มาร่วมตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความสุขกับบทเพลงละมุนชวนฝันของสองสาว LANDOKMAI ไปพร้อมกันผ่าน ‘Magic Hour Playlist’ ที่นอกจากศิลปินจะได้ร่วมแนะนำ Playlist เพลงเพราะ ๆ ที่ทำให้ทั้งสองคนหวนคิดถึง Magical Moment หรือช่วงเวลาแห่งความสุขให้ฟังกันแล้ว บทสัมภาษณ์ต่อจากนี้ยังได้นำพาเพลงของสองสาวเข้าไปอยู่ใน Magic Hour ของคุณด้วยเช่นกัน
สองสาว LANDOKMAI คือนักศึกษาสาวจากรั้ววิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เริ่มต้นวงดนตรีและเมโลดี้หวานชวนฝันมาจากความบังเอิญ เหมือนที่หลาย ๆ คนอาจบังเอิญกดเข้าไปฟังเพลง Cover ที่สองสาวอัดเล่นกันในหอพักเป็นครั้งแรก จนกระทั่งประสบความสำเร็จ ก่อนจะมีซิงเกิลเพลงของตัวเองเรื่อยมาไม่ว่าจะเป็น เก็บดอกไม้, The Diary, On The Train, Please Be True และ ฉันเอง..นี่ไง It's me บทเพลงล่าสุดหลังจากที่ย้ายบ้านเข้าไปเป็นสมาชิกใหม่แห่งค่าย What The Duck ในปัจจุบัน
พรหมลิขิตที่ทำให้สองสาวมาเจอกันโดยบังเอิญ
"ด้วยความที่เราสองคนเรียนอยู่คณะเดียวกัน แอนท์เรียนธุรกิจดนดรี แต่อูปิมเลือกเรียน Perform เพื่อที่จะมาเป็นนักดนตรี วันนั้นทางมหาวิทยาลัยเกิดส่งข้อมูลแบบฟอร์มนักศึกษามาผิด เป็นของอูปิมและเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งชื่อของอูปิมคือ 'ลานดอกไม้' ซึ่งเราชอบมาก และบังเอิญว่ารหัสนักศึกษาของเราติดกัน จึงตัดสินใจเอาเบอร์โทรไปแอดไลน์ทำความรู้จัก ก่อนจะตัดสินใจเป็นรูมเมตกันค่ะ" แอนท์เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสดใสถึงที่มาของลานดอกไม้ โดยเธอเชื่อว่านี่คือ 'พรหมลิขิต' ที่ทำให้เธอได้มาเป็นเพื่อนกับอูปิม
อูปิมเล่าต่อว่า "ตอนเป็นรูมเมตกันวันว่าง ๆ พวกเราก็หยิบกีตาร์มาเล่น แล้วหนูก็ร้องเพลง เลยตัดสินใจว่าเรามา Cover เพลงอาวรณ์ของ Polycat ลง Youtube กันไหม? ปรากฏว่าได้กระแสตอบรับดี เราอยากมีเพลงของตัวเอง ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของวง 'ลานดอกไม้' มาจนถึงปัจจุบันค่ะ"
'ลานดอกไม้' กับความหมายดี ๆ ที่ซ่อนอยู่
LANDOKMAI คือชื่อจริงของอูปิม ที่แอนท์เป็นคนเลือกให้มาเป็นชื่อวง โดยให้เหตุผลทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้ว่าเหมือนเป็นคำนิยามของธรรมชาติบางอย่าง ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า 'ลานดอกไม้' มีความหมายถึงลานกว้าง ๆ ที่มีดอกไม้ แต่จริง ๆ แล้วลานดอกไม้เป็นภาษาล้านนาเมืองเหนือ ที่หมายถึง 'ลานหู' หรือ 'ต่างหูที่เป็นรูปดอกไม้' ด้วยความที่คุณพ่อของอูปิมเป็นนักกวี จึงมีสำนวนและศิลปะการใช้ภาษาที่นำไปสู่การตั้งชื่อของลูกสาวอันเป็นที่รัก เมื่อมีโอกาสได้มาทำเพลงด้วยกัน ทั้งสองจึงตั้งใจใช้ชื่อและคาแร็กเตอร์ของอูปิมมาเป็นชื่อของวง เพราะคิดว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
บทเพลงหวานซึ้งและท่วงทำนองของดนตรีที่ไม่มีคำจำกัดความ
"งานเพลงและทุกอย่างทำออกมาโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่แรก จนถึงวันนี้เราก็อธิบายอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้ว่าเพลงที่เราทำมันเรียกว่าสไตล์อะไร ถ้าพูดแบบครอบคลุมที่สุดคงเป็น 'อินดี้ป็อป' ที่เราตั้งใจอยากผสมผสานความวินเทจแบบยุคเก่าเข้าไป"
ทุกบทเพลงที่ถ่ายทอดออกมา สองสาวรับหน้าที่แต่งคำร้องและทำนองกันเอง เมื่อถามถึงเบื้องหลัง Performance ที่สะกดใจคนฟังทุก ๆ ครั้งที่ก้าวขึ้นไปทำการขึ้นแสดงอย่างไม่เขินอาย และค่อย ๆ เติบโตมาเป็นศิลปินแบบเต็มตัวได้ไม่นานมานี้นั้น ทั้งคู่ก็ได้เผยคำตอบว่า
"ด้วยสิ่งที่เรียนมา พอเราอยู่ในคณะที่ทุกคนล้วนเล่นดนตรี เดินเข้าคณะก็ได้ยินเสียงดนตรีแล้ว มันเลยทำให้เราคุ้นชินกับการเล่นดนตรี ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พอมาเป็น LANDOKMAI เราจึงเอาความชอบและความสามารถที่ต่างคนต่างมีอยู่มาบาลานซ์ร่วมกัน อย่างอูปิมจะเรียนเอก Voice ส่วนแอนท์เลือกกีต้าร์ไฟฟ้าเป็นเครื่องเอกในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะธุรกิจดนตรี การจะทำเพลงออกมาสักเพลง ต้องมีการ Discuss ร่วมกันว่าอยากให้เพลงออกมาเป็นแบบไหน แมสเสจไหนที่คนจะเข้าใจง่าย ซึ่งค่อนข้างเป็นการทำงานที่ดูโตมากสำหรับเราสองคน เพราะมันเป็นการแยกแยะอารมณ์และเหตุผลออกมา"
เอกลักษณ์ของการใช้ถ้อยคำสละสวย
จากถ้อยคำต่าง ๆ ที่ได้ฟังในบทเพลง ทั้งสองย้ำกับเราอีกครั้งว่าเกิดจากความไม่ตั้งใจ จึงเดาได้ไม่ยากว่าแรงบันดาลใจส่วนใหญ่นั้นเกิดจากคาแร็กเตอร์สาวช่างฝันของอูปิม เร่ิมมาจากพื้นฐานครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นนักกวีที่ปลุกเธอทุกครั้งยามเช้าด้วยบทกลอนสละสลวย รวมไปถึงบรรยากาศรอบตัวของเธอที่เติบโตมาจากเชียงใหม่ ซึ่งรายล้อมไปด้วยเสียงของธรรมชาติ ดอกไม้ ท้องฟ้า และความหวังที่ตกตะกอนเป็นคำร้องในทุกบทเพลง ในขณะที่แอนท์เกิดและเติบโตในกรุงเทพมหานคร ภายใต้กรอบความคิดของการใช้ชีวิตในสังคมเมืองหลวง ทั้งสองจึงเป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มเพลงของกันและกันให้สมบูรณ์แบบ และมีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเอง
Magic Hour Special Playlist Selected by LANDOKMAI
"การได้แชร์เพลย์ลิสต์ของพวกหนู ก็แอบคาดหวังเล็ก ๆ ว่าทุกคนจะชอบเหมือนกันกับเราไหมนะ เพลงบางเพลงหนูต้องใช้เวลาฟังมันนานมาก ๆ ฟังละเอียดให้ได้ยินทุกเสียง ทุกโน๊ตจนซึมเข้าไปในใจ เหมือนการฟังเพลงของพวกเรามันคือการใฝ่รู้ใฝ่เรียนบางอย่างจากเพลง เลยเป็นเพลงที่เราไม่ได้ฟังเหมือนคนอื่น อาจจะเพราะเรียนดนตรีด้วย เราเลยฟังเพราะต้องการเสพศิลป์ของดนตรีไปอีกขึ้นหนึ่ง"
ฉะนั้นแล้วหลาย ๆ เพลงที่พวกเธอชอบฟัง นอกจากจะเป็นไปในลักษณะของการเสพศิลป์ทางดนตรีแล้ว แต่ละเพลงยังแฝงไปด้วยนัยยะของความหมายลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ อย่าง 'To Let A Good Thing Die' ของ Bruno Major ที่แอนท์บอกว่าเธอชอบตั้งแต่ชื่อเพลงไปจนถึงความหมายของเพลง ที่บอกเล่าว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรยั่งยืน แรงโน้มถ่วงของโลกต่างนำพาทุกอย่างหมุนเข้าหาและออกห่างจากกัน ส่วนอูปิมนั้นได้เลือกเพลง 'Marigolds' ของ Emily King จากซาวน์ดนตรีและภาษาที่ใช้ในการเขียนเพลงที่ชวนอบอุ่นหัวใจ และเชื่อว่า Magic Hour ของทุกคนจะเกิดขึ้นเมื่อได้ฟังเพลงนี้อย่างแน่นอน
'ไม่จำเป็นที่เราต้องไปหาคำตอบ แค่เข้าใจในการเติบโตของทุกอย่าง เข้าใจในธรรมชาติที่โลกนี้เป็นก็พอ'
"มีเพลงใหม่ของพวกเราที่คิดว่าเหมาะจะเป็น Magic Hour ของใครหลาย ๆ คน ชื่อเพลงว่า 'Our Unset' ที่หมายถึงดวงอาทิตย์ของพวกเราทุกคน โดยเฉพาะคีย์เวิร์ดสำคัญที่พูดว่า 'ทุกสิ่งจะสวยงามเมื่อเราเข้าใจ' หนูเชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่มักจะหลงลืมความสำคัญของประโยคนี้ไป เมื่อคุณรู้สึกท้อแท้หรือหาคำตอบไม่ได้สักทีกับปัญหาที่อยู่ตรงหน้า จริง ๆ มันง่ายมากไม่จำเป็นที่เราต้องไปหาคำตอบ แค่เข้าใจในการเติบโตของทุกอย่าง เข้าใจในธรรมชาติที่โลกนี้เป็นก็พอ หนูฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกว่ามันปลดล็อกบางอย่างในใจ และค่อนข้างสรุปทุกคำตอบของชีวิตได้เมื่อคุณได้ลองฟัง ซึ่ง Our Sunset เป็นเพลงที่กำลังจะออกใหม่ อยากให้ลองติดตามกันในเร็ว ๆ นี้"
อนาคตบทเพลงของ LANDOKMAI ที่เติบโตขึ้นไปตามยุค
"เราไม่อยากนิยามว่าเพลงของเรามันคืออะไรแบบตายตัว ฉะนั้นในอนาคตอาจเป็นเพลงที่โตขึ้น ทั้งเนื้อหาและความชอบของพวกเราที่เปลี่ยนไปตามยุค อย่างเพลงเเรก 'เก็บดอกไม้' เราเริ่มจากกีตาร์เพียงตัวเดียว จนตอนนี้ 'ฉันเองนี่ไง..It's Me' มันกลายเป็นฟูลแบรนด์ที่มีทั้งกลอง เครื่องเป่า เครื่องสาย ถ้าต่อจากนี้จะมากขึ้นหรือน้อยลง ก็ให้เป็นเรื่องของอนาคต ที่เรายังคงให้คำตอบไม่ได้ว่าเราจะมองเห็นอะไร"
ก่อนจากกันไปทั้งสองคนได้ฝากอัลบั้ม EP สั้น ๆ 4 บทเพลงจากค่าย What The Duck ที่จะปล่อยให้ฟังกันแบบครบถ้วนเร็ว ๆ นี้ทุกสตรีมมิง และอย่าลืมชม Music Video ที่ LANDOKMAI และทีมงานต่างทุ่มเท ทำกันออกมาอย่างตั้งใจ
ติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของ ‘LANDOKMAI’ ได้ทาง www.facebook.com/landokmai และ Youtube Channel : LANDOKMAI และ Whattheduck