ได้เวลาร่วมนับถอยหลัง สู่งานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์ทั่วโลกอีกครั้งกับรางวัล ‘Academy Awards’ หรือที่รู้จักกันในชื่อของรางวัล ‘Oscars’ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่ Hollywood ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อมอบรางวัลให้กับบุคคลในวงการภาพยนตร์ของแต่ละปีที่ได้สร้างสรรค์และผลิตผลงานออกมาให้คนรักหนังทั่วโลกได้ชมกัน
และสำหรับในปี 2020 ภายหลังจากการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงออสการ์ครั้งที่ 92 ซึ่งกำลังจะมีพิธีประกาศรางวัลในเช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ตามเวลาบ้านเรา เชื่อว่าคอหนังชาวไทยจำนวนไม่น้อย อาจจะไม่คุ้นเคยกับลิสต์รายชื่อภาพยนตร์ที่ติดโผในปีนี้ BKK. จึงไม่รอช้า ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับภาพยนตร์ 5 เรื่องที่คุณอาจมองข้าม ให้ได้เอ็นจอยกันก่อนไปร่วมลุ้นรางวัลในวันประกาศผลออสการ์ ส่วนจะเป็นภาพยนตร์เรื่องไหนบ้าง ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย
Dolor y gloria (ประเทศสเปน)
Dolor y gloria หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Pain & Glory เป็นภาพยนตร์ที่ถูกส่งเข้าชิงรางวัลจากประเทศสเปน นำแสดงโดย Antonio Banderas จากผลงานการกำกับของ Pedro Almodóvar เจ้าของรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเรื่อง Hable con ella ในปี 2003
เนื้อเรื่องภาพยนตร์บอกเล่าถึงวัยชราของผู้กำกับภาพยนตร์คนหนึ่งที่มีชื่อว่า Salvador Mallo ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงขาลงของชีวิตแล้ว เมื่อเขาได้มองกลับไปยังสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักครั้งแรก ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อแม่ หรือแม้กระทั่งประสบการณ์ในการสร้างภาพยนตร์ จนได้พบว่าแท้จริงแล้วความหมายและความสำคัญของชีวิตเขาคือสิ่งใดกันแน่
เหตุผลที่ห้ามพลาด : การแสดงอันยอดเยี่ยมของ Antonio Banderas ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ด้วยการแสดงที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายใน จึงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปีเลยทีเดียว รวมถึงการใช้โทนสีของภาพในเล่าเรื่องตามสไตล์ของ Pedro Almodóvar ที่ทำให้เราได้เห็นมุมมองและลูกเล่นการใช้สีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
รับชมได้ทาง : โรงภาพยนตร์ HOUSE Samyan เริ่มเข้าฉายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563
American Factory (ประเทศสหรัฐอเมริกา)
American Factory เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์สารคดีจาก Platform Netflix ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจาก Barack และ Michelle Obama ในช่วงต้นปี 2019 จนถูกต่อยอดทำให้กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในบริษัทใหม่ของพวกเขาที่มีชื่อว่า Higher Ground
เนื้อเรื่องของสารคดีเล่าถึงการ Takeover โรงงานใน Ohio ของมหาเศรษฐีชาวจีน ซึ่งทำให้เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่สองวัฒนธรรมจากคนละซีกโลกต้องมาทำงานร่วมกัน
เหตุผลที่ห้ามพลาด : ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นแรกที่ Obama คัดเลือกเข้ามาในบริษัทของตนเอง พร้อมส่งเข้าชิงออสการ์คร้ังแรกไปเป็นที่เรียบร้อย รวมถึงการสำรวจความแตกต่างเชิงวัฒนธรรมของสองมหาอำนาจของโลกที่ถ่ายทอดออกมาได้ทั้งสนุกและซาบซึ้ง จนกลายเป็นอีกหนึ่งสารคดียอดเยี่ยมที่คุณไม่ควรพลาด
รับชมได้ทาง : Netflix ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
Jojo Rabbit (ประเทศสหรัฐอเมริกา)
เข้าชิงออสการ์
สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม
สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม
สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม
สาขาตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
Jojo Rabbit เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าฉายในไทย แต่มีโอกาสได้เข้าชิงรางวัลหลากหลายสาขา รวมไปถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับชาวนิวซีแลนด์ชื่อดัง ที่มีชื่อเสียงมาจากการกำกับภาพยนตร์เรื่อง Thor: Ragnarok และ Hunt for the Wilderpeople โดยเนื้อเรื่องถูกดัดแปลงมาจากหนังสือที่มีชื่อว่า Caging Skies ของ Christine Leunens บอกเล่าเรื่องราวของ Johannes ‘Jojo’ Betzler สมาชิกเยาวชนของ Hitler ที่ได้รู้ว่าแม่ของเขากำลังซ่อนเด็กหญิงชาวยิวเอาไว้ในห้องใต้หลังคา ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งมีความขัดแย้งกับหลากหลายความเชื่อที่ถูกสั่งสอนมา
เหตุผลที่ห้ามพลาด : แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำชื่นชมจากการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Roman Grfifin Davis และ Scarlett Johansson ส่งต่อให้ Jojo Rabbit ติดโผอยู่ในลิสต์ผู้เข้าชิงรางวัลของทั้ง 'สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม' และ 'สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม' เลยทีเดียว
The Lighthouse (ประเทศสหรัฐอเมริกา)
The Lighthouse ภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่เพิ่งได้เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ House Samyan ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเป็นผลงานการกำกับของ Robert Eggers ที่มีชื่อเสียงอย่างมากจากภาพยนตร์สุดบ้าคลั่งอย่างเรื่อง Good Time ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้ Robert Pattison มาร่วมแสดงนำด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง The Lighthouse เป็นการเล่าเรื่องของสองเจ้าหน้าที่ผู้เฝ้าประภาคารบนเกาะแห่งหนึ่งซึ่งห่างไกลจากผู้คน โดยพวกเขาต้องพบเจอกับความสยดสยองทั้งจากสถานการณ์ภายนอกและภายในจิตใจของตนเอง แน่นอนว่าความสยดสยองในทุก ๆ ซีน ส่งผลให้การรับชม The Lighthouse นั้น เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน!
เหตุผลที่ห้ามพลาด : ด้วยงานภาพและการฉายในระบบสีขาวดำ รวมถึงการใช้สัดส่วนภาพ 1.19:1 ทำให้ Robert Eggers สามารถสร้างมวลความอึดอัดอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ภาพยนตร์ดูน่าติดตาม โดยเฉพาะการรับชมอย่างเต็มรูปแบบในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเพิ่มอรรถรสในการชมได้อย่างดีทีเดียว
รับชมได้ทาง : HOUSE Samyan ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
I Lost My Body (ประเทศฝรั่งเศส)
I Lost My Body แอนิเมชันม้ามืดจากฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่งพลิกโผชนะตัวเต็งอย่าง Toy Story 4 ในการมอบรางวัล Golden Globe ครั้งล่าสุด ซึ่งกำกับโดย Jérémy Clapin
ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมือขวาของชายหนุ่มที่ชื่อว่า Naoufel ซึ่งตกหลุมรักกับ Gabrielle เป็นการถ่ายทอดความสัมพันธ์ของทั้งสองคนผ่านหลากหลายช่วงเวลา สลับไปมา ด้วยการเล่าเรื่องที่มีความแฟนตาซีสูง จึงทำให้ I Lost My Body พาเราไปสำรวจถึงความเป็นไปได้ที่นอกเหนือไปจากชีวิตจริงของผู้คน ผ่านภาพยนตร์แอนิเมชัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นการสร้างภาพยนตร์ในรูปแบบเดียวเท่านั้นที่จะสามารถทำให้เราสัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้ได้
เหตุผลที่ห้ามพลาด : เป็นภาพยนตร์ที่มีความลึกซึ้ง ต้องอาศัยการตีความในแต่ละการกระทำและการดำเนินเรื่องในแต่ละฉาก เหมาะสำหรับคอหนังที่ชอบการคิดวิเคราะห์ฉากในแต่ละซีน ซึ่งหากคุณเป็นหนึ่งในผู้ชมแบบเดียวกันแล้วล่ะก็ ห้ามพลาดเลยทีเดียว!
รับชมได้ทาง : Netflix ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป