุณเบาสบาย คลายความเมื่อยล้าได้อย่างดี
อีกส่วนหนึ่งที่ทาง Ikigai ภูมิใจนำเสนอคือโซนของห้องสปาที่ถูกออกแบบมาให้ได้บรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลายในโทนไม้สีอ่อน เรียบง่าย สบายตา ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและห้องอาบน้ำส่วนตัว อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์สปาที่สกัดจากธรรมชาติ 100% ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันอโรมา สครับสำหรับขัดผิว หรือจะเป็นสมุนไพรลูกประคบ ที่ทางร้านคัดสรรมาเพื่อให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากการทำสปาที่ Ikigai Spa Bangkok
Ikigai Spa Bangkok
Craftsman Bangkok Hotel, ซอยพหลโยธิน 11
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
โทร. 09-6639-8747
www.facebook.com/ikigaispabkk
ปิดท้ายโมเมนต์ดี ๆ กันที่ Frank Mansion บาร์บรรยากาศลึกลับที่ตั้งอยู่ในโครงการ A-One อารีย์ซอย 1 โดยตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 3 และ 4 ของตึกสูง เมื่อคุณเปิดประตูเข้าไป จะพบกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่แบ่งสัดส่วนให้นั่งแฮงก์เอาต์กับกลุ่มเพื่อนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับผนังปูนเปลือยที่ให้กลิ่นอายความเท่แบบ Industrial Loft อีกทั้งยังสามารถมองเห็นวิวสูงของย่านอารีย์ได้อย่างชัดเจนผ่านหน้าต่าง ขณะเดียวกันคุณก็จะได้เพลิดเพลินกับเพลย์ลิสต์เพลงเพราะ ๆ และไลฟ์แบรนด์ที่จะมาสร้างสีสันความสนุกให้คุณตลอดค่ำคืน
แนะนำเมนูขึ้นชื่อของทางร้านอย่าง Pasta Kak Kak (340 บาท) พาสต้าเนื้อตุ๋น ที่ทางร้านนำเนื้อสามชั้นหนานุ่มจากอเมริกาตุ๋นกับซอสไวน์แดงและมะเขือเทศจนชุ่มฉ่ำ คลุกเคล้ารสชาติเข้ากับเส้นเฟตตูชินีแบบเหนียวนุ่มกำลังดี ก่อนจะโรยด้วยกากเนื้อเจียวกรอบ ช่วยเสริมความอร่อยของจานนี้ได้อย่างลงตัว
ตามมาด้วยเมนูค็อกเทลที่ผ่านการครีเอตสูตรโดยทีมบาร์เทนเดอร์มากฝีมือ แนะนำ Let it be (290 บาท) Signature Cocktail ที่มีส่วนผสมของ Whisky และ Hot Water ก่อนจะเพิ่มมิติของรสชาติด้วย Honey และ Camomile Tea ปิดท้ายค่ำคืนนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
Frank Mansion
ชั้น 3,4 ตึก A-One ซอยอารีย์ 1
เปิดวันจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์) เวลา 18.00-01.00 น.
โทร. 06-1665-9449
www.facebook.com/frankmansion
‘Spend Smarter, Your Way’ with UnionPay
ทั้งหมดนี้ ไม่ว่าคุณจะกิน เที่ยว ชิลล์ ช้อป ก็สามารถเพลิดเพลินกับทุกโมเมนต์การพักผ่อนแบบสะดวกสบายได้ง่าย ๆ ด้วยการ ‘Spend Smarter, Your Way’ กับ UnionPay อีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่จะทำให้คุณแฮปปี้ตลอดการใช้จ่าย บัตรที่ให้คุณเลือกได้ในแบบที่เป็นคุณ
สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการใช้จ่าย หรือต้องการความสะดวกสบายที่เป็นได้มากกว่าบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตทั่วไป ลองเลือกใช้ UnionPay บัตรเดียวที่ให้คุณครบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์คนเมืองได้เป็นอย่างดี โดยมีให้เลือกหลากหลายธนาคาร ซึ่งแต่ละธนาคารต่างก็มีเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของบัตร UnionPay และรายละเอียดโปรโมชันสุดพิเศษได้ทาง www.unionpayintl.com/th และ www.facebook.com/UnionPayThailand