ก้าวสู่โลกอะนาล็อก กับหลากหลายเรื่องราวที่คนรัก (กล้อง) ฟิล์มต้องรู้!

Published on June 19, 2019

Film Never Die!

ท่ามกลางความรวดเร็วของยุคดิจิตอลหรือยุคของการสื่อสารที่ทุกคนสามารถบอกเล่า บันทึกภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ และอัพเดตผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กทุกช่องทางแบบเรียลไทม์ได้แทบวินาทีต่อวินาที แต่เชื่อไหมว่ายังคงมีสิ่งหนึ่งซึ่งยังคงความคลาสสิกอยู่เสมอ สวนกระแสโลกที่หมุนเร็วให้ช้าลง เป็นการบันทึกความสุขรอบตัวและจับรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น นั่นก็คือการถ่ายฟิล์มนั่นเอง เพราะกว่าที่จะได้ภาพสักรูปหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย นับตั้งแต่การใช้กล้อง Analog แบบปรับตั้งค่าเอง การเลือกฟิล์ม มุม โมเมนต์ที่จะถ่าย ไปจนถึงการวัดแสง และองค์ประกอบอื่น ๆ แบบพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุด

 

(Photo by https://unsplash.com)

BKK. จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรวบรวมหลากหลายเรื่องราวของการบันทึกความทรงจำผ่านทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟิล์มมาให้เหล่าคนรักฟิล์มตัวจริงได้ติดตามกันแบบครบถ้วน ส่วนจะมีเรื่องไหนให้ได้ทำความรู้จักกับฟิล์มมากขึ้นบ้างนั้น เตรียมกดชัตเตอร์รอได้เลย! 


Good To Know About Shooting Film

 

(Photo by https://unsplash.com)

และเพื่อให้คนเล่นกล้องฟิล์มมือใหม่ ได้มีแรงบันดาลใจในการใช้กล้องฟิล์มมากขึ้น ก็มีคัมภีร์การเลือกซื้อกล้องฟิล์มมาฝากกัน หากอยากรู้ว่ากล้องฟิล์มรุ่นไหนคือรุ่นที่ใช่สำหรับคุณแล้วละก็ คงต้องลองไปทำความรู้จักกันเสียหน่อยดีกว่า 

 

(Photo by https://unsplash.com)

ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะถูกแบ่งประเภทกล้องฟิล์มดังนี้ SLR (Single Lens Reflex Camera) กล้องฟิล์มรุ่นที่พบเห็นกันคุ้นตา ทำงานด้วยระบบรับภาพกระจกสะท้อนภายในตัวกล้อง ทำให้ภาพที่เรามองใน Viewfinder เป็นภาพเดียวกันกับที่เลนส์กล้อง ใช้งานง่ายเพราะโฟกัสผ่านตัวเลนส์ได้เลย


Rangefinder กล้องฟิล์ม 35mm แบบต้นตำรับ เป็นกล้องฟิล์มรุ่นที่ภาพจากเลนส์จะวิ่งเข้าสู่ฟิล์มโดยตรง ส่วนการโฟกัสและการมองภาพ สามารถมองแยกต่างหากผ่านช่อง Viewfinder การใช้งานอาจต้องกะระยะเวลาถ่าย ตัวอย่างกล้องประเภทนี้ที่นิยมใช้กันคือ Leica M นั่นเอง

 

กล้องฟิล์มประเภท SLR (Photo by https://unsplash.com)

Half Frame กล้องฟิล์ม 35mm ที่จะทำให้ฟิล์ม 135 จำนวน 36 เฟรม ถ่ายได้ถึง 72 เฟรม พร้อมแบ่งครึ่งแต่ละเฟรมเป็น 2 เท่า เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการจะประหยัดฟิล์ม ส่วนใหญ่แล้วกล้องลักษณะนี้จะจัดอยู่ในประเภทกล้อง Lomo หรือกล้อง Toy ตัวอย่างประเภทรุ่นที่สามารถใช้งานได้ดี (แต่ราคาแพงพอสมควร) คือ Olympus Pen F/FT 


Compact Camera กล้องเล็กขนาดพกพา ใช้งานง่าย เพราะระบบเป็น Auto ทั้งหมด เป็นกล้องฟิลม์แบบ Medium Format ที่ใช้ฟิล์มขนาด 120 ซึ่งในหนึ่งม้วนถ่ายได้ 12 รูป สำหรับคนที่เบื่อภาพเฟรมสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 2:3 ของ 135 แล้ว อาจจะหันมาลองใช้ 120 แทนได้ โดยยังคงมีฟิล์มรุ่นดี ๆ ให้ได้เลือกใช้ทั้งฟิล์ม Kodak และฟิล์ม Fuji เลยทีเดียว

 

กล้องฟิล์มประเภท Half Frame (Photo by www.lomography.co.th)

Twin Lens Reflex หนึ่งในตระกูลกล้องฟิล์ม 120 ที่มักถูกแยกออกมาเป็นอีกหนึ่งกลุ่ม เนื่องด้วยรูปทรงที่แปลกอย่างชัดเจน รวมถึงเป็น Twin Lens ซึ่งเป็นการมองผ่าน Viewfinder จากด้านบนกล้องทรงสี่เหลี่ยม ตัวอย่างกล้องฟิล์มแบรนด์ดังของรุ่นนี้ ได้แก่ Hasselblad, Rolleiflex, Yashica และ Mamiya เป็นต้น

 

กล้องฟิล์มประเภท Twin Lens Reflex (Photo by https://unsplash.com)

สำหรับผู้ใช้กล้องฟิล์มมือใหม่ อาจเริ่มต้นทำความรู้จักแนวทางการเลือกซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการถ่ายภาพฟิล์ม ดังต่อไปนี้
 

(Photo by https://unsplash.com)

เช็คราคากล้องฟิล์ม


เรื่องที่ต้องคำนึงถึงไม่แพ้สไตล์กล้องที่ชอบ คงเป็นเรื่องของความพร้อมในการซื้อ เพราะกล้องฟิล์มเองก็มีเรตราคามากมาย ทั้งตามคุณภาพเลนส์หรือการผลิต รวมถึงเรื่องของแบรนด์ต่าง ๆ และหากสรุปราคาคร่าว ๆ คัดสรรจากกล้องฟิล์มรุ่นดัง ๆ ซึ่งเป็นที่นิยมในท้องตลาดแล้วละก็ เริ่มจาก งบไม่เกิน 10,000 บาท อย่างกล้อง Compact คุณภาพเยี่ยม ถึงแม้จะ Auto ให้เราทั้งหมด ผู้ใช้เพียงแค่กดถ่ายอย่างเดียว แต่หากฝึกฝนจนคล่องมือ ก็นับว่าเป็นกล้องที่ใช้ได้ดีทีเดียว ส่วนรุ่นที่แนะนำให้ลองใช้คือ Olympus XA/XA2 และ Pentax PC35 AF-M ซึ่งราคาประมาณ 3,000++ บาท


ภายในงบใกล้เคียงนี้ ยังสามารถเลือกซื้อประเภท Rangefinder รุ่นเล็กที่เป็นระบบ Auto ได้ด้วย โดยกล้องประเภทนี้มักจะมีจำหน่ายตามเพจกล้องฟิล์มเก่า เพราะด้วยรูปทรงที่สวยและขนาดที่พกพาสะดวก สามารถหาซื้อได้ในราคาที่ไม่แพงอีกเช่นกัน เช่น Olympus Trip 35, Yashica Electro 35 GSN, Canon Canonet QL17 GIII และ Minolta Himatic F ซึ่งราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,000 บาท

 

Olympus XA (Photo by https://unsplash.com)

สำหรับใครที่พอจะมีงบเกิน 5,000 บาทแล้วละก็ ลองมองหา SLR รุ่นคลาสสิกขนาดมาตรฐานอย่าง Olympus OM1 ซึ่งโด่งดังที่สุดในยุคที่ฟิล์มรุ่งเรือง เหตุที่แนะนำ OM1 เป็นพิเศษ นั่นก็เพราะถูกดีไซน์ออกมาได้ล้ำสมัยมาก ณ ตอนนั้น สามารถปรับชัตเตอร์สปีดจากด้านหน้าตรงฐานเลนส์ได้เลย ใช้งานสะดวก ส่วนรุ่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้แก่ Pentax K1000, Canon AE1 หรือถ้าต้องการรุ่นที่ราคาถูกลงมาอีกสักหน่อย แนะนำ SLR รุ่นเล็กลงมาที่เป็นระบบกึ่งออโต้ จำพวก Nikon EM, Pentax ME Super ซึ่งสามารถฝึกถ่ายได้ดีเช่นกัน อีกทั้งราคายังอยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 บาท คุ้มค่าแก่การซื้อมาใช้ทีเดียว

 

Nikon FM2 (Photo by https://unsplash.com)

ตามมาด้วย งบ 10,000++ บาท ขึ้นไป ค่อนข้างเป็นกล้องรุ่นแปลก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครใช้กันได้แล้ว อาทิ Konica Hexar AF กล้องออโต้โฟกัสคุณภาพคับเลนส์ หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อกล้องรุ่นนี้เท่าไรนัก เพราะไม่ค่อยมีวางขายให้ได้เห็นกันบ่อยนัก ส่วนใหญ่เหล่าบรรดาช่างภาพแฟชั่นระดับโลกมักใช้กัน หรือจะเป็น Olympus PEN F/FT กล้องฟิล์มดีไซน์สวย ทำงานด้วยแบบระบบ Half-Frame ความดีงามของรุ่นนี้คือสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ พร้อมด้วยระบบการทำงานที่เยี่ยมมาก ๆ ส่วนราคากล้องนั้นอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท ใครเป็นแฟนรุ่น Half-Frame ตัวจริง งบถึง ก็จัดไปเลยสักตัว!


อีกรุ่นยอดนิยมคือ Nikon FM2 กล้อง SLR สุดคลาสสิก รุ่นสามัญประจำบ้านของนักเล่นกล้องฟิล์มหลายคน ปัจจุบันราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000++ บาท การรันตีความน่าใช้ด้วยการเป็นกล้องคู่ใจตัวเก่าของ Steve McCurry ช่างภาพของนิตยสาร National Geographic ที่ใช้ Nikon FM2 ตัวนี้ถ่ายภาพปกด้วย

 

Olympus PEN F/FT (Photo by www.cameralegend.com)

ส่วนคนที่มีงบไม่อั้น พร้อมเป็นเจ้าของกล้องฟิล์มที่มีราคา งบ 50,000 บาท ขึ้นไป บอกได้เลยว่าสามารถซื้อกล้องรุ่นสะสมหรือรุ่นหายากได้ทุกตัว แต่ถ้าให้แนะนำ ต้องนี่เลย Hasselblad XPan กล้องพาโนรามาคุณภาพเยี่ยม ราคาอย่างต่ำอยู่ที่ประมาณ 100,000++ บาท

 

Leica M6 (Photo by https://unsplash.com)

ก่อนจะทิ้งท้ายกันด้วยสุดยอดกล้องฟิล์มที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้กับ Leica M6 กล้อง Rangefinder ตระกูล Leica M ปัจจุบันผลิตออกมาทั้งสีดำและสีเงินสุดเท่ ส่วนราคานั้น ถ้ารวมทั้งเลนส์และตัวกล้องแล้วทะลุ 100,000++ บาท อย่างไม่ต้องสงสัย นับเป็นกล้อง (สุดแพง) คู่ใจของช่างภาพดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Henri Cartier Bresson, Robert Capa, Elliott Erwitt หรือเจ้าพ่อ Street อย่าง Joel Meyerowitz เป็นต้น ส่วนคนธรรมดาเริ่มหัดใช้กล้องอย่างเรา ๆ ได้ทำความรู้จักกันไว้ก็เพียงพอแล้ว


ทำความรู้จักกับฟิล์มแต่ละประเภท

Solution VX200
ฟิล์มรุ่นนี้ถือว่าฮิตอยู่ในหมู่ของฟิล์มบูด ซึ่งรุ่นสุดท้ายของฟิล์มตัวนี้มีตั้งแต่ปี 2011 แต่ก็ยังคงผลิตออกมาเรื่อย ๆ ให้เราใช้กันในปัจจุบัน ตัวฟิล์มรุ่นนี้จะให้สีที่สดมาก สดได้เทียบเท่ากับฟิล์มสไลด์ แต่แนะนำว่าต้องเผื่อใจไว้ว่าอาจจะมีการเกิดเอฟเฟกต์กับบางรูปได้ แต่ถ้าเน้นถ่ายแบบสนุก ๆ ก็เป็นอีกฟิล์มที่แนะนำว่าต้องลองดูสักครั้ง

 

ตัวอย่างม้วนฟิล์มและโทนสีที่ได้จาก Solution VX200 (Photo by http://artmoviebase.com และ https://medium.com)

Kodak Gold 200
เรียกได้ว่าเป็นฟิล์มซุปเปอร์คลาสสิคตลาดกาล ฟิล์มสีเนกาทีฟที่ให้สีออกโทน Bright และ Warm เหมาะสำหรับสภาพแสงกลางวันจนถึงเวลาเย็น ให้สีสันเต็มอิ่ม สดใส เหมือนจริง คอนทราสต์ดี กับความไวแสงกลาง ๆ เหมาะกับการถ่ายภาพทั่ว ๆ ไป 

 

ตัวอย่างม้วนฟิล์มและโทนสีที่ได้จาก Kodak Gold 200 (Photo by www.len-lenlen.com)

Kodak Color Plus 200
ฟิล์มรุ่นนี้บอกเลยว่าเป็นรุ่นโปรดของมือใหม่หัดถ่ายกล้องฟิล์ม เพราะมีราคาถูก และเหมาะสำหรับสภาพแสงกลางวันและภายในอาคารที่มีแสงไฟ ให้เกรนละเอียด และสีที่เป็นธรรมชาติ ออกโทนเหลือง สามารถถ่ายได้ทั่วไป และออกไปทางแนวญี่ปุ่นหน่อย

 

ตัวอย่างม้วนฟิล์มและโทนสีที่ได้จาก Kodak Color Plus 200 (Photo by www.siamklongfilm.com)

Kodak Ultramax 400
ฟิล์มตัวนี้เหมาะสำหรับการถ่ายในสภาพแสงน้อยได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ชอบสไตล์ภาพถ่ายแนวมืด ๆ เนื่องจากมี ISO สูง โทนของ Shadow จะออกสีม่วงน้ำเงิน มีความเป็นสไตล์ Retro ปนอยู่เล็กน้อย ออกแนวเท่ ๆ ดิบ ๆ เนื่องจากเนื้อฟิล์มมีความหยาบ ไวแสง และเกรนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นฟิล์มอีกตัวที่แนะนำว่าควรมีติดไว้สำหรับถ่ายในที่แสงน้อย

 

ตัวอย่างม้วนฟิล์มและโทนสีที่ได้จาก Kodak Ultramax 400 (Photo by www.siamklongfilm.com)

Fujifilm Fujicolor C200
ฟิล์มราคาประหยัดของแบรนด์ฟูจิ เป็นฟิล์มที่ใช้ได้ทั่วไป ถ่ายเล่นในชีวิตประจำวัน มีเกรนละเอียดและคอนทราสต์ไม่จัด ให้สีที่ใกล้เคียงธรรมชาติในโทนสีอบอุ่น ที่ยังคงเอกลักษณ์ของฟูจิเอาไว้ คือโทนอมเขียวธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายวิวทิวทัศน์ ต้นไม้ ดอกไม้ ต่าง ๆ

 

ตัวอย่างม้วนฟิล์มและโทนสีที่ได้จาก Fujifilm Fujicolor C200 (Photo by https://husbandandwifeshop.com)

AGFA Vista 200
ฟิล์มสัญชาติเยอรมันที่ผลิตกันต่อเนื่องยาวนาน และในปัจจุบันผลิตที่ญี่ปุ่น เป็นฟิล์มสีที่มีเกรนละเอียด ให้ความคมชัดสูง รวมถึงสีสันที่สดใสสมจริง ออกแนวจัดจ้านเล็กน้อย เหมาะกับถ่ายแนว Street ตามท้องถนน และสถานที่ที่มีแสงสว่าง เนื่องจากเป็นฟิล์มความไวแสงน้อย สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปแนวอาร์ต ๆ บอกได้เลยว่าฟิล์มรุ่นนี้จะถูกใจกับเหล่าคนรักฟิล์มแน่นอน

 

ตัวอย่างม้วนฟิล์มและโทนสีที่ได้จาก AGFA Vista 200 (Photo by https://husbandandwifeshop.com)

รวมร้านซื้อฟิล์ม

หลังจากทำความรู้จักกับกล้องฟิล์มกันไปคร่าว ๆ แล้ว ก็ได้เวลาพาคนรักฟิล์มไปสำรวจแหล่งช้อปต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฟิล์มทั้งสิ้น ส่วนจะเป็นร้านไหนและแต่ละร้านมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ตามไปเช็คลิสต์พร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

1

Husband & Wife

 

Husband & Wife

จากความหลงใหลจนกลายเป็นความรักในกล้องฟิล์มของเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นสามีและภรรยาคู่หนึ่ง ทำให้เขาทั้งคู่ได้เลือกทำตามสิ่งที่รักด้วยการเปิดร้านขายกล้องฟิล์มมือสอง กล้องโพลารอยด์ และฟิล์มต่าง ๆ เพื่อเป็นสถานที่ที่คอคนรักกล้องฟิล์มได้มาเจอและมาคุยกัน ภายใต้ชื่อที่แสนน่ารักอย่าง HUSBAND & WIFE ทางร้านได้รวบรวมฟิล์มชนิดต่าง ๆ มากกว่า 100 ชนิด รวมถึงเปิดให้บริการล้างและสแกนฟิล์มด้วยระบบล้างมือ มั่นใจได้ว่าผสมน้ำยาใหม่ทุกครั้งที่ล้าง ไม่มีการค้างหรือใช้ซ้ำเพื่อให้คุณภาพภาพที่ดีที่สุด

Husband & Wife
ซอยแจ้งวัฒนะ - ปากเกร็ด 29 จังหวัดนนทบุรี
เปิด วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 20.00 น.
โทร. 0-2011-6126
2

Sheep Film

 

Sheep Film (Photo by www.facebook.com/sheepfilm.gallery)

ร้านขายฟิล์มออนไลน์ ที่มีคอนเซ็ปต์ของชื่อร้านเก๋ ๆ อย่าง “แกะฟิล์ม” ให้ความหมายเหมือนการแกะฟิล์มมารีวิว โดยทางร้านตั้งใจอยากให้ทุกคนที่เข้ามาชมเพจ ได้มีความรู้สึกเหมือนเข้ามาชมนิทรรศการภาพถ่ายฟิล์ม เพจ Sheep Film จะโพสต์ภาพฟิล์มในทุก ๆ วัน สลับฟิล์มในแต่ละตัว เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และให้ข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจในการถ่ายภาพฟิล์ม รวมถึงการเลือกใช้ฟิล์มในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยทางร้านจะมีจำหน่ายฟิล์มทั้ง 35 mm และ 120 mm / กล้อง Simple Use / แบตเตอรี่และฟิล์มใหม่ ๆ นำเข้ามาตลอด นอกจากนี้ทางร้านยังเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของทาง Lomography อีกด้วย


Sheep Film
โทร. 08-0706-8956
www.facebook.com/sheepfilm.gallery

3

ฟิล์ม 35 mm.

 

ฟิล์ม 35 mm. (Photo by www.facebook.com/filmthirtyfivemm)

จุดเริ่มต้นของร้าน เริ่มจากกล้องฟิล์มตัวนึงเก่า ๆ จากภรรยาที่ให้เป็นของขวัญ และเป็นกล้องตัวแรกในชีวิตของเจ้าของร้าน ภาพที่ได้จากฟิล์มม้วนแรกทำให้เขาหลงรักกล้องฟิล์มมาจนถึงทุกวันนี้ ความงามและความไม่สมบูรณ์แบบ มันเป็นความทรงจำที่ดี เหมือนกับอดีตที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ แต่เราเลือกที่จะจดจำมันได้ เป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าของร้านอยากแบ่งปันความทรงจำดี ๆ นี้ให้กับเพื่อน ๆ อีกหลายคน เขาจึงเริ่มก่อตั้งร้าน ฟิล์ม 35 mm. ขึ้นมา เจ้าของร้านเริ่มต้นจากการขายฟิลม์เพียงไม่กี่ม้วน ในวันที่กระแสกล้องฟิล์มยังไม่แรงเท่าทุกวันนี้ แต่ด้วยใจรักทำให้ร้านฟิล์ม 35 mm. ยังคงอยู่และเติบโต เขาได้ศึกษาเรื่องการล้างฟิล์มทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มขาวดำ ฟิล์มสี ฟิล์มหนัง และฟิล์มสไลด์ รวมถึงกระบวนการอัดภาพขาวดำในห้องมืดแบบดั้งเดิม ซึ่งทั้งหมดนี้ ใช้เพียง 2 มือของเขาเอง


ฟิล์ม 35 mm.
โทร. 08-1602-9448
www.facebook.com/filmthirtyfivemm

รวมร้านซื้อกล้องฟิล์ม

 

(Photo by https://unsplash.com)

แหล่งกล้องฟิล์มยอดนิยม ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็คงต้องเป็นภิรมย์พลาซ่า (สะพานเหล็ก) ที่รวมกล้องฟิล์มนานาชนิดไว้เพียบ มาจนถึงสมัยนี้ก็ยังคงเป็นย่านภิรมย์พลาซ่าทั้งฝั่งตึกเก่าและฝั่งตรงข้าม หรือตามตลาดนัดเปิดท้ายขายของเก่า อาทิ ตลาดรถไฟ ตลาดจตุจักรที่มีเปิดท้ายขายของเป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ หรือแม้กระทั่งในโลกของอินเตอร์เน็ตก็มีเพจขายกล้องเก่าให้คนเล่นกล้องทั้งหลายได้เลือกซื้อตามชอบ 

4

Crazy Camera

 

Crazy Camera (Photo by www.facebook.com/crazycamerabrand)

ที่มาของร้าน Crazy Camera หากจะพูดให้เข้าใจง่ายและตรงไปตรงมา คือเริ่มจากเจ้าของร้านเป็นคนที่บ้ากล้อง ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยุคที่ฟิล์มนั้นเกือบจะตายสนิท เจ้าของร้านได้มีโอกาสรู้จักกับกล้องฟิล์มที่ได้มาจากรุ่นพี่ ทำให้เขาได้เริ่มมีโอกาสทดลองและใช้กล้องฟิล์มอย่างจริงจัง จนได้เริ่มหาข้อมูลและซื้อกล้องฟิล์มตัวใหม่ ๆ มาลอง จนมาเปิดร้าน Crazy Camera ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันกล้องฟิล์มให้กับคนที่รักในฟิล์มเช่นกัน 


Crazy Camera จะเชี่ยวชาญในเรื่องกล้อง Medium Format, Hi-End camera และกล้องที่สร้างมาเฉพาะทางเป็นพิเศษ โดยให้ความรู้จากประสบการณ์ตรง ที่พร้อมแนะนำกล้องฟิล์มให้เข้ากับความต้องการของเราได้ดีที่สุด ซึ่งร้านอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับ Airlab ร้านล้างฟิล์มในยุคแรก ภายในพื้นที่เรียกได้ว่าเป็น Photographic Playground เพราะเป็นพื้นที่ที่มีครบตั้งแต่ร้านขายกล้อง, ร้านล้างฟิล์ม, สแกนฟิล์ม, อัดขยายด้วยห้องมืด, สตูดิโอให้เช่า และยังมี Air Academy โรงเรียนสอนให้ความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพอีกด้วย



Crazy Camera
AIRLAB สุขุมวิท 81 เขตวัฒนา (BTS อ่อนนุช)
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.
โทร. 08-7000-3304
 

Luck Room (Photo by www.facebook.com/luckanalog)

ร้าน Luck Room ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มเพื่อนที่จบมาจากภาควิชานิเทศศิลป์ สาขาการถ่ายภาพ เทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่มีความหลงใหลในการถ่ายภาพฟิล์ม โดยเจ้าของร้านชอบศึกษาประวัติศาสตร์ และวิวัฒนาการต่าง ๆ ของการถ่ายภาพ จนทางร้านได้เห็นว่าการถ่ายภาพด้วยฟิล์มเริ่มกลับกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น จึงได้เปิด Luck Room เพื่อแนะนำความรู้ในเรื่องของการถ่ายภาพ และเป็นพื้นที่ให้คนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม เป็นเสมือนการเชื่อมต่อสังคมของคนรักการถ่ายภาพด้วย


Luck Room
ลาดพร้าว 18
เปิด วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 11.00 - 21.00 น. (ปิดวันพุธ), วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 13.00 - 21.00 น.
โทร. 09-9364-1946
www.facebook.com/luckanalog

6

A boy has toy camera

 

A boy has toy camera (Photo by www.facebook.com/aboyhavetoycamera)

A boy has toy camera ร้านขายกล้องฟิล์มออนไลน์ ที่เกิดจากเจ้าของร้านเกิดความหลงใหลในสีสันและรูปทรงต่าง ๆ ของกล้องทอย ทำให้เขาเริ่มเก็บสะสมกล้องทอยมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี โดยทางร้านจะเน้นขายเป็นกล้องทอยเกือบจะทั้งหมด มีภาพที่ถ่ายจากกล้องทอยแต่ละแบบไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างจากการใช้จริงของเจ้าของร้าน สำหรับใครที่ชื่นชอบกล้องทอย ต้องบอกเลยว่าขอแนะนำร้าน “A boy has toy camera” อีกหนึ่งร้านสำหรับคนรักกล้องฟิล์ม


A boy has toy camera 
www.facebook.com/aboyhavetoycamera

7

Deepfotohouse

 

Deepfotohouse (Photo by www.facebook.com/deepfotohouse)

Deepfotohouse เกิดขึ้นโดยการรวมกลุ่มของเพื่อน 3 คนที่หลงใหลในศิลปะการถ่ายภาพเหมือนกัน ให้บริการขายกล้องฟิล์มออนไลน์และอุปกรณ์การถ่ายภาพน้องใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่กล้องฟิล์มสาย Compact แบบใช้งานง่ายโดยเฉพาะ กล้องทุกตัวของร้านนำเข้าจากเยอรมัน ประเทศต้นกำเนิดของแบรนด์คุณภาพมากมาย จึงมั่นใจได้เลยว่ากล้องจะมีประสิทธิภาพและสภาพที่สมบูรณ์สวยงามแน่นอน 


Deepfotohouse
โทร. 08-6393-2677
www.facebook.com/deepfotohouse

รวมร้านล้างฟิล์ม

 

(Photo by https://unsplash.com)

 

(Photo by https://unsplash.com)

ปัจจุบันยังคงมีที่ล้างฟิล์มให้เลือกใช้บริการ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีมานี้ เริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อย ๆ หากเป็นร้าน Photo Lab ทั่วไป ล้างฟิล์มแบบพื้นฐาน พิกัดส่วนใหญ่จะอยู่ที่ย่านลาดพร้าว แต่หากต้องการแบบคุณภาพต้องเป็น IQ LAB ที่มีบริการสแกนแบบ High Quality (แต่ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย) และสำหรับทางเลือกใหม่ ประเภทร้านแบบบุคคลโดยเหล่าบรรดาช่างภาพที่ทยอยเปิดร้านล้างฟิล์มเองด้วยมือ รับประกันงานคุณภาพในราคามิตรภาพอีกเช่นเคย

 

LERT's (Photo by www.facebook.com/lerts.bkk)

ร้านล้างฟิล์มที่กำเนิดขึ้นมาจากนักดนตรีวง orchestra กว่า 25 ปี ที่มีความหลงใหลในภาพถ่าย ซึ่งเขามองว่าสามารถหยุดเวลาได้ ต่างกับดนตรีที่ต้องเสพผ่านมิติที่ 5 คือ "เวลา" ที่เมื่อผ่านไปแล้วก็คือผ่านไปเลย ภาพถ่ายจึงเป็นเสมือนเครื่องบันทึกความทรงจำในช่วงเวลาต่าง ๆ ทำให้ร้านล้างและสแกนฟิล์มอย่าง LERT's ได้ถือกำเนิดขึ้นมา


ร้าน LERT's ตั้งอยู่ใน YELO House อดีตโกดังที่ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเป็น Art Space สุดฮิต เป็นแหล่งพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนและป้ายยาสำหรับชาวฟิล์ม ในขณะเดียวกันทางร้านก็มีฟิล์มขายครบทุกตัวในตลาดที่ยังมีผลิตในปัจจุบัน ซึ่งลูกค้าของทางร้านจะมีตั้งแต่ผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพแบบสมัครเล่นไปจนถึงระดับอาชีพ โดยบริการหลักของทางร้าน สามารถทำงานได้ทั้งงานสีและขาวดำ ทั้งขนาด 135 และ 120 ส่งงานผ่าน Google Drive และใช้เครื่องมือที่ lab มาตรฐานทั่วโลกใช้ รวมทั้งบริการ fine art printing ที่สามารถอัดขยายภาพจาก digital file ได้ตั้งแต่ขนาด A4 ไปจนถึง A2 อีกด้วย


LERT's
YELO House ซอยเกษมสันต์ (BTS สนามกีฬาแห่งชาติ)
เปิด วันพุธ - อาทิตย์ เวลา 13.00 - 20.00 น.
www.facebook.com/lerts.bkk

9

Patani studio - ปาตานี สตูดิโอ

 

Patani studio - ปาตานี สตูดิโอ (Photo by www.facebook.com/patanistudio)

ปาตานีสตูดิโอ แล็ปล้างอัดภาพถ่ายฟิล์มในซอยนานา ย่านเยาวราช เปิดร้านขึ้นในปี 2013 พร้อมให้บริการอัดรูปกับศิลปินและช่างภาพที่รักในงานภาพถ่ายแบบอะนาล็อก โดยเจ้าของร้านตั้งใจอยากทำให้เป็นเหมือนสตูดิโอเล็ก ๆ เป็นทั้งพื้นที่ทำงานศิลปะส่วนตัวและพื้นที่ทดลองงานของคนรักภาพฟิล์มไปพร้อม ๆ กัน


ทางร้านมีบริการล้างฟิล์มให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น process ฟิล์มสี C-41, ฟิล์มขาวดำ, ฟิล์มหนัง ECN-2, ฟิล์มสไลด์ E-6 ทั้งฟิล์มทั่วไปและ sheet film จนถึงขนาด 8x10 นิ้ว รวมทั้ง Digitize ฟิล์มทั้งแบบปกติ และแบบ Hi-Resolution ด้วยเครื่องสแกนเนอร์ที่หลากหลาย และงานอัดภาพในห้องมืดทั้งจากฟิล์มสีและฟิล์มขาวดำ โดยเป็นร้านอัดและล้างภาพฟิล์มสุดเก๋าที่ยังคงใช้วิธีแบบอนาล็อก 100% ในทุกขั้นตอน ที่ในยุคนี้น่าจะมีเพียงไม่กี่ที่ในประเทศไทย


Patani studio - ปาตานี สตูดิโอ
59 ซอยนานา (เยาวราช) เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
เปิด วันพุธ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น.
โทร. 08-1985-9691
www.facebook.com/patanistudio

10

Snap Lab town in town

 

Snap Lab town in town (Photo by www.facebook.com/snaplabtownintown)

Snap Lab เกิดจากคนที่มีความรักในเรื่องฟิล์มเหมือน ๆ กัน เริ่มจาก ออตโต้ มือกลองวง Lomosonic, บาบูน ช่างภาพ และมือกลองวง Mattnimare, โอ๊ต ช่างภาพ และเจ้าของ Supersnappystudio, ฝน Producer คนที่ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมทั้งหมด หลังจากที่พวกเขาได้รวมตัวกันแล้ว ก็มีสมาชิกคนใหม่อย่าง นัท Technician จาก Bushwick Community Darkroom แล็ปฟิล์มที่ New York มาร่วมมือกันอีกคน 


Snap Lab ไม่ใช่ร้านบริการล้างฟิล์มเพียงอย่างเดียว แต่ที่นี่เป็นเหมือน Community ของคนที่รักฟิล์ม และมักจะมีบทสนทนาดี ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนาที่เกิดจากลูกค้ากับเจ้าของร้าน หรือลูกค้ากับลูกค้า ที่มีทั้งมืออาชีพและมือใหม่ ต่างสาขา ต่างอาชีพ และต่างวัย โดยพวกเขาจะคอยให้คำแนะนำกับลูกค้าในทุก ๆ คำถาม นอกจากนี้ทางร้านยังมีพื้นที่ในการจัด Workshop และร้านกาแฟบรรยากาศดี ๆ ให้นั่งชิลล์หรือนัดเพื่อน ๆ มาพบปะกันได้


Snap Lab town in town
Town in Town 11
เปิด วันจันทร์ - เสาร์ เวลา 12.00 - 20.00 น.
โทร. 09-5068-4148
www.facebook.com/snaplabtownintown

 

Fotoclub BKK (Photo by www.facebook.com/fotoclubbkk)

“เราอยากให้เป็นมากกว่าแล็บล้างฟิล์ม บรรยากาศและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำสมัยอยู่ชมรมถ่ายรูปโรงเรียน ภาพความสนุกเวลาออกไปเดินถ่ายรูป พูดคุย หรือได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ มันยังวนเวียนอยู่ในหัวของพวกเราที่ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของร้านนี้” นี่คือคำกล่าวจากเจ้าของร้าน Fotoclub BKK


Fotoclub BKK มีบริการล้างสแกนฟิล์มแบบมืออาชีพ และขายฟิล์มนานาชนิด รวมทั้งขายหนังสือถ่ายภาพ และงานศิลปะต่าง ๆ แถมยังมีบริการห้องมืด นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ในการจัดแสดง workshop และ photowalk เป็นสตูดิโอและแกลเลอรี่แสดงงานภาพถ่ายและศิลปะ และมีคาเฟ่ชิคๆให้เราได้นั่งเล่นอีกด้วย ที่เขาได้พยายามหาสินค้าและบริการ ที่จะมาเติมเต็มให้กับความต้องการของคนที่ชอบถ่ายรูป จนกลายเป็นชมรมถ่ายภาพของคนกรุงเทพ


Fotoclub BKK
ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.
โทร. 08-7673-7333
www.facebook.com/fotoclubbkk

12

FILMGALONG : ฟิล์มกาหลง

 

FILMGALONG (Photo by www.facebook.com/filmgalong)

แล็บฟิล์มอีสานที่เริ่มจากการทำงานอัดรูปด้วยมือทีละใบ และทำโดยคนคนเดียว อาศัยเพื่อน พี่ น้อง ที่คอยช่วยซัพพอร์ทกัน จนในปัจจุบันได้กลายเป็นแล็บระบบมินิแล็บมาตรฐาน และมีห้องมืด Darkroom สำหรับงานอัดขยายขาวดำโดยเฉพาะ โดยร้านเปิดให้บริการเป็นเวลากว่า 4 ปี ที่จังหวัดขอนแก่น ที่มีความตั้งใจสร้างชุมชนสำหรับคนรักกล้องฟิล์มให้กับท้องถิ่น


FILMGALONG ได้เป็นพื้นที่ทำงานศิลปะมากกว่า “ร้าน” มีจุดมุ่งหมายที่จะแบ่งปันงานฟิล์ม การล้างฟิล์ม การอัดรูป ให้ศาสตร์เหล่านี้ให้คงอยู่ และได้มีพื้นที่ทำงานกันในภูมิภาคนี้ โดยทางร้านมีบริการรับล้างและสแกน ทั้งฟิล์มสี และขาวดำ พร้อมทั้งรับอัดขยายรูปด้วยกระบวนการ Darkroom Printing นอกจากเป็นร้านอัดรูปภาพความทรงจำใส่กระดาษ ยังเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ จัดเวิร์คช็อป และ Exhibition เล็ก ๆ กับคนในสังคมฟิล์มอีกด้วย เรียกได้ว่าจากพื้นที่อิสระเล็ก ๆ ในตอนนี้ได้กลายเป็นแหล่งชุมนุมของคนรักการถ่ายภาพด้วยฟิล์มไปแล้ว


FILMGALONG : ฟิล์มกาหลง
พิมานธานี ซอย 1 ถนนกลางเมือง จังหวัดขอนแก่น
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 18.00 น.
โทร. 08-8070-0229
www.facebook.com/filmgalong

รวมร้านซ่อมกล้องฟิล์ม

13

The eye focus camera cafe

 

The eye focus camera cafe (Photo by www.facebook.com/TuiTheEye)

จากการเรียนรู้ในการเป็นลูกน้องในร้านซ่อมกล้องของเจ้าของร้าน แล้วค่อย ๆ เติบโตจนมาเปิดร้าน The eye focus camera cafe เป็นของตัวเองในย่านวังบูรพา เขาเป็นคนหนึ่งที่มีความสุขกับการเป็นช่างซ่อมกล้อง โดยมองว่า การซ่อมกล้องเป็นเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ ที่เราต้องค่อย ๆ คิดว่าส่วนไหนที่เสีย พอคิดได้ก็ไปตรวจสอบที่จุดนั้น แล้วค่อยๆ ไล่ไปทีละจุด จนเจอจุดที่มันติดก็แก้ไข พอได้แก้แล้วมันหายก็รู้สึกเหมือนต่อจิ๊กซอว์ได้สำเร็จ


ทางร้านให้บริการดูแลและซ่อมแซมกล้องฟิล์มหลากหลายรูปแบบ ทั้งกล้องเล็ก กล้องขนาดกลาง ไปจนถึงกล้องใหญ่ นอกจากนี้ยังรับล้างคราบรา ล้างฝุ่น ไปจนถึงซ่อมแซมเลนส์ที่ใช้กับกล้องต่าง ๆ อีกด้วย พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพื่อการใช้กล้องฟิล์มได้อย่างยาวนาน


The eye focus camera cafe
Mega Plaza สะพานเหล็ก ชั้น 5
โทร. 08-1559-7487
www.facebook.com/TuiTheEye

14

RES-Y FOCUS

 

RES-Y FOCUS (Photo by www.facebook.com/theresyfocus)

RES-Y FOCUS ร้านซ่อมกล้องฟิล์มที่ให้บริการซ่อมแซมกล้องฟิล์มหลากหลายแบบ เริ่มต้นจากการที่เจ้าของร้านเคยเป็นพนักงานโรงงานมาก่อน แม้จะไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับกล้องฟิล์มมาก่อน แต่เมื่อได้มาเจอกับเพื่อน ๆ ที่รับซ่อมกล้องฟิล์ม และได้รับคำแนะนำให้ทำความรู้จักกับเจ้าของร้าน The eye focus camera cafe เขาจึงลองเปิดใจเรียนรู้เกี่ยวกับการซ่อมกล้องฟิล์ม จากการทดลองกลายมาเป็นความรัก และทำให้เขาได้ใช้เวลาฝึกฝนด้านนี้เป็นเวลาเกือบ 10 ปี ก่อนจะมาเปิดร้านของตัวเองได้สำเร็จในที่สุด


RES-Y FOCUS
Mega Plaza สะพานเหล็ก ชั้น 5
โทร. 08-4488-3899
www.facebook.com/theresyfocus

15

ซ่อมกล้องฟิล์ม by ดนัยค้าขายกล้อง

 

ซ่อมกล้องฟิล์ม by ดนัยค้าขายกล้อง (Photo by www.facebook.com/repairfilmcamera)

ชีวิตการเป็นช่างซ่อมกล้องฟิล์มของเจ้าของร้านดังกล่าว เริ่มจากความหลงใหลในรูปทรงและการออกแบบของกล้องฟิล์มยุคสมัยเก่า จนเขาได้เริ่มเสาะหากล้องฟิล์มเก่า ๆ ที่ไม่สามารถใช้งานได้ มาทำความเข้าใจกับกลไกลการทำงานภายในกล้องฟิล์ม โดยอาศัยการเรียนรู้จากการสงสัยและหาคำตอบจากช่างซ่อมหลาย ๆ คน แล้วมาลองฝึกฝนด้วยตัวเอง รวมระยะเวลากว่า 7 ปี จนกระทั่งได้กลายมาเป็นช่างซ่อมกล้องฟิล์มในปัจจุบัน ทางร้านเปิดให้บริการรับซ่อมกล้องหลากหลายเคส ทั้งซ่อมตัวกล้องฟิล์ม ล้างระบบชัตเตอร์ (CLA) ล้างเลนส์ รวมถึงการเปลี่ยนอะไหล่ต่าง ๆ โดยสามารถส่งกล้องไปให้ช่างซ่อมได้ พร้อมให้คำแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับกล้องฟิล์มสำหรับคนที่สนใจอีกด้วย


ซ่อมกล้องฟิล์ม by ดนัยค้าขายกล้อง
อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
โทร. 06-2258-2542
www.facebook.com/repairfilmcamera

เพจสำหรับคนรักฟิล์ม

I use film

I use film เพจสำหรับคนรักกล้องฟิล์ม ที่เสมือนเป็นคอมมูนิตี้ดี ๆ ให้กับคนรักกล้องฟิล์มได้ติดตาม โดยทางเพจจะมีการแนะนำความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับกล้องฟิล์ม หรือสีฟิล์มในม้วนต่าง ๆ ให้เป็นความรู้และทักษะการใช้กล้องฟิล์ม 

 

I use film (Photo by www.facebook.com/iusefilmphotos)

 

I use film (Photo by www.facebook.com/iusefilmphotos)

พร้อมด้วยกิจกรรมมากมายจากทางเพจ เป็นเหมือนการเปิดโอกาสให้คนที่รักกล้องฟิล์มได้มาพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ทำให้เห็นว่ากระแสความนิยมของตลาดกล้องฟิล์มได้กลับมาอีกครั้งในหมู่วัยรุ่น


I use film
www.facebook.com/iusefilmphotos

 

(Photo by https://unsplash.com)

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับทุกเรื่องราวเกี่ยวกับกล้องฟิล์มที่ได้นำเสนอไป จะเห็นได้ว่าทุกกระบวนการของการถ่ายภาพฟิล์ม นับตั้งแต่การถ่ายภาพไปจนถึงการล้างฟิล์ม ต้องอาศัยความอดทน ระยะเวลา ความประณีต และสมาธิ ซึ่งกว่าจะได้มาแต่ละภาพ ต้องเกิดจากความตั้งใจ เหมือนเป็นการสร้างความทรงจำอันมีค่า เพราะส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่ได้มายาก เราย่อมจดจำได้ตลอดไป หลังจากนี้ BKK. ก็เชื่อว่าไม่ว่า Film Camera Lover หรือใครก็ตามที่หันมาใช้กล้องฟิล์ม จะเพลิดเพลินและประทับใจไปกับการบันทึกภาพความทรงจำอันแสนคลาสสิกนี้เช่นเดียวกัน