Published on April 12, 2023

Friendly French Restaurant with A Parisian Attitude Modern Cuisine

ฉีกกฏอาหารฝรั่งเศสรูปแบบเดิม ๆ เพิ่มเติมประสบการณ์ไดน์นิ่งในบรรยากาศสุดโมเดิร์นที่มอบความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองกว่าที่เคยไปกับ Bisou Bangkok ร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์ Gastro Wine Bar น้องใหม่ในย่านหลังสวน ที่ก่อตั้งขึ้นโดยคู่หูชาวฝรั่งเศส ‘อองตวน ดัคเกียง (Antoine Darquin)’ เชฟหนุ่มชาวปารีสผู้มีประสบการณ์จากร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งหลายแห่งทั้งในยุโรปและกรุงเทพฯ และ ‘ธีโอ ลาแวร์ญ (Théo Lavergne)’ ซอมเมอลิเยร์คลื่นลูกใหม่ผู้มีประสบการณ์จากร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินมาแล้ว ทำให้การบริการที่ร้าน Bisou Bangkok แห่งนี้ ให้บริการอาหารแบบ ‘ไร้พรมแดน’ ซึ่งมีผสมผสานระหว่างอาหารแนวตะวันตกและกลิ่นอายแนวตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมด้วยรายการไวน์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตไวน์ฝีมือดี และไวน์หายากจากกรรมวิธีการทำไวน์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักจากพื้นที่ผลิตที่ไม่มีใครเหมือน

 

บรรยากาศด้านนอกร้านเป็นบ้านสีขาวที่ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนได้มาเลี้ยงสังสรรค์บ้านเพื่อน

Keep it simple, Sexy!

การสร้างสรรค์บรรยากาศภายในร้าน Bisou Bangkok นั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศร้านอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงปารีส ซึ่งผู้คนมานั่งรับประทานอาหาร และแลกเปลี่ยนบทสนทนาจนเป็นวิถีชีวิต ทำให้ที่นี่ได้เลือกนำเอากลิ่นอายของร้านอาหารในปารีสมาถ่ายทอดสู่กรุงเทพฯ

 

ตกแต่งร้านในสไตล์โมเดิร์น

สำหรับบรรยากาศชั้นล่างของร้านจะเน้น Vibes ของความสนุกที่มาพร้อมกับมุมบาร์ค็อกเทล มีหนุ่มบาร์เทนเดอร์ชาวฝรั่งเศสคอยเสิร์ฟซิกเนเจอร์ค็อกเทลให้ได้จิบอุ่นเครื่องก่อนเริ่มมื้ออาหารค่ำ ตามมาด้วยมุมนั่งรับประทานอาหาร ซึ่งมีฉากหลังเป็นภาพโปสเตอร์สัญลักษณ์ของ ‘Bisou’ แนวสตรีทแฟชั่นที่มาช่วยสร้างสีสันภายในร้าน

 

โซนบาร์ค็อกเทลสุดชิค

 

บาร์เทนเดอร์หนุ่มชาวฝรั่งเศส กำลังครีเอตซิกเนเจอร์ดริงก์ด้วยความตั้งใจ

Bisou เป็นคำศัพท์แสลงที่แปลว่า ‘จูบ’ ในภาษาฝรั่งเศส แต่เป็นจูบที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดสำหรับเพื่อนหรือคนในครอบครัว เช่นเดียวกับการเป็นไวน์บาร์ที่ดี ไวน์บาร์นั้นจะเป็นสถานที่ให้คนแปลกหน้าสามารถมานั่งดื่มและเริ่มพูดคุยกันจนทำให้คุณรู้สึกคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการมาเยือนครั้งแรก หรือจะเป็นการนัดพบหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานก็ตาม
 

โซนนั่งรับประทานอาหารบริเวณชั้นล่างในบรรยากาศสุดโมเดิร์น

 

โซนนั่งรับประทานอาหารสุดส่วนตัวบริเวณชั้นล่าง

ส่วนชั้นบนเป็นห้องเก็บไวน์ที่ทุกคนสามารถเดินเข้าไปดูและหยิบไวน์ขวดที่ชื่นชอบเองได้ สอดรับกับพื้นที่นั่งรับประทานอาหารอีกหนึ่งบรรยากาศที่ดูโปร่งโล่งสบาย อบอุ่น และเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น 

 

โซนนั่งรับประทานอาหารสุดส่วนตัวบริเวณชั้นบนที่เผยให้เห็นบรรยากาศของห้องเก็บไวน์อย่างใกล้ชิด

 

โซนนั่งรับประทานอาหารในอีกหนึ่งบรรยากาศ บริเวณชั้นบนของร้าน

การเสิร์ฟเครื่องดื่มของทางร้าน เหมาะสำหรับคนชอบการผจญภัยในโลกของการดื่ม ไวน์ลิสต์ของร้าน Bisou Bangkok คุณธีโอจะเป็นผู้คัดสรรรายการไวน์อย่างดี ทำให้ไวน์ที่นี่มีการอัพเดตและสับเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำเสนอสไตล์ของไวน์ที่หลากหลายจากพื้นที่ทำไวน์ใหม่ ๆ ตลอดจนการคัดเลือกไวน์ที่รังสรรค์จากกรรมวิธีการทำซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ไม่ว่าจะเป็นการทำแชมเปญ หรือการทำไวน์จากคนทำไวน์ฝีมือดี ซึ่งผลิตจำนวนจำกัด ทำให้การคัดสรรไวน์เหล่านี้เป็นการเฉลิมฉลองให้กับผู้ผลิตไวน์จากสถานที่ต่าง ๆ เป็นการให้ความสำคัญกับรสชาติมากกว่ายี่ห้อของไวน์ ที่นี่นับเป็นหมุดหมายสำหรับผู้ชื่นชอบไวน์และการทำอาหารโดยปราศจากข้อจำกัดใด ๆ อย่างแท้จริง
 

ขวดไวน์บาร์แบบต่าง ๆ ที่ทางร้านนำมาวางโชว์ไว้ในอ่างอาบน้ำ ได้บรรยากาศของการปาร์ตี้ตามแบบฉบับ Gastro Wine Bar ของชาวฝรั่งเศส

A Modern Taste of France with A La Carte Menus

ด้วยประโยคประจำของร้านคือ “K.I.S.S - Keep It Simple, Sexy” เหล่านักชิมทั้งหลายจะได้พบกับเมนูอาหารแบบ A La Carte ที่มีความพิเศษ เย้ายวน แตกต่าง แต่ก็ยังคุ้นเคยอย่างน่าแปลกใจ เพราะที่นี่ได้มีการผสมผสานอาหารสัญชาติฝรั่งเศสเข้าไว้กับอาหารสัญชาติอื่น ๆ ไว้ได้อย่างลงตัว ผ่านการสร้างสรรค์จานอาหารหลากหลายประเภท โดยเน้นเลือกใช้ส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่ดีสุดของฤดูกาลมาครีเอตเป็นอาหารจานพิเศษภายใต้แนวคิด ‘cuisine d'auteur’ ซึ่งเป็นอาหารสุดสร้างสรรค์ที่บรรดาเชฟคลื่นลูกใหม่ในฝรั่งเศสได้บัญญัติขึ้นเอง

ร้าน Bisou Bangkok จึงเป็นร้านอาหาร Casual Fine Dining ในบรรยากาศสบาย ๆ แบบฝรั่งเศสสมัยใหม่ ที่ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวในเรื่องของอาหาร บรรดาผู้มาเยือนจะได้ลิ้มรสอาหารที่เปิดกว้างเรื่องแนวคิดการปรุงแบบไร้ขอบเขต โดยทีมเชฟรุ่นใหม่ที่ค้นหาวัตถุดิบคุณภาพสูง และดีที่สุดของฤดูกาลมานำเสนอ สื่อถึงการพัฒนาเรื่องเมนูอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับผู้ที่เข้ามารับประทานอาหาร ทั้งแบบคนเดียวและแบบแชร์ริ่งความอร่อยจบครบในแห่งเดียว

 

โซนบาร์ค็อกเทล

เริ่มต้นเสิร์ฟความอร่อยกันที่ขนมปังซาวร์โดว์ ซึ่งทางร้านจะเสิร์ฟเป็นในลักษณะของ Complimentary ให้รับประทานเรียกน้ำย่อยก่อนตามธรรมเนียมของชาวฝรั่งเศส ตามมาด้วยเมนูซิกเนเจอร์แนะนำน่าลองอย่าง BFC, Bisou Fried Organic Chicken, Shichimi & Salmon Roe (330 บาท) ไก่ทอดประจำร้าน Bisou ที่มีการผสมผสานวัตถุดิบระหว่างของฝรั่งเศสกับเอเชีย โดยเป็นน่องไก่ที่นำมาหมักกับบัตเตอร์มิลก์ ตามแบบฉบับการปรุงอาหารของทางฝรั่งเศส ส่วนตัวซอสนั้นจะเป็นเฮิร์บซาวร์ครีมที่ให้รสชาติค่อนไปทางสไตล์เอเชียน คล้ายกับอาหารเกาหลี ท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน รวมกันเป็นอาหารสไตล์เอเชียนทวิสต์ที่ให้รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม เท็กซ์เจอร์กรอบนอกนุ่มใน ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ!

 

BFC, Bisou Fried Organic Chicken, Shichimi & Salmon Roe (330 บาท)

จากนั้นถัดมาที่จานยอดนิยมกับเมนู Truffle French Toast (2 Pieces) (590 บาท) เฟรนช์โทสต์ (Milk Bread) ที่ทางร้านอบเองแบบสดใหม่เข้ากับเนยหอม ๆ ด้านล่างจะเป็นพาร์เมซานคัสตาร์ด ท็อปด้วยเฟรนช์ทรัฟเฟิลสไลซ์ และซอสทรัฟเฟิลที่ผสมผสานความเข้มข้นเข้ากับหมึกดำ ให้รสเค็ม ๆ มัน ๆ ตัดกับรสหวานนิด ๆ พร้อมสัมผัสนุ่มละมุนของเนื้อขนมปังได้เป็นอย่างดี

 

Truffle French Toast (2 Pieces) (590 บาท)

ส่วนใครที่กำลังมองหาเมนูสลัดสดชื่น ๆ ไว้รับประทานระหว่างมื้อ ต้องลอง Akami Tuna, Fennel and Preserved Lemon (450 บาท) สลัดทูน่า ที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อทูน่านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น แล่จากส่วนบริเวณหางของปลา มิกซ์ความอร่อยเข้ากับแอปเปิ้ล, ผักชีล้อม (Fennel) ที่ให้กลิ่นหอมของสมุนไพร และมะนาวดอง ซึ่งเป็นวัตถุดิบตามฤดูกาล แล้วท็อปด้วยทูน่าสไลด์ที่เสิร์ฟมาแบบเน้น ๆ เลมอนเจล ควินัว แอปเปิ้ลเจล ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว เข้ากับเนื้อทูน่าอย่างลงตัว

 

Akami Tuna, Fennel and Preserved Lemon (450 บาท)

หรือจะเป็น Red Endives Salads with Ginger Vinaigrette, Grapes, & Tete de Moine (330 บาท) สลัดผักเอนไดฟ์ (ผักเมืองหนาวในวงศ์เดียวกับอาร์ติโช้ค) ที่คลุกเคล้าเข้ากับเดรสซิ่ง Ginger Vinaigrette พร้อมด้วยส่วนผสมของผักสมุนไพรของเอเชียกว่า 20 ชนิด อาทิ แครอท น้ำส้ม ใบมิโสะ และขิง แต่ใช้เทคนิคการปรุงในสไตล์ฝรั่งเศส เสิร์ฟความอร่อยมาพร้อมกับองุ่นแดงและ Tete de Moine ชีสของทางฝรั่งเศส ที่รวมกันแล้วได้ทั้งความสดชื่น รสชาติกลมกล่อมลงตัว

 

Red Endives Salads with Ginger Vinaigrette, Grapes, & Tete de Moine (330 บาท)

แล้วตบท้ายด้วยเมนูแนะนำประจำซีซั่นนี้กับจานไฮไลต์ Seasonal Dish : The White Asparagus (490 บาท) จานไฮไลต์ที่มีเสิร์ฟตามฤดูกาล (เฉพาะหน้าร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 2566 นี้) เท่านั้น หน่อไม้ฝรั่งขาวที่เสิร์ฟมากับชีสพาร์เมซานไอโอรี่ ให้รสมัน ๆ ครีมมี่นิด ๆ ตัดกับรสชาติของหน่อไม้ฝรั่งที่ความหวานมัน สัมผัสสดกรอบ ท็อปตามด้วยเฮเซลนัทคั่วกรุบกรอบ และชิคเก้นจูส์รสเข้มข้น รวมเป็นการผสมผสานรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เข้ากันอย่างพอดิบพอดี

 

Seasonal Dish : The White Asparagus (490 บาท)

แน่นอนว่าเมนูอาหารต่าง ๆ ที่ทางร้านเลือกเสิร์ฟจะเน้นรับประทานง่าย ซึ่งสามารถแมตช์คู่ความอร่อยได้เข้ากันกับไวน์ แต่สำหรับใครที่ไม่ถนัดดื่ม ก็สามารถเลือกสั่งเป็นซิกเนเจอร์ค็อกเทลมาดื่มควบคู่ไปกับมื้ออาหารก็ดีงามไม่แพ้กัน โดยซิกเนเจอร์ค็อกเทลแต่ละแก้ว จะตั้งชื่อตามเหล่าสตรีที่มีชื่อเสียงจากแวดวงต่าง ๆ อาทิ Cocktail Signature : YOKO ONO (400 บาท) เครื่องดื่มมีส่วนผสมของสาเก ส้มยูซุ ลาเวนเดอร์ และฟองไข่ขาว ให้รสนุ่มละมุน ดื่มง่าย ให้ความสดชื่นผ่อนคลายแบบเบา ๆ

 

Cocktail Signature : YOKO ONO (400 บาท)

ท้าชิงตำแหน่งดริงก์ที่มาบูสต์ความเฟรชด้วย Cocktail Signature : JANE BIRKIN (400 บาท) เครื่องดื่มมีส่วนผสมของจิน ไวน์ขาว แซฟฟรอน และน้ำเลมอน ให้รสหวานอมเปรี้ยว ระหว่างที่ดื่มให้ความหอมสดชื่นของเลมอนแบบเต็มคำ

 

Cocktail Signature : JANE BIRKIN (400 บาท)

เรียกได้ว่ามากินดื่มที่ Bisou Bangkok แห่งเดียว ได้รับประสบการณ์การไดน์นิ่งในอีกมุมหนึ่งของชาวฝรั่งเศส ซึ่งมาพร้อมกับบรรยากาศที่แตกต่าง เป็นการเปิดบ้านต้อนรับเหล่านักชิมผู้ชื่นชอบความรื่นรมย์แบบไม่มีพิธีรีตอง เพื่อให้การรับประทานอาหารมื้อพิเศษนั้นเต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน ชวนประทับใจ และเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุด

Must Read!
  • ทางร้านแนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ได้มุมนั่งรับประทานอาหารและพื้นที่รับรองที่เหมาะสมกับมื้ออาหารนั้น ๆ มากที่สุด
  • เนื่องจากทางร้านมีพื้นที่หลากหลายโซน ผู้ที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งสำหรับการจัดงานแบบไพรเวทได้ตามความต้องการ
Info
Hours
Open : 5:30PM - 12AM
Sun : 5:30PM - 12AM
Mon : 5:30PM - 12AM
Tue : Closed
Wed : 5:30PM - 12AM
Thu : 5:30PM - 12AM
Fri : 5:30PM - 12AM
Sat : 5:30PM - 12AM
Price

฿฿฿฿฿ 1,001-2,000 บาทต่อคน

Address
68/9 ถนนเพลินจิต ซอยหลังสวน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

MRT ลุมพินี

BTS ชิดลม

BTS เพลินจิต

Facilities
Suggest an Edit